ไปเที่ยวโตเกียวทั้งที สถานที่ที่จะขาดไปจาก list ไม่ได้เลยก็คือ วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji Temple) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ วัดอาซากุสะ (Asakusa Temple) หนึ่งในแลนมาร์กเด็ดที่นักท่องเที่ยวต้องแวะไปชมกันให้ได้สักครั้ง ด้วยประวัติอันยาวนานมากกว่า 1380 ปีของวัดแห่งนี้ ประกอบกับความโดดเด่นของสถาปัตยกรรม และสิ่งก่อสร้างภายในวัด ไปวัดอาซากุสะยังไง? ลงสถานีไหน? บทความนี้เราจะพาเพื่อนๆ ออกเดินทางจากสถานีรถไฟ Ueno ไปยังวัดอาซากุสะกันแบบง่ายๆ ไม่งง พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันได้เลย วิธีไปวัดอาซากุสะ (วัดเซ็นโซจิ) ด้วยรถไฟใต้ดิน ลงสถานีไหน? สำหรับการเดินทางไปยังวัดอาซากุสะนั้นไม่ยากเลย โดยครั้งนี้เราจะเริ่มต้นจากสถานี Ueno ซึ่งเป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวนิยมนั่งรถไฟตรงจากสนามบินนาริตะเข้ามาเป็นจุดแรกๆ โดยให้เราเดินทางด้วยรถไฟสาย Ginza Line ขึ้นรถไฟจากสถานี Ueno (หรือสถานีไหนก็ได้) จากนั้นนั่งไปลงที่สถานี Asakusa เมื่อมาถึงสถานี Asakusa ใช้ทางออก 3 จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอกับวัดอาซากุสะอยู่ฝั่งเดียวกัน วัดอาซากุสะ เปิดกี่โมง? วัดอาซากุสะ เปิดทำการทุกวัน โดยจะมีช่วงเวลาการเปิดที่แตกต่างกันในแต่ละช่วง เดือนเมษายน-กันยายน 06.00 - 17.00 น. เดือนตุลาคม-มีนาคม 06.30 - 17.00 น. เริ่มจากแลนมาร์กแรก คือ ประตูทางเข้าพร้อมโคมแดงขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าวัด ประตูคามินาริมง (Kaminarimon) หรือประตูสายฟ้า ด้านข้างมีรูปปั้นเทพแห่งลม (Fūjin) และเทพแห่งสายฟ้า (Raijin) จุดนี้ในช่วงที่วัดเริ่มเปิดคนจะยังไม่เยอะมาก แต่พอสายๆ คิวถ่ายรูปยาวสุดๆ ถ้าใครอยากมาถ่ายภาพสวยๆ แนะนำให้เข้ามาช่วงเช้าๆ เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับถนนนาคามิเซะ (Nakamise-dōri) ความยาวประมาณ 250 เมตร โดยบริเวณนี้จะเป็นร้านขายของฝาก เสื้อผ้า อาหาร และขนมท้องถิ่นต่างๆ ให้เราได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน ช่วงเช้าตรู่ร้านจะเปิดน้อย แต่พอเลยช่วง 09.00 น. ไปแล้วก็จะเปิดกันเป็นส่วนใหญ่ ถัดเข้ามาเป็นประตูชั้นในจะเจอกับ Hōzōmon Gate ซึ่งเป็นประตูแบบ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่เก็บคัมภีร์พระพุทธศาสนา ด้านล่างมีโคมไฟสีแดงขนาดสูงกว่า 3.75 เมตร แขวนอยู่ตรงกลาง และมีรูปปั้น "นิโอะ" (Niō) หรือเทพผู้ปกป้องพระพุทธรูปขนาบอยู่ 2 ด้าน จุดนี้ก็เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเช่นเดียวกัน ด้านซ้ายของ Hōzōmon Gate จะเป็นตำแหน่งของเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งมีความสูงมากกว่า 53 เมตร ซึ่งด้านในของเจดีย์จะแบ่งย่อยออกเป็นหลายชั้น ภายในมีทั้งรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม ป้ายวิญญาณ และพระบรมสารีริกธาตุที่ด้านบนสุดของเจดีย์ รายละเอียดสถานที่ในวัดอาซากุสะ เดินผ่านประตูด้านในเข้ามาจะเป็นอาคารเสี่ยงเซียมซี และจุดจำหน่ายเครื่องราง บริเวณโซนข้างๆ มีสวนหย่อมพร้อมมุมนั่งพักเหนื่อย รวมถึงตู้กดเครื่องดื่มให้เลือกซื้อได้ตามต้องการ เดินเข้ามาจนเกือบถึง Main Hall ที่ฝั่งทางขวาจะมีจุดสำหรับล้างมือ ก่อนสักการะพระโพธิสัตว์คันนน (Kannon) ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน Main Hall ซึ่งจุดล้างมือมีงานรูปปั้นที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์มากๆ และนี่ก็คือด้านหน้าของ Main Hall (Hondo) หลังล้างมือเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถเข้าไปสักการะพระโพธิสัตว์คันนนกันได้ ทั้งนี้ทางวัดจะเปิดให้เราสักการะจากแค่เพียงด้านนอกเท่านั้น (ไม่อนุญาตให้เข้าไปด้านใน) โดยบริเวณด้านหน้าของ Main Hall มีโคมแดงขนาดใหญ่แขวนอยู่ที่ตรงกลางเช่นเดียวกัน พร้อมกับมีงานแกะสลักลวดลายมังกรที่อ่อนช้อย สวยงาม หลังจากแวะชมความงามที่บริเวณ Main Hall เรียบร้อยแล้ว ภายในวัดก็ยังมีอีกหลายจุดที่สามารถไปเยี่ยมชม หรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรยากาศภายในวัดอาซากุสะนั่นร่มรื่นมากๆ เป็นการผสมผสานอาคารสิ่งก่อสร้างจากงานไม้ ตกแต่งด้วยงานแกะสลักหิน ท่ามกลางต้นไม้หลากหลายชนิด เหมาะสำหรับการมาเดินเล่นสูดอากาศดีๆ กลางเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น เดินเล่นทอดน่องไปเรื่อยๆ ในเขตตัววัด มีเก้าอี้ให้เรานั่งพักขาเป็นระยะๆ ส่วนห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่งทางออกของวัด ตอนเดินไปเข้าห้องน้ำสาธารณะที่ฝั่งตะวันตกของวัด แอบแวะไปเจอร้านขายขนมบริเวณใกล้ๆ กันกับวัดด้วย กลิ่นหอมมากก ชื่อร้านว่า Special Matcha Sweets Factory เปิดประมาณ 11.00-18.00 น. ช่วงที่เราเข้าไปน่าจะเตรียมขนมกันอยู่ กลิ่นหอมอบอวนไปทั่วสุดๆ จากที่หาข้อมูลในอินเทอร์เนต เป็นร้านขายขนมชื่อดังเชียวละ มีทั้งไอศกรีมชาเขียว ครีมพัฟ บิงซู เมนูมัทฉะ มัทฉะลาเต้ ถ้าใครแวะเข้าไปช่วง 10 โมงเป็นต้นไปลองแวะไปชิมกันได้ และนี่ก็เป็นวิธีการเดินทางไปวัดอาซากุสะด้วยรถไฟใต้ดินแบบง่ายๆ บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น สวยงาม ช่วงเช้าๆ นักท่องเที่ยวจะไม่เยอะมาก แต่พอถึงช่วงสายๆ 9 โมง เป็นต้นไปคนก็จะเริ่มแน่น แต่เพราะอาณาเขตของวัดค่อนข้างกว้างเลยไม่รู้สึกอึดอัด ใครที่มีแพลนไปเที่ยวโตเกียว อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่วัดแห่งนี้กันได้ หน้าปก และ เนื้อหา โดย ผู้เขียน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !