คำชะโนดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจเดินทางไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก ด้วยความที่เดินทางมาสักการะแล้วสมมาตรปรารถนากันไปหลายคนแล้ว การเดินทางมาที่นี่ของเรา เกิดจากการที่เพื่อนที่ทำงานด้วยกันเป็นคนในพื้นที่นี้และกำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้านในวันหยุดยาว 3 วัน จึงได้ชวนกันไปเพราะด้วยความโด่งดังของคำชะโนดในเวลานั้น ซึ่งก็เป็นเวลาผ่านมาแล้วประมาณ 3 ปีค่ะ คำชะโนดที่เราพูดถึงนี้อยู่ในวัดป่าคำชะโนด หรือวัดศิริสุทโธ ซึ่งเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ลี้ลับและอาถรรพ์ กับตำนานเรื่องเล่าสืบต่อกันมาช้านาน ที่ว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนของพญานาค โดยท่านชอบฟังธรรมะและชอบแปลงร่างเป็นคนธรรมดาออกมาฟังเทศน์บ่อย ๆ มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "เจ้าปู่ศรีสุทโธ" และ "เจ้าย่าศรีปทุมมา" ซึ่งเป็นชายาของท่านค่ะ ภาพโดย : ผู้เขียน การเดินทางไปที่คำชะโนดของหมู่คณะเรามีทั้งหมด 7 คนด้วยกัน ตั้งใจว่าจะเข้าไปสักการะคำชะโนดช่วงบ่ายและช่วงเย็น ๆ ก็แวะตลาดซื้ออะไรเข้าไปกินกัน เพราะคิดว่าถ้าไปแต่เช้าคนน่าจะเยอะ แต่ก็เป็นความคิดที่ผิดไปมาก เพราะรถติดมาก ๆ ถึงแม้ช่วงนั้นจะเป็นเวลา 15:00 น. แล้วก็ตาม ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มรถทัวร์คันใหญ่เหมาคันกันมาทั้งนั้นเลยค่ะ เมื่อฝ่ารถติดและทำการจอดรถเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินไปในส่วนของวัดผ่านตลาดที่มีแผงขายของประเภท เครื่องประดับและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มีสินค้า OTOP ของจังหวัดอุดรธานีมาวางขายกันเป็นจำนวนมากค่ะ จากนั้นก็เข้าไป บูชาดอกไม้ ธูป เทียน เพื่อนำไปกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมากันค่ะ และก็ไปในส่วนของป่าคำชะโนดซึ่งจะต้องถอดรองเท้าก่อนจะขึ้นสะพานที่เป็นรูปพญานาค เข้าไปสู่ป่าคำชะโนดที่เต็มไปด้วยต้นคำชะโนดซึ่งมีลักษณะจะว่าคล้ายต้นตาลก็ไม่ใช่ จะว่าคล้ายต้นหมากก็ใกล้เคียงค่ะแต่ว่าต้นจะใหญ่กว่ามากและในส่วนของใบก็ไม่ใช่อยู่ดี แต่เอาเป็นว่าต้นคําชะโนดนั้นก็มีความเฉพาะเจาะจงอยู่ในตัวของมันเองเป็นพอค่ะ ภาพโดย : ผูเขียน ส่วนของป่าคำชะโนดแห่งนี้เชื่อกันว่าเป็นเกาะลอยน้ำ เพราะในฤดูน้ำหลากเกาะแห่งนี้ไม่เคยถูกน้ำท่วมเลยนั่นเอง กว่าจะฝ่าฝูงชนบนสะพานเข้ามาในส่วนของป่าได้ก็ทุลักทุเลพอสมควร เมื่อเข้ามาในป่าแห่งนี้อากาศค่อนข้างชื้นและเย็นสดชื่นดีค่ะ จากที่ข้างนอกแดดค่อนข้างแรงเมื่อเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้ แสงแดดแทบจะส่องไม่ถึงพื้นดินเลยทีเดียว เพราะความแน่นหนาของต้นคำชะโนด เข้ามาในส่วนของป่าคำชะโนดได้แล้วก็ไปกราบสักการะเจ้าปู่ศรีสุทโธที่ศาลของท่านกันค่ะ นอกจากดอกไม้ธูปเทียน ก็ยังมีพานดอกไม้และบายศรีที่ถูกนำมาไหว้แก้บนสำหรับคนที่สมหวัง และคนที่ยังไม่สมหวังแต่อยากสมหวังนั่นเอง นอกจากศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธข้าง ๆ ก็มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่พอสมควรซึ่งมีน้ำใสมาก ๆ เห็นเขาเรียกกันว่า "ปล่องพญานาค" คนที่เข้ามาก็จะเอาลูบหน้าลูบตัว หรือประพรมไปทั่วร่างเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัว หรือบางคนก็พกขวดมาด้วยเพื่อนำน้ำนี้กลับไปบูชา ผสมน้ำอาบและดื่มที่บ้านอีกด้วยค่ะ ส่วนเรานั้นนำมาแตะที่หน้าผาก 1 ทีแล้วก็ขยับออกมาเพื่อให้คนอื่น ๆ ได้เข้าไปเพราะคนเยอะและแน่นมากค่ะ ในพื้นที่ป่าจะมีสะพานไม้เพื่อให้สามารถเดินชมพื้นที่ได้สะดวกและบางพื้นที่ก็เป็นพื้นที่ห้ามเข้าที่ถูกกักกั้นไว้ สำหรับเราแล้วส่วนใหญ่จะเข้าไปเดินชมมากกว่าค่ะ และส่วนท้ายของอีกฟากหนึ่งห่างจากศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธไม่มาก ก็มีต้นไทรที่แผ่รากออกมาอย่างสวยงามและกว้างขวาง ถูกประดับประดาด้วยผ้าหลากสีและขาวโพลนไปด้วยแป้งจากฝีมือของกลุ่มคนที่มาขอหวยกันนั่นเอง ภาพโดย : ผู้เขียน จากที่แดดเปรี้ยง ๆ อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จึงได้ทยอยพากันออกมาจากพื้นที่ของป่าคำชะโนดแต่กว่าจะออกมาได้เราก็พากันเปียกไปทั้งตัวแล้วล่ะค่ะ ออกมารอให้ฝนหยุดเราก็พากันเดินทางกลับค่ะ ซึ่งเมื่อออกมาจากพื้นที่วัดกลับไม่มีวี่แววและร่องรอยของฝนตกเลยแม้แต่นิดเดียว แวะซื้อของที่ตลาดแม่ค้ายังได้ถามว่าไปเล่นสงกรานต์ที่ไหนกันมาเพราะแต่ละคนพากันเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า เราก็ยังได้ตอบแม้ค้าไปแบบงง ๆ ว่า "ฝนตกที่คำชะโนดค่ะ" แม่ค้าบอกว่า "ที่นี่ไม่เห็นจะตกเลยสักเม็ดแดดยังเปรี้ยงอยู่เลย" ซึ่งเหตุการณ์นี้เราก็ถือว่าเป็นวาระที่ดีนะคะถือว่าได้รดน้ำมนต์จากเจ้าปู่ศรีสุทโธเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเราอีกด้วยค่ะ ภาพโดย : ผูเขียน มาที่คำชะโนดนี้ไม่ได้ขออะไรมากมายเป็นพิเศษ นอกจากขอท่านว่า เดินทางท่องเที่ยวไปไหนมาไหนก็ขอให้เดินทางสะดวกปลอดภัยตลอดการเดินทาง ขอให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขและขออนุญาตเยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของท่านด้วยค่ะ การเดินทางที่ดีต้องอยู่ในความไม่ประมาทนะคะ การขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เพื่อความอุ่นใจที่ยังมีท่านค่อยปกปักรักษา ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลค่ะ