วัดไชยวัฒนาราม วัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายสร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ.2173 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมคล้ายนครวัด ต่อมาสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศใช้วัดสำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์ และขุนนางผู้สูงศักดิ์ ในปี พ.ศ. 2299 ปัจจุบันวัดอยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปกรและได้รับปรับปรุงซ่อมแซมบูรณะมิได้หยุด ลักษณะภายในวัดไชยวัฒนารามมีรายละเอียด 4 รูปแบบ 1.สถาปัตยกรรม ปรางค์ประธานและปรางค์มุขอยู่บนฐานเดียวกันปรางค์ประธานมีรูปแบบปรางค์สมัยอยุธยาตอนต้นแตกต่างกันที่มุขทิศยื่นออกมามากกว่าบนยอดพระปรางค์ประดิษฐ์ฐานเจดีย์องค์เล็ก สื่อถึงพระเจดีย์จุฬามณีบนยอดเขาพระสุเมรุ รอบพระปรางค์ใหญ่ล้อมรอบไปด้วยระเบียงคต ภายในระเบียงคตประดิษฐ์ฐษนพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ปัจจุบันชำรุดไปมากแล้ว 2.พระอุโบสถ อยู่ด้านหน้ากำแพงเมรุทิศเมรุราย ปัจจุบันคงเหลือไว้แต่ฐาน 3.เมรุทิศเมรุราย ตั้งล้อมรอบพระปรางค์มีทั้งสิ้น 8 องค์ ผนังภายในเมรุเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปใบไม้ใบกนก ผนังด้านนอกมีภาพปูนปั้นพุทธประวัติ จำนวน 12 ภาพ เมรุเป็นรูปทรงปราสาทซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป 7 ชั้น 4.กำแพงล้อมรอบวัดไชยวัฒนารามเป็นอิฐแดงล้อมรอบ 3 ชั้น ชำรุดไปเกือบทั้งหมด เจดีย์ล้อมรอบพระปรางค์ สื่อถึงพระเจดีย์จุฬามณีบนยอดเขาพระสุเมรุ ทางเดินปูด้วยอิฐสีแดงทั้งหมด เจดีย์ที่อยู่บนพื้นดิน พระเจดีย์มุมนี้สวยงามจริงๆๆ กำลังปรับปรุงซ่อมแซม ส่วนมากก็จะชำรุด พระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลายปีประดิษฐ์ฐานไว้ก่อนถึงเมรุ กำแพงล้อมรอบชั้นที่สอง กำแพงล้อมรอบชั้นที่สามติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา(ประดับโคมไฟ)ตัวช่วยให้บรรยากาศบริเวณวัดสดชื่นทั้งวันถ้าเป็นยามเย็นนั่งชิลส์ชมวิวใต้แสงจันทร์กระทบแม่น้ำเจ้าพระยาประสานกับโคมไฟสวยงามปานเมืองสวรรค์ -มีบริการนั่งเรือชมวิว ด้านหน้าวัดมีร้านค้าบริการให้เช่าชุดเรียงแถวยาวตลอดแนวไม่แปลกใจเลยที่จะเปลี่ยนวัดให้กลับคืนสู่สมัยอยุธยาตอนปลายใครๆ ก็แปลงโฉมหญิงงามเมืองโบราณกรุงเก่า ภายในบริเวณวัด อากาศเย็นสบาย ไม่มีร้อนอบอ้าวทั้งที่ทั้งวัดมีต้นโพธิ์ที่ด้านหน้ามุมขวาต้นเดียวหรือเคยเป็นที่พระราชทานเพลิงศพของกษัตริย์อานิสงฆ์ความยิ่งใหญ่ของราชาผู้ครองแผ่นดินทำให้บริเวณโดยรอบร่มรื่นร่วมสัมผัสพิเศษณ โบราณสถานที่แห่งนี้ ภาพหน้าปก ผู้เขียน ภาพทั้งหมด ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !