การออกเดินทางท่องเที่ยว หลายคนจะต้องมีจุดหมายปลายทางอยู่ในใจ การเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปนั้น อาจจะมีแรงจูงใจมาจากความสวยงามของธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี หรือความโด่งดังของสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนั้น ๆ ทุกที่ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถดึงดูดกายและใจของนักท่องเที่ยวให้ข้ามน้ำข้ามทะเล เดินทางไปเยี่ยมชมอยู่เสมอ สำหรับใครที่มีใจอยากออกไปเที่ยวต่างประเทศ วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจับตามอง จะมีที่ไหนกันบ้าง ไปดูกันเลย 1.พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (ฝรั่งเศส) พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ถูกขยายให้ยิ่งใหญ่จนสามารถเปิดให้แก่สาธารณชนเพื่อเข้าชมความสวยงามทางศิลปะครั้งแรกใน ในปัจจุบันได้มีการจัดแสดงงานศิลปะที่สำคัญระดับโลกไว้อย่างมหาศาลจนเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลงไหลในความสวยงามทั้งสถาปัตยกรรมที่ออกแบบตัวพิพิธภัณฑ์ให้มีความแตกต่างจากที่อื่นอีกทั้งงานศิลปะที่ล้ำค่า เช่น •Mona Lisa ผลงานโด่งดังของ Leonardo da Vinci ศิลปินชาวตาเลียนชื่อ โมนาลิซ่า เป็นภาพวาดหญิงสาวที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างหลากหลาย จุดเด่นตรงรอยยิ้มที่มุมปาก และดวงตาที่มีเสน่ห์ราวกับมีชีวิตสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมศิลปะชิ้นนี้ได้ •ประติมากรรม Nike Winged Victory of Samothrace เทพีแห่งชัยชนะรูปสลักนางฟ้ามีปีกบนเรือหินอันสง่างาม ผู้สร้างมีความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงสรีระและความพริ้วไหวของอาภรณ์ที่ห่อหุ้มร่างกายของนางฟ้าได้อย่างน่าพิศวง รูปเทพี เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะของกรีซในการรบที่ซาโมเทรซ ประติมากรรมที่เคยแตกหักถูกประกับขึ้นจากชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาประติดประต่อกันโดยนักโบราณคดีซึ่งในปัจจุบันก็ยังไม่แล้วเสร็จดี •ประติมากรรมVenus de Milo หรือ the Milos Aphrodite รูปสลักเทพีกรีกเทพีวีนัส ผู้ที่ได้ชื่อว่างามที่สุดในเหล่าเทพีด้วยกัน ถูกค้นพบที่เกาะมิโล แถบทะเลเอเจียน ขณะที่หักเป็นสองท่อนโดยบังเอิญไม่พบแขนทั้งสองข้าง แต่ถูกยกให้เป็นงานประติมากรรมสตรีที่สวยที่สุดในโลก 2.เมืองเวนิส (อิตาลี) เวนิส หรือ เวเนเซีย จุดหมายปลางทางสุดโรแมนติก แห่งแคว้นเวเนโต ประเทศ อิตาลี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลอาเดรียตริกในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ด้วยความสวยงามและความน่าอยู่ของบ้านเมืองทำให้ เวนิส เป็นสถานที่ซึ่งได้รับฉายามากมาย ตั้งแต่ เมืองแห่งสายน้ำ เมืองแห่งสะพาน เมืองแห่งแสงสว่าง ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริก และที่สำคัญ ยูเนสโก ยกให้ เวนิส เป็นหนึ่งในเมือง มรดโลก 3.Marina Bay Sands (สิงคโปร์) เพลิดเพลินกับผลงานการออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ซึ่งปรากฏอยู่บนเส้นขอบฟ้าสิงคโปร์ ณ อ่าวมารีน่า เบย์ ได้อย่างน่าประทับใจ หรือชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่สวยที่สุดในโลกได้ที่ Sands SkyPark ที่ Marina Bay Sands หากต้องการชมธรรมชาติ เชิญแวะชม การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ กับวิวที่สวยงามจาก Supertree Grove ท่ามกลางสวนสวยเขียวขจี หลีกหนีจากไอแดดและความร้อนของเขตร้อนชื้นไปยังเรือนกระจกปรับอากาศ หรือปล่อยให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำอย่างสนุกสนานที่ Children’s Garden Water Play (สวนน้ำสำหรับเด็ก) 4.น้ำตกอีกวาซู (ทวีปอเมริกาใต้) Iguacu (อีกวาซู) ทวีปอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ บริเวณรอยต่อพรมแดน ระหว่างประเทศบราซิลกับอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก บริเวณโดยรอบน้ำตกจะมีละอองน้ำสาดกระเส็นอยู่ตลอดเวลา และมีทางเดินเป็นแนวยาวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกับความงามของน้ำตก ได้อย่างใกล้ชิด แต่ควรสวมเสื้อกันฝนหรือมีสิ่งป้องกันละอองของสายน้ำติดไปด้วย ไม่งั้นอาจจะเปียกซะก่อน 5.เปตรา (จอร์แดน) เป็นเมืองหลวงของชนเผ่านาบาเชียนซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของ ประเทศจอร์แดนในสมัยก่อน เมืองแห่งนี้สร้างขึ้นนโดยการแกะสลักหินให้เป็นช่องอุโมงค์ โรงละครของเมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงละครแบบกรีก-โรมันมีเนื้อที่ สามารถจุผู้ชมได้ถึง 4,000 คน ในเมืองแห่งนี้เป็นตัวอย่างที่ดีอีกแห่งหนึ่งของสถาปัตยกรรมแบบกรีกโบราณที่ หลงเหลือมาจนถึงทุกวันนี้ 6.กำแพงเมืองจีน (จีน) หากพูดถึงกำแพงเมืองจีน หรือ The Great Wall of China ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะนี่คือหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่หลายคนต่างใฝ่ฝันที่จะไปเยือนสักครั้งในชีวิต และไม่ว่าใครที่ไปมาต่างก็ต้องพูดถึงความยิ่งใหญ่อลังการ และความสวยงามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันล้ำค่า จนทำให้กำแพงเมืองจีนกลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศที่หากใครไปจีนก็ต้องไปดูให้เห็นกับตา 7.หอไอเฟล (ฝรั่งเศส) หอไอเฟล (Eiffel Tower) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่มีใครในโลกนี้จะไม่รู้จักของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่แถบถนนที่เรียกว่า ชองป์ เดอ มารส์ ในกรุงปารีส หนึ่งในจุดถ่ายรูปหอไอเฟลที่ดีที่สุดคือ ลานตรงข้างหน้าปราสาท Palais de Chaillot ที่อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีของ Trocadero เพราะตรงนี้เป็นมุมถ่ายแล้วจะเห็นหอไอเฟลแบบเต็มจอ ไม่มีอะไรมาบังทิวทัศน์แน่นอน 8.ทัชมาฮาล (อินเดีย) ทัชมาฮาล ตั้งอยู่บริเวณ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ตามแบบสถาปัตยกรรมแนวโมกุลของอินเดีย ซึ่งลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับคำรับรองจากสถาปนิกทั่วโลกว่า สร้างขึ้นโดยถูกสัดส่วน มีความสมมาตรในทุก ๆ ด้าน และวิจิตรงดงามที่สุด 9.มาชูปิกชู (เปรู) เปรูหากคุณมีโอกาสได้ขึ้นไปเยือนยังมาชู ปิกชู นอกจากความสวยงามและน่าอัศจรรย์ของซากอารยธรรมโบราณแล้ว คุณยังจะได้เห็นวิวของภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบ เห็นเส้นทางถนนคดเคี้ยวที่ลัดเลาะไปมาตามเชิงเขา และยังเห็นแม่น้ำ Urubamba ไหลผ่านตามแนวซอกเขาไปมาอย่างงดงามสุด ๆ ไม่เพียงเท่านั้นคุณอาจมีโอกาสได้พบกับอัลปาก้าและลามา ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเทือกเขาแอนดีส ที่จะมาเดินกินหญ้ารออยู่ที่มาชู ปิกชู อีกด้วย 10.หอนาฬิกาบิกเบน (อังกฤษ) Big Ben เป็นแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนเมื่อมาเที่ยวประเทศอังกฤษ ในอดีตนั้น หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวัง Westminster โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบวิคตอเรียผสมกับโกธิค สามารถบอกเวลาได้ทั้ง 4 ทิศทาง เป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเครื่องบอกเวลามาตรฐานของหอดูดาวเมืองกรีนิช ขอบคุณรูปภาพหน้าปกจาก https://canva.com ขอบคุณรูปภาพที่ 1.จาก https://pixabay.com/th/photos/พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ขอบคุณรูปภาพที่ 2 จาก https://pixabay.com/th/photos/เมืองเวนิส ขอบคุณรูปภาพที่ 3 จาก https://pixabay.com/th/photos/มารีน่าเบย์ ขอบคุณรูปภาพที่ 4 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/อีกวาซู ขอบคุณรูปภาพที่ 5 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/เปตรา ขอบคุณรูปภาพที่ 6 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/กำแพงเมืองจีน ขอบคุณรูปภาพที่ 7 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/หอไอเฟล ขอบคุณรูปภาพที่ 8 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/ทัชมาฮาล ขอบคุณรูปภาพที่ 9 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/มาชูปิกชู ขอบคุณรูปภาพที่ 10 จาก https://www.pexels.com/th-th/search/บิ๊กเบน