วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังถึงข้อดีและข้อด้อยในการไปเที่ยวยุโรปในฤดูร้อน หรือหน้าร้อนค่ะ ฤดูร้อนของยุโรป เริ่มต้นประมาณเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนสิงหาคม อากาศโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียลขึ้นไป บางแห่งอาจจะร้อนกว่านี้ ทั้งนี้ไม่รวมประเทศที่อยู่ตอนล่างเช่นสเปน ฝรั่งเศส หรืออิตาลี ที่อากาศจะค่อนข้างร้อนถึงร้อนมากในฤดูร้อน (35-39 องศาเซลเซียลก็ยังเคยมี) ซึ่งชาวยุโรป มักจะไปพักผ่อนในเมืองที่ติดชายทะเลเพื่อไปรับวิตามินดี ข้อดีของการเที่ยวในฤดูร้อน เป็นช่วงที่ดอกไม้หลายชนิดบาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลาเวนเดอร์ ที่ในแต่ละปีสามารถเที่ยวชมได้ระหว่างเดือน มิถุนายน ถึงต้นเดือนสิงหาคมเท่านั้น ตามเมืองต่าง ๆ ก็จะประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ กลางวันที่ยาวกว่ากลางคืนทำให้เรามีเวลาเที่ยวในแต่ละวันนานกว่าฤดูอื่น เช่นในประเทศเยอรมนี เดือนกรกฏาคม พระอาทิตย์ขึ้นเวลา 5.30 และตกเวลา 21.30 น. อาหารการกินที่หลากหลายทั้งอาหารทะเล, ผักสด และผลไม้หลากชนิดออกมาให้รับประทานกันโดยเฉพาะเบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ และเชอร์รี่ ในยุโรปจะมีราคาไม่แพง และหารับประทานได้ง่ายมาก ท้้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต, ตลาดสด และข้างทางในเมืองชนบท การแต่งตัว สามารถแต่งได้หลากหลายจัดกระเป๋าแบบเบาสบาย ขนอะไรไปก็ได้ แต่การจัดกระเป๋าและเสื้อผ้าสำหรับทริปฤดูร้อน ควรรอสักสองสามวันก่อนเดินทางในการจัดกระเป๋า เพราะปัจจุบันอากาศแปรปรวนมากเราไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้นานเหมือนสมัยก่อน บางครั้งเราต้องมาซื้อเสื้อผ้าเพิ่มเมื่อมาถึงแล้ว บางวันอาจจะมีฝนตกดังนั้นเราอาจจะเตรียมร่มไปเผื่อ ๆ ด้วย หรือหากเราจะไปเที่ยวตามหุบเขา หรือยอดเขาเราก็ต้องเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตไปด้วย เพราะว่าอากาศบนเขามักจะเย็นกว่าด้านล่างมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาจากเมืองร้อนแบบเรา คือ ตามยอดเขาของยุโรป เช่น ยอดเขายุงเฟรา, ยอดเขาชิลธอร์น, ยอดเขาซุกสปิตเซ่, ยอดมองบลังซ์ ก็เป็นที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยือนในช่วงฤดูร้อน หรือจะไปเมืองในหุบเขาอย่างโดโลไมต์ หรือจะไปประเทศทางตอนเหนือของยุโรป แถวสแกนดิเนเวีย ในช่วงฤดูร้อนอากาศก็ยังเย็นสบายไม่ทรมานเวลาเดินเล่นในเวลากลางวันเหมือนเมืองทางตอนใต้ของอิตาลี, ฝรั่งเศส, กรีซ หรือสเปน ข้อเสีย ฤดูร้อนเป็นฤดูที่ชาวยุโรปนิยมไปพักผ่อนกัน เป็นที่มาของคำว่าพักร้อน และยังเป็นช่วงปิดเทอมของนักเรียน ดังนั้นแล้วตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คน ไม่ว่าจะเป็นชายทะเล หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ เช่นปีนเขา, เดินป่า, ขี่จักรยานรอบทะเลสาบ, นอกจากนั้นในหลาย ๆ เมืองจะมีการจัดงานต่าง ๆ ขึ้น เช่น งานประจำเมือง, มีขบวนพาเรด, การแสดงดนตรี, การแสดงโชว์พื้นเมือง, เทศกาลไวน์และเบียร์ ในเมืองที่มีการผลิตไวน์ เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่ถ้าชอบงานเทศกาลพวกนี้ก็ไม่ควรพลาดค่ะ ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการท่องเที่ยวในฤดูร้อนซึ่งถือเป็นฤดูท่องเที่ยวของยุโรปจะสูงกว่า ฤดูอื่น ๆ ทั้งค่าที่พัก, ค่าอาหาร และค่าเดินทาง รวมถึงค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวจะแพงกว่าในฤดูอื่น และจำนวนผู้ไปชมก็จะมีมากกว่า เราอาจต้องรอเข้าแถวนานกว่า และเข้าไปเบียดกับคนเป็นจำนวนมาก สำหรับเราแล้วเราชอบฤดูร้อน เพราะดอกไม้และผลไม้ โดยเลือกไปเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น เมือง Manosque ในโพรวองซ์ หรือ Niederried แทนที่จะพักในตัวเมือง Interlaken แต่เลือกที่เดินทางสะดวก และหากต้องไปสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงก็ให้ไปแต่เช้า และหลีกเลี่ยงเมืองชายทะเลต่าง ๆ โดยเฉพาะแถบเมดิเตอร์เรเนียน เพราะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะเยอะมาก และค่าที่พักก็แพงค่ะ ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป