รีวิวนี้สำหรับใครที่วันหยุดไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้เรามีทริปใกล้กรุง 1วัน ไม่เกิน 500 บาทด้วยน้า ซึ่งการเดินทางง่ายมากส่วนสำหรับใครที่จะไปเกาะเกร็ด แบบไม่มีรถส่วนตัวนั้น สามารถเดินทางมาที่ห้าแยกปากเกร็ด ด้วยการนั่งรถโดยสาร ที่ป้ายผ่านปากเกร็ดได้เลย จะมีทั้งรถเมล์ รถตู้ ถ้าเพื่อนสะดวกมารถเมล์ แนะนำสาย 32 มาจากวัดโพธิ์ หรือ166 มาจากอนุเสาวรีย์ชัย และ 515 มาจากสวนลุมพินีค่ะ พอเรามาลงรถที่ปากเกร็ดแล้ว จากนั้นให้เดินมาที่โลตัสบริเวณที่ใกล้ๆป้ายรถเมล์ ซอยข้างโลตัส จะมีวินมอเตอร์ไซค์ หรือ สามล้อ รอให้เราเลือกใช้บริการ ซึ่งถ้าเราประหยัดเดินไปก็ได้น้า แต่ทางเราไม่ไหวจริงๆ ค่ะ โดยสารพี่วิน ประมาณ 10บาทเท่านั้น เราจะลงไปที่วัดสนามเหนือ เพื่อข้ามฟากไปยังเกาะเกร็ดค่ะ ค่าเรือข้ามฟาก 2 บาท ซึ่งเวลาเปิด-ปิด อยู่ในช่วงเวลา ประมาณ 09.00 - 17.30 น. ที่แรกที่เราจะแวะเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเลยที่ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร เดิมชื่อ “วัดปากอ่าว” คนมอญ เรียกว่า “เพียะมุเกี๊ยะเติ้ง” ภายในวิหารมีพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ที่มีลักษณะพิเศษกว่าที่อื่น เป็นที่ประดิษฐาน “พระนนทมุนินท์” พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี และมีพระไตรปิฎกฉบับภาษามอญฉบับแรกของประเทศไทย และพระเจดีย์มุตา (เจดีย์เอียง) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของเกาะเกร็ด พอมาถึงเกาะเกร็ดแล้วก็นึกก่อนเลยว่าที่เกาะเกร็ดมีอะไรบ้างน้า เริ่มจากของกินเลยก่อนละกัน ต้องบอกว่าเดินกันยาวๆไปเลย เพราะที่นี่มี ระยะทางเดิน 6 กิโลเมตร ไหวที่ไหนล่ะเรา ซึ่งเขามีจักรยานให้เช่าด้วยเด้อ ราคาไม่แรง 40-50 บาท ปั่นได้ทั้งวัน ถ้าปั่นจักรยานนี้แนะนำปั่นในชุมชนดีกว่าทั้งบรรยากาศวัด ชุมชน ก็ยังมีธรรมชาติมากมาย แถมคนในชุมชนยังน่ารักอีกด้วยนะ เวลาใกล้เที่ยงแล้ว เรามาประเดิมร้านแรกกันเลย อยู่ที่ ร้านดอกไม้ ผักสมุนไพร ชุบแป้งทอดกรอบ ดอกไม้ไม่ใช่แค่สวยงามเท่านั้นสามารถทอดแล้วนำมารับประทานได้แถมอร่อยมากด้วยย มีหลากหลายร้าน หาทานง่ายที่เกาะเกร็ดเท่านั้น ต้องลองแล้วจะติดใจ ราคา 30-40 บาท ด้วยความหิวและเราก็มาต่อกันเลยที่ร้าน 2 ใกล้ๆกับร้านดอกไม้ทอด นั่นคือ "ทอดมันหน่อกะลา" บอกเลยว่าใครมาเกาะเกร็ดต้องไม่พลาดทอดมันหน่อกะลา ของทานเล่นระหว่างการเดินเที่ยวเกาะเกร็ด ของขึ้นชื่อที่ต้องลอง ถ้าใครไม่ทาน ถือว่ามาไม่ถึงเกาะเกร็ดแน่ๆ เมื่อเติมพลังลงท้องกันแล้ว ทางเราไม่รอช้า ปั่นจักรยานทัวร์เกาะเกร็ดเลยดีกว่า ทางปั่นจักรยานค่อนข้างแคบนะคะ เพราะเป็นชุมชน เราจะต้องระวังนิดนึง พอปั่นมาไม่นานนัก ทางเราก็ต้องแวะจอดอย่างไม่ลังเล เพราะความน่าสนใจของที่นี่ค่ะ บ้านศิลป์สยาม เป็นแหล่งเรียนรู้ งานศิลป์ และมุมเรียนรู้เพื่อจะได้ตะหนักถึงคุณค่าที่บรรพบุรุษเราได้สร้างไวให้คนไทยและชาวต่างชาติได้ชมถ้าเพื่อนๆ ผู้มีใจรัก หรือใฝ่รู้งานศิลป์ ที่นี่ยินดีต้อนรับ ไม่ว่าจะใช้สถานที่ในการจัดกิจกรรม หรือนำผลงานมาจัดแสดง ออกมาจากบ้านศิลป์สยามแล้ว ปั่นต่อไปไม่ไกลนัก ด้วยความที่ทางเราเป็น สายบุญ จุดพักที่สอง หลังจากปั่นมาพอสมควรแล้ว คือ วัดนั่นเองซึ่งวัดนี้แอบประทับใจเล็กๆ ด้วยความร่มเย็น และบรรยากาศต่างๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าอยู่ใกล้กรุงเทพแค่เอื้อม วัดไผ่ล้อม เป็นวัดที่สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย พระอุโบสถสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2318 มีปูชนียสถานที่สำคัญ คือ อุโบสถ วัดไผ่ล้อมเป็นอาคารขนาดทรงโรงขนาด 5 ชั้น เป็นอุโบสถที่มีความงามแห่งหนึ่ง แต่มีการซ่อมครั้งใหญ่ สมัยรัชกาลที่ 2 ถึง รัชกาลที่ 3 ลายจำหลักไม้ที่หน้าบ้านเป็นลายดอกไม้ งามมาก เช่นเดียวกับสาหร่ายและรวงผึ้งแกะสลักดอกไม้งดงามมีคันทวยและหัวเสา คนมอญเรียกวัดนี้ว่า “เพี๊ยะโต๊ะ" เครื่องปั้นดินเผาป้าตุ่ม ตั้งอยู่ข้างๆวัดไผ่ล้อม เป็นซอยเล็กๆมีป้ายบอกอยู่ข้างๆ เดินเข้าไปในซอยจะพบป้าตุ้มและคุณอุ้ยลูกสาว มีค่าสอนการปั้นและดินที่นำมาปั้น คนละ 50 บาท ก็สามารถปั้นได้เลย เราสามารถนำเครื่องปั้นเป็นขอเราได้เลย เราสามารถทิ้งเบอร์ไว้ เพื่อให้เขาได้ตากและนำไปเผารอให้แห้งเขาจะติดต่อให้ไปรับ หรือ จะให้ที่อยู่ให้ส่งไปรษณีย์ได้ด้วย การสอนปั้นดินเผานั้น เปิด วันเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าใครจะไปซื้อเครื่องปั้นก็สามารถไปซื้อได้ทุกวัน กาแฟโบราณ เกาะเกร็ด ได้ยินมาว่าที่เกาะเกร็ดนี้ เครื่องปั้นดินเผา ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ด้วย เมื่อแวะป้าตุ่มไปแล้ว ก็ต้องลองร้านกาแฟโบราณด้วยค่ะ ราคาน่ารักจับต้องได้ 20-40 บาท ได้กาแฟหอมๆแถมเครื่องปั้นดินเผารูปแบบต่างๆมาแทนแก้วกาแฟ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ลวดลายการ์ตูนน่ารักๆก็มีด้วยนะ ไปต่อกันค่ะ มาถึงจุดนี้ แรงขาไม่เพียงพอแล้วแต่ทางเรา ยังอยากสัมผัสกับธรรมชาติสวยๆ อีกนิดก่อนจะต้องลากลับ สวนเกร็ดพุทธ สถานที่ถ่ายรูปที่มีมุมหลายมุมให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเก็บไว้ ป้าสุมาลีได้ปรับสวนที่รกร้าง เป็นให้คนที่มาท่องเที่ยวได้เข้ามาถ่ายรูป ไม่เก็บค่าเข้าชมเป็นสวนที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้วก็มีให้ความรู้เรื่องพื้นบ้านต่างๆ ซึ่งบางวันที่นี่จะจัดนิทรรศการ หรือ ทำงานฝีมือให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองทำกันด้วยนะคะ ที่นี่ข้างในร่มรื่นและต้นไม้เยอะมาก ๆ เราไปถึงช่วงเย็น แสงแดดเริ่มจางไปแล้ว ยิ่งทำให้สวนเกล็ดพุทธเหมาะยิ่งต่อการพักผ่อนใจ ขณะนี้เป็นเวลา 17.00 น. ทำให้เราต้องกลับบ้านกันแล้ว ก่อนท่าเรือจะปิด ใช้เวลาเพียงแค่ 4 - 5 ชั่วโมง ในวันหยุดแบบนี้ ที่เกาะเกร็ด ก็รู้สึกคุ้มค่าอย่างบอกไม่ถูก มีทั้ง อาหาร วัฒนธรรม ศาสนา และ ธรรมชาติ ครบจบที่เดียว เข้าชมฟรีด้วย ที่สำคัญไม่เกิน งบ 500 บาท แต่ถ้าใครกินจุก็ต้องเผื่อใจกันไว้บ้าง เพราะที่นี่ของกินเยอะมากจริงๆ และที่นี่เกาะเกร็ดยังมีอะไรอีกมากรอเราไปพิสูจน์กันนะคะ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน