ปลายฤดูหนาวที่หนาวไม่จริง หนำซ้ำแดดร้อน ฝุ่นควันคลุ้ง ก็มองข้ามช็อตหาที่เที่ยวแบบคลายร้อน ทะเล๊ ทะเล กันเลยละกัน “ขอแบบน้ำใส ๆ กิ๊ก ๆ เลยนะ” “ขอแบบทรายขาว ๆ ด้วย” “ขอแบบดำน้ำดูปะการังได้ด้วย” เงื่อนไขเพื่อนร่วมทริป !!! แล้วก็เคาะเปรี้ยงลงที่ “เกาะเต่า” ทะเลตัวท็อปของสุราษฎร์ธานี ถึงจะไปมาแล้วหลายครั้ง หลายคราว แต่จะบอกว่าไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ตื่นเต้นกันตั้งแต่เลือกเส้นทางกันเลย เพราะ เกาะเต่าไปได้ 2 เส้นทาง คือ จากท่าเรือ ขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่าเรือที่จังหวัดชุมพร เลือกเส้นทางที่สะดวกและใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ น้อยที่สุด คือ ขึ้นเรือข้ามเกาะที่ท่าเรือชุมพร เกาะเต่าอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แบ่งเป็นเกาะที่สำคัญด้วยกัน 2 แห่ง คือ เกาะเต่าและเกาะนางยวน ห่างจากเกาะพงันไปทางเหนือประมาณ 45 กิโลเมตร ถือเป็นเกาะที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อเทียบกับระยะห่างจากปากน้ำชุมพร 85 กิโลเมตร และห่างจากอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 120 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นขึ้นเรือจากชุมพร ไวกว่า !! ชายทะเลรอบเกาะเต่า ตอบโจทย์คนที่ชอบดำน้ำ เพราะเป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังที่มีความหลากหลาย และดำน้ำได้ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น แต่ส่วนตัวไม่ถนัดดำน้ำ เพราะเคยดำลงไปแล้ว เกิดจินตนาการหฤหรรษ์กับโลกใต้ทะเล แยกไม่ออกว่าระหว่างตื่นตาตื่นใจกับปะการังหลากสี ปลาหลากพันธุ์ กับจินตนาการแสนบรรเจิดถึงสิ่งมีชีวิตที่คาดไม่ถึง จนต้องทะลึงพรวดขึ้นสู่ผิวน้ำ ความรู้สึกไหนที่มีมากกว่ากัน ก็เลยของสนุกกับทะเลเกาะเต่าด้วยการแหวกว่ายคลื่นลมไปตามหาดต่าง ๆ บนเกาะ ที่มีอยู่หลายหาดสวย ๆ ให้เลือกหาความสำราญ ทั้งหาดทรายรี หาดปะการัง อ่าวโฉลกบ้านเก่า อ่าวเทียนนอก อ่าวลึก อ่าวโตนด ซึ่งเราสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซต์ขับขี่ท่องเที่ยวไปได้ทุกหาดทั่วเกาะ ถ้าไม่ดำน้ำ ไม่เล่นน้ำดำผุดดำว่ายชายหาด จะเที่ยวแบบไม่ต้องเปียก แต่เสี่ยงผิวคล้ำ ก็อาจจะตะเวนถ่ายรูป ชมวิว ก็มีทั้งจุด สวนหิน จปร. หาดทรายรี สถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนแผ่นหินครั้งเสด็จประพาสเกาะเต่า จุดชมวิว จอห์น-สุวรรณ แห่งอ่าวโฉลกบ้านเก่า อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ เดินเท้าไม่เกิน20 นาทีก็ถึง จุดนี้มองเห็นโค้งอ่าวเทียนนอก ที่เว้าเกือบจรดกับ อ่าวโฉลกบ้านเก่า ย้อนตำนานเกาะเต่ากันหน่อย !!! ในอดีต..ด้วยความที่เป็นเกาะที่อยู่ไกลจากแผ่นดินใหญ่ เงียบสงบ และไม่มีผู้คนอยู่อาศัย ทำให้ชายหาดของเกาะเต็มไปด้วยเต่าที่มาหาแหล่งวางไข่ และที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษการเมืองเช่นเดียวกับเกาะตะรุเตา ภายหลังมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ นักโทษที่ถูกจับกุมคุมขังได้รับการปลดปล่อยในราวปี พ.ศ. 2487 แต่เมื่อเริ่มมีผู้คนเข้ามาทำกินและค้นพบแนวประการังที่งดงามรอบเกาะ ที่นี่จึงถูกพัฒนากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นแหล่งดำน้ำที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความนิยมมาดำน้ำ โดยเกาะเต่านับเป็นแหล่งดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจากออสเตรเลียด้วย ภาพและเรื่อง โดย “เป๋าเป้”