"น้ำตกเอราวัณ" เป็นสถานที่ธรรมชาติแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ควรได้ไปเที่ยวสักครั้งได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติ ได้มองวิวทิวทัศน์ที่เบื่อไม่ลงจริงๆ แถมยังได้รับการรักษาจากธรรมชาติให้ผ่อนคลาย มีความสงบ ช่วยทำให้ดีขึ้นได้ และน้ำตกเอราวัณนี้ถือเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวสำหรับฉันที่ทำให้ฉันมีความสุขได้อยู่กับตัวเองถามตัวเองมากขึ้น และความทรงจำของน้ำตกแห่งนี้ที่ 4 ชั้น ก็เก็บความสุขไว้มากพอแล้ว เริ่มการเดินทางได้ เป็นการไปเที่ยวน้ำตก ใช่พอนึกแล้วก็ต้องนึกว่าไปเล่นน้ำ ว่ายน้ำกัน แต่ความจริงฉันและครอบครัวไปเพียงแค่ชื่นชมธรรมชาติ รับความสงบเพียงแค่นั้น เมื่อมาถึงที่หมายแล้ว ใครที่เคยมาน่าจะรู้ว่าไปน้ำตกไม่ได้ไปแล้วเห็นเลย แต่ต้องเดินเข้าไปในป่า ประมาณ 1-2 กิโลเมตร ถึงจะเหนื่อยมากแต่เมื่อถึงจุดหมายก็หายเหนื่อยเลยล่ะ มันสวยมากถึงแม้จะขึ้นมาถึงชั้นเดียวเอง สวรรค์ชั้นที่ 1 " ไหลคืนรัง" เป็นชั้นแรกที่ได้เห็นน้ำตก ส่วนใหญ่ผู้คนจะเล่นกันที่ชั้นนี้ เป็นชั้นน้ำตกที่สามารถนำเสื่อมานั่งกินข้าวกันได้ ฉันและครอบครัวได้ใช้ชั้นนี้เป็นจุดหลักในการพักผ่อนของครอบครัวฉัน นี้เพียงแค่ชั้นแรกยังสวยขนาดนี้ชั้นต่อไปคงจะงดงามมากแน่ ๆ สวรรค์ชั้นที่ 2 " วังมัจฉา" เป็นชั้นที่แอ่งน้ำตกใหญ่มาก มันเหมือนเห็นเป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งไม่ใช่จากที่เดียวกันเลย ว่าชั้นแรกก็สวยงามแล้ว ชั้นนี้สวยยิ่งกว่า มันมีความคล้ายกับวังในป่าที่อยู่ของ นางฟ้า เทวดาอะไรประมาณนั้นเลย มันสวยจริง ๆ และมีฝูงปลาเยอะมากพวกมันค่อนข้างเป็นมิตรนะในความรู้สึก พอมือจุ่มน้ำลงไป พวกปลาน้อยก็ว่ายมารวมกันด้วย สวรรค์ชั้นที่ 3 "วังผาน้ำตก" ตั้งแต่ชั้นสามนี้ไป บอกเลยว่าการที่เราจะเจอสิ่งที่สวยงาม น่าหลงใหล ของมันก็ต้องผ่านอุปสรรคเพื่อไปหาให้ได้ เมื่อผ่านชั้นสอง ขึ้นมาได้ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ ก็พบชั้น วังผาน้ำตก มันให้ความรู้สึกว่ามันสวยอีกแล้ว แต่ทุหชั้นที่ผ่านมามันก็สวยหมดแต่แค่การไหล รูปร่างของหินผา ความสูงของการตกมันต่างกันแค่นั้นแต่กลับว่ามันเปลี่ยนความรูึสึกการมองอย่างชัดเจนเลยล่ะ แต่บอกเลยว่าชั้นสำหรับมันมีความสุดมากตรงที่ว่า ฉันถ่ายรูปเสร็จกำลังกลับแล้วไปชั้นต่อไป ตอนเข้าไม่เห็นนะแต่พอกลับเท่านั่นล่ะเห็นรูหินคล้านถ้ำเล็กๆ ความที่ฉันอยากรู้เลยแอบดูไม่เห็นอะไร สักพักแสงสะท้อนมาพอดี ฉันเห็นงูตัวใหญ่กำลังนอนอยู่ ใจแรกแทบจะกรีดร้องออกมาแล้วแต่ยังมีสติเพราะกลัวตกน้ำเลย นิ่งอยู่สักพักแล้วรีบออกมาเลย ด้วยความฉันเชื่อว่าสัตว์แบบนี้คงเป็นเจ้าป่า เจ้าเขาเลยยกไหว้ไปเพื่อความสบายใจของฉัน แต่ถึงยังไงจะเชื่อหรือไม่เชื่อให้มองความเป็นจริงถ้าสัตว์ไม่ได้ทำร้ายเรา เราก็ไม่ควรทำร้ายเขาหรือกลั่นแกล้ง ควรที่จะออกห่างเพื่อไม่ให้สัตว์เกิดความตกใจและทุกอย่างมันจะดีเอง จากภาพข้างบนเป็นภาพที่ฉันตอนกำลังนั่งพักกันอยู๋ จากชั้นสามขึ้น เป็นทางที่ค่อนข้างชั้นและสูงเลยมีจุดพัก ฉันเลยนั่งพักไปประมาณสัก 5-10 นาที แล้วมองทิวทัศน์มองออกไปไกล แล้วนั่งคิดขึ้นมาในหัวว่า "ทำไมมีความสุขจัง แค่มองไปเฉย ๆ เอง" มันเหมือนไม่ต้องทำอะไรมากมายแค่มอง แล้วธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูร่างกายจิตใจให้เราเอง หลังจากฉันนั่งมองอย่างสงบ ก็ลุยต่อชั้นต่อไปซึ่งบอกเลยมีความลำบากมากกว่าเดิมเพราะเป็นหินซ้อนๆกันจะต้องใช้แรงทรงตัวใช้ได้เลยทีเดียว สวรรค์ชั้นที่ 4 "อกนางผีเสื้อ" เป็นชั้นที่มองทันทีก็เห็นเลยว่ามีความเป็นอกของนางผีเสื้อจริง ชั้นนี้น้ำตกลงมาไม่ค่อยแรงมากแต่ฉันชอบน้ำตกชั้นนี้มากตรงน้ำของน้ำชั้นนี้ เป็นสีฟ้าที่สดใสดูมีความสดชื่นให้น่าลงไปเล่นน้ำมาก และเป็นน้ำตกชั้นสุดท้ายที่ได้มาดู ที่จริงอยากไปจนชั้นสุดท้ายเลยแต่ว่าวันนั้นฉันดันใส่รองเท้าแตะมันลำบากมาก มันเจ็บข้อเท้าและหัวเข่าไม่กล้าหักโหมกับตัวเองมากเลยพอแค่นี้ละกัน นี้เป็นรูปสุดท้ายของการเที่ยววันนั้นเป็นการเดินทางก่อนจะถึงชั้น 5 เป็นรากของต้นไม้ที่ขึ้นได้สวยงามตามธรรมชาติของมันเลย และนี้คือบันทึกความทรงจำที่ดีอันหนึ่งของฉันเลย ฉันชอบเก็บความทรงจำเหล่านี้กับเหล่าธรรมชาติมันมีความสวยงามในแบบของมัน และเห็นได้ว่าธรรมชาติเป็นแหล่งพักพิงทั้งร่างกายและจิตใจ หวังว่าการบรรยายเล่าเรื่องของฉันจะทำให้ตระหนักได้ว่า "ธรรมชาติมันสำคัญกับเรามากเลยนะ" เครดิตภาพ: Banana Chocolate