เราเริ่มโกหกตัวเองในยามเช้าว่าต้องการจุดมุ่งหมายครั้งใหม่ในการเดินทาง ทั้งที่ภายใต้จิตใจก็รู้เสมอว่าสิ่งที่เราใฝ่หานั้นคือระหว่างทางที่เป็นไปได้เกือบทุกความรู้สึกของปลายทาง เราสามคนออกเดินทางมาพบกันอีกครั้งและเริ่มต้นเดินทาง เวลา 2.00 น.จากลพบุรีปลายทางจังหวัดน่านเราเดินทางอย่างไม่เร่งรีบผ่านจุดท่องเที่ยว วัดดังเมืองพิษณุโลกแวะกราบไหว้ขอพร ให้พวกเราเดินทางปลอดภัย ในที่สุดเราก็มาถึงจังหวัดน่านแล้วใช้เวลาราว 10 ชั่วโมง ดูเหมือนว่าฝนกำลังจะตกพวกเรายังไม่มีที่พักเพื่อนคนนึงไม่รอช้ารีบค้นหาสถานที่พักสำหรับคืนนี้ ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดลง Bunrapee house คือที่พัก ที่เราหาได้ในราคา 400 บาท ถูกมากกก ลิงก์อยู่ด้านล่างนะคะ ไม่ห่างจากตัวเมืองมากนัก ห้องใหญ่นอนได้ 3 คนเจ้าของใจดีมีอาหารง่ายๆ ขนมปัง คุกกี้ กาแฟ โอวันติน ไมโครเวฟ เตาอบ ให้บริการฟรี เหมือนอยู่บ้านประทับใจสุดๆ พวกเรา เก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อย พี่เจ้าของที่พักแนะนำให้ไปเที่ยวถนนคนเดินเราใช้เวลาพักผ่อนชั่วครู่ และออกไปถนนคนเดินซึ่งอยู่ติดกับวัดภูมินทร์ เป็นวัดที่มีภาพกิจกรรมฝาผนังที่โด่งดังมาก ๆ ภาพกระซิบรักบันลือโลก พวกเราจึงอดไม่ได้ต้องแชะภาพเก็บไว้ และออกไปหาของกินที่ถนนคนเดิน ลานกว้าง ๆหน้าวัดภูมินทร์ มีขันโตกรองรับนักท่องเที่ยวและคนเมืองน่าน เมื่อซื้อของกินเสร็จแล้วทุกคนต่างพากันมาจับจองที่นั้ง พูดคุยกันสนุกสนานมีแต่รอยยิ้มเสียงหัวเราะ มีการแสดงพิเศษ ให้รับชมอย่างต่อเนื่อง ช่างเป็นบรรยากาศที่เป็นเสน่ห์และน่าอิจฉาคนที่นี้เหลือเกิน ได้ใช้ชิวิตที่ ช้า ๆ เนิบ ๆ slow life ไม่ต้องเร่งรีบกับอะไรทั้งนั้น ซึ่งต่างจากกรุงเทพอย่างสิ้นเชิง เช้านี่เรากำลังจะเดินทางไปที่บ่อเกลือและอุทยานแห่งชาติภูคา ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวให้เราแวะถ่ายรูป อากาศชั่งสดชื่นหายเหนื่อยหายเพลียจริง ๆ เส้นทางคตโค้ง สลับซับซ้อน ขับรถอยู่บนสันเขา จนได้รับขนานนามว่าถนนลอยฟ้า ความชุ่มฉ่ำของละอองน้ำค้างและไอหมอกปกคลุมต้นไม้สีเขียว และดอกไม้เล็ก ๆ ในสองข้างทางทำให้เราอดไม่ได้ที่จะปิดแอร์รถยนต์เปิดกระจกโผ่หน้าออกมารับไอหมอกเย็นสดชื่น เหมือนชีวิตได้ชาร์ตแบตให้เต็มร้อยอีกครั้ง และเราก็เดินทางมาถึงบ่อเกลือสถานที่ทำเกลือบนภูเขา ออกจากบ่อเกลือเราเดินทางต่อไปที่ดอยภูคาคืนนี้เราจะนอนค้างกางเต้นน์ที่นี้เจ้าหน้าที่อุทยานบอกให้เราระวังทากเพราะฝนอาจจะตกลงมา คืนนี้ดูเหมือนว่าสถานที่นี่ จะมีแต่พวกเรา เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอากาศเริ่มเย็นลงอย่างต่อเนื่อง ดีที่เราเตรียมเสื้อกันหนาวและถุงนอนมา คืนนี้คงมีแต่แสงเทียนเล่มเล็ก ๆ กีต้าร์หนึ่งตัว และเสียงเพลงเพราะ ๆ ประกอบกับเสียงฝนที่ตกลงมาทั้งคืน เช้าแล้วเราก็ออกเดินทางต่อไปที่ดอยเสมอดาว เป็นดอยที่มีชื่อเสียงดอยหนึ่งของจังหวัดน่านและก่อนจะถึงดอยเสมอดาวเราแวะขอพรที่วัดภูเก็ตบรรยากาศวัดนี้ บอกเลยว่าสวยสุดยอดมากหมอกหนาราวกับขนแกะ ถึงดอยเสมอดาวเรารีบกางเต้นน์นอนพัก คืนนี้ถ้าโชคดีจะได้เห็นดาวระยิบระยับ อากาศเริ่มมืดลงดวงดาวเริ่มมีมาให้เห็นคืนนี้เมฆเยอะเหลือเกิน เช้ามืดฝนตกลงมาเยอะมาก เรารีบเก็บของเดินทางกลับบ้านระหว่างทางพวกเราหลงเข้าไปในหมูบ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งท้ายหมู่บ้านเป็นทางตัน แต่ความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเราเจอกับน้ำตกเล็ก ๆ ชื่อน้ำตกตาดหมอกสวยน้ำเย็นเฉียบ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมาก ๆ แต่เวลาแห่งความสุขมักจะหมดไปไวเสมอ 4 วัน 3 คืน ทำให้เราเห็นว่าความสุขระหว่างทางมีมากพอๆกับปลายทาง และนอกจากเราจะหลงทาง เรายังหลงรักเสน่ห์จังหวัดน่านมากๆและจะต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน. ภาพถ่าย: โดยผู้เขียน ติดต่อจองที่พักได้ที่ https://m.facebook.com/bunrapeehouse/ หลงน่าน