ท่ามกลางสถานการณ์โรคร้ายที่กำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ คงทำให้ใครหลาย ๆ คนเกิดความเครียด ความกดดัน เเละรู้สึกว่าความสุขในชีวิตลดน้อยลง นักเขียนก็เหมือนกันค่ะ เเละสิ่งที่สามารถสร้างความสุขให้นักเขียนได้คือการได้ออกไปเดินทาง ให้ธรรมชาติโอบอุ้มเราในวันที่เราหมด Passion หรือเกิดการตั้งคำถามในชีวิต เเต่ทว่าในสถานการณ์เเบบนี้คงจะไม่สะดวกออกไปเที่ยวเท่าไรนัก เพราะเราก็ต้องป้องกันตัวเองเเละป้องกันคนอื่นด้วย นักเขียนได้กลับไปดูอัลบั้มเที่ยวในปีที่ผ่านมา เเล้วรู้สึกคิดถึงความตื่นเต้นเเละความสุขในตอนนั้น เลยอยากจะมาเเชร์เเละเล่าความประทับใจต่อทริปที่เกิดขึ้นที่ ลีไวน์ รักไทย รีสอร์ต จังหวัดเเม่ฮ่องสอนให้นักอ่านที่สนใจฟังกันค่ะ วันนี้ถึงเเม้จะเที่ยวยังไม่ได้เเต่บทความนี้นักเขียนตั้งใจให้ผู้ที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้ได้รู้สึกว่าการออกไปเที่ยวมันช่วยฮีลใจเราได้มากจริง ๆ นะ ขนาดไปเเล้วกลับมานานเเล้วก็ยังจำความสุขเมื่อตอนนั้นได้ เเละเมื่อเวลาผ่านไป สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เราจะได้ออกไปตามหาเเรงบันดาลใจเเน่นอน :) รีไวน์ รักไทย รีสอร์ต (Lewine Rak Thai Resort) ตั้งอยู่ที่ ตำบล หมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอน 58000 TEL: 089 552 9650 MAP : ขอเส้นทาง ติดต่อ/จองห้องพัก Facebook : Leewinerukthai Resort เป็นที่พักรีสอร์ตสไตล์จีนยูนาน จุดเด่นที่ทำให้รีสอร์ตนี้กลายเป็นรีสอร์ตที่ติดอันดับต้น ๆ ในเรื่องของความสวยงามเเละควรไปของไทย คือการออกเเบบบ้านพักที่เป็นสไตล์จีน เเละการเรียงตัวบ้านให้มีลักษณะเป็นขั้น ๆ อีกทั้งยังมีไร่ชาขนาดใหญ่ที่ติดกับห้องพักเปิดให้ผู้เข้าพักหรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาถ่ายรูปกันได้ค่ะ โดยถ้าหากเป็นลูกค้าที่เข้ามาพักก็จะได้เข้าชมเเละถ่ายรูปบริเวณไร่ชาได้ฟรี เเละไม่จำกัดรอบเวลา เเต่ถ้าหากเป็นนักท่องเที่ยวจะมีค่าใช้จ่ายเเละมีเวลาเป็นรอบ นักเขียนเข้าไปจองห้องพักกับทางเพจของรีสอร์ตโดยตรง ค่าห้องพักจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาว่าเป็น Hight หรือ Low season เเละขึ้นอยู่กับห้องที่เราพักด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ลีไวน์จะมีขนาดห้องพักเป็นเเบบเตียง Qeen size 2เตียง/ห้อง เเละมีบ้านที่เป็น 2 ชั้น รองรับขนาดของครอบครัวใหญ่ ราคาก็สูงหน่อย เเละขึ้นอยู่กับความสูงของชั้นห้องที่เราอยู่ด้วย ยิ่งสูงยิ่งบรรยากาศดี ราคาก็สูงขึ้นค่ะ ซึ่งช่วงที่เราไปเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมไม่ได้ Hight Season มากเท่าไร นักเขียนจองห้องพัก ชื่อว่า ยอดน้ำค้าง เป็นบ้านพักขั้นที่ 2 ไม่สูงมากเพราะไม่อยากเดินเยอะค่ะ เหนื่อย ฮ่าา ราคาช่วงที่ไป เราจองมาในราคา 980 บาท ซึ่งนั้นเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิดในครั้งเเรกเริ่มคลี่คลาย ซึ่งมันทำให้รู้ว่าช่วงโควิดที่ผ่านมาเราอัดอั้นกันมากเเค่ไหน เพราะหลังจากที่นักเขียนได้จองห้องพักกับทางรีสอร์ตไป 1 คืน พอวันต่อมานักเขียนก็เห็นว่าห้องพักเริ่มถูกจองมากขึ้นเเละก็เต็มในที่สุด อาจเป็นเพราะในช่วงนั้นมีวันที่รัฐบาลประกาศให้หยุดยาวด้วย ซึ่งในจุดนี้สามารถการันตีความฮอตของลีไวน์ได้ชัดเจนทีเดียว ช่วงที่ไป เจอหมอกไม่เยอะนักเลยเเอบผิดหวัง เพราะตั้งใจจะมาถ่ายรูปทะเลหมอกตามรีวิวสวย ๆ ซะหน่อย ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าที่จองจะมาช่วงเดือนท้ายปี ๆ เพราะบรรรยากาศดี รับรองได้ว่ามาเเล้วเจอหมอกเเน่นอน เเต่ถึงอย่างนั้นนักเขียนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะคนไม่ค่อยเยอะ ทำให้บรรยากาศดูสงบ ไม่ต้องเเย่งกันถ่ายรูป มันดีตรงเเหละ :) ทริปนี้เรามากันสองคน วันเเรกที่มาถึงเป็นช่วงเวลาเวลาประมาณ 3-4 โมงเย็น นักเขียนเดินทางมาโดยรถเช่าค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ได้เช่ารถให้พาเที่ยวในตัวเมือง เราเช็คอินพร้อมนำสัมภาระไปเก็บที่บ้านพัก เเละเย็นนี้เรามีปาร์ตี้หมูกระทะกันค่ะ :D จริง ๆ ร้านนี้อาหารขึ้นชื่อคือข้าวขาหมู เเต่เราทั้งคู่หิวโหยเลยจัดหมูกระทะมาเซตนึงกรุบ ๆ ซึ่งเป็นหมูกระทะสูตรบ้าน ๆ เลยค่ะ มีหมูหมักน่าจะสูตรที่ร้าน รสชาติเข้มข้นดี ผักกาด ผักบุ้งเเละผักท้องถิ่นนักเขียนไม่เเน่ใจว่าผักอะไร เเต่โดยรวมก็โอเคนะ ชุดนะ 300 ถือว่าคุ้มอยู่ค่ะ ขออภัยที่ไม่มีรูปประกอบ เพราะวันนั้นเราทั้งคู่หิวมาก ไม่ได้จับโทรศัพท์จับกล้องเลย รู้ตัวอีกทีก็หมดเเล้ว ฮ่า ๆ เช้าวันต่อมาเราตื่นเเต่เช้ามาถ่ายรูปกันเเละลุ้นว่าจะเจอหมอกไหม เเต่ก็อย่างที่บอกไปว่าเเอบผิดหวัง เเต่ถึงจะเจอน้อยเเต่ก็ยังดีกว่าไม่เจอเนอะ เราเเทบจะตามเก็บทุกมุมของรีสอร์ต เพราะว่าสวยมากจริง ๆ ถ่ายมุมไหนก็สวย ดูในรูปที่รีวิวว่าสวยเเล้วเเต่มาเจอของจริงสวยกว่าที่เห็นในรูปร้อยเท่าอาจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เย็นสบายภายใต้อุณหภูมิ 23 องศา ทำให้ยิ่งเพิ่มความประทับใจเข้าไปอีก :) หลังจากถ่ายรูปกันพอสมควร เราก็ได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร ลีไวน์ รักไทย อาหารจีนยูนาน ที่เปรียบเสมือนห้องอาหารของรีสอร์ต โดยห้องอาหารนี้ไม่ได้อยู่ในตัวรีสอร์ตนะคะ เราจะต้องเดินออกจากรีสอร์ตไปเล็กน้อยก็เจอค่ะ ทำให้กลายเป็นร้านที่ใครก็สามรถเเวะมาทานได้ ไม่ได้พักที่ลีไวน์ก็ทานได้ เเต่ต้องเสียค่าอาหารเป็นอย่าง ๆ ไป เเต่สำหรับลูกค้าที่เข้ามาพัก ในช่วงที่เช็คอินเข้าเราจะได้รับคูปองทานอาหารมื้อเช้าอยู่เเล้วค่ะ อาหารที่นี่ก็จะเป็นเป็นอาหารจีนตามชื่อร้านเเละสไตล์ของรีสอร์ตเลยค่ะ โดยร้านจะเป็นเเบบบุฟเฟ่ต์ ให้เราเลือกตักเอง บรรยากาศร้านก็จะจัดเป็นสไตล์จีน มีชาร้อนมาเสิร์ฟ อาหารก็จะมีข้าวผัดไข่ ผัดหมี่ ไฮไลท์ของร้านเลยคือหมั่นโถว จิ้มกับนมอร่อยมากค่ะใครได้มาที่นี่ก็ต้องเเนะนำเจ้าสิ่งนี้เลย เเต่ถ้าหากใครที่กำลังกังวลว่าอาหารจะทานยากไหม จะจืดไปหรือเปล่า นักเขียนบอกเลยว่าผิดคาดมากค่ะ เพราะนักเขียนก็ไม่ค่อยชอบทานอาหารจีนเท่าไร เพราะมีภาพจำว่ารสชาติจะจืด ๆ เลี่ยน ๆ เเต่พอนักเขียนได้ลองมาทานอาหารที่รักไทย นักเขียนประทับใจมาก เพราะเป็นรสชาติที่ดี ไม่จืดเเต่ก็ไม่ได้จัดตามสไตล์คนไทย เหมือนเค้ามาปรับสูตรให้ทานง่ายขึ้น ไม่ใช่เเบบจีนจ๋า ๆ เลย นักเขียนจัดไปหลายจานเลยค่ะ นั่งทานข้าวพร้อมกับชมบรรยากาศหมู่บ้านฝั่งตรงข้าม เป็นภาพที่นักเขียนจินตนาการตามรูปภาพที่ไปอ่านรีวิวมาสวยเเล้วเเต่เมื่อเราได้มาเห็นด้วยตาจริง ๆ กลับรู้สึกว่ารูปถ่ายไม่สามารถถ่ายทอดความงามออกมาได้ทั้งหมด เค้าถึงบอกว่า การออกมาเที่ยวคือการออกมาเปิดโลก นักเขียนได้เห็นในสิ่งที่รูปภาพไม่สามารถอธิบายได้ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากจริง ๆ :) เเต่จริง ๆ เเล้วถ้าหากใครที่เคยได้เห็นรีวิวที่นี่มาบ้างก็น่าจะคุ้นเคยกับเรือล่องลำนี้ เพราะจริง ๆ เเล้วไฮไล์ท์เด็ด ๆ ของที่นี่นอกจากจะเป็นที่พักที่สวยเเล้วก็คือการล่องเรืองในเเม่น้ำนี้ท่ามกลางทะเลหมอกค่ะ จริง ๆ สิ่งนี้ก็เเอบผิดหวังเหมือนกัน เพราะมาช่วงหมดโควิดใหม่ ๆ ทำให้เรืองดให้บริการ ถ่ายมาได้เเค่เรือที่จอดนิ่งอยู่ฝั่ง เเต่นักเขียนตั้งใจว่ามาครั้งหน้าจะต้องมาล่องเรือลำนี้ท่ามกลางหมอกให้ได้เลยล่ะ ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยประมาณ 8 โมงเช้า นักเขียนก็เตรียมตัวเช็คเอาท์ออก กลับไปที่ตัวเมือง เพื่อเตรียมเดินทางกลับกรุงเทพ ภายในหมู่บ้านรักไทยจะมีรถสองเเถวรับส่งหมู่บ้านรักไทย-ปางอุ๋ง-อำเภอเมือง เเต่จะเช้าหน่อยอยู่ช่วงเวลา 8-9 โมงเช้าค่ะ ค่ารถคนละ 30 บาทเท่านั้น สามารถบอกคนขับได้ว่าจะลงช่วงไหน ส่วนนักเขียนไปลงที่บขส.รถทัวร์เลยค่ะ จริง ๆเเล้วทริปนี้เรามาตามรีวิวนึงที่นักเขียนบังเอิญเลื่อนฟีด Facebook ผ่าน เเล้วเพิ่งรู้ว่าเเม่ฮ่องสอนมีที่เเบบนี้ด้วยหรอ ทำให้เราเริ่มหาข้อมูลเเละทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก รู้ตัวอีกทีจองตั๋วรถ จองที่พักไปซะเเล้ว ฮ่า เเต่ถึงอย่างนั้นนักเขียนก็ยังรู้สึกขอบคุณการตัดสินใจครั้งนั้นที่มันทำให้นักเขียนได้ค้นพบอะไรหลาย ๆ ตลอดทั้งทริป ย้อนกลับไปดูรูปทุกครั้งก็คิดถึงความสุขในช่วงเวลานั้นเสมอค่ะ ขอบคุณนักอ่านที่สามารถอ่านมาถึงตรงนี้ได้นะคะ ไม่รู้ว่าบทความนี้จะให้ข้อมูลได้มากน้อยเท่าใด เเต่นักเขียนก็ตั้งใจถ่ายทอดความสุขที่ได้ออกไปท่องเที่ยวผ่านเรื่องราวเเละภาพถ่ายที่เคยได้ไปมา มาเเชร์ให้คนที่สนใจหรือกำลังมองหาที่เที่ยวหลังโควิดนี้ เผื่อเป็นตัวเลือกนะคะ ยังไงสุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ เเล้วเราจะได้ออกไปเที่ยวกันอีกเเน่นอนค่ะ :) เรื่อง/ภาพประกอบ โดยนักเขียน Pepermintchill สามารถติดตามผลงานภาพถ่ายอื่น ๆ ได้ที่ Instagram กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !