พิษโควิดทำให้การเดินทางออกนอกพื้นที่เป็นเรื่องที่ลำบาก และเป็นเรื่องยากที่จะจัดทริปสั้นๆ เพื่อเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ผู้เขียนเลยใช้บรรยากาศในการ "คิดถึง" สถานที่ ที่เคยไป (แต่นานมาแล้ว) เพื่อมาบอกเล่า... "แขวงคำม่วน" เป็นแขวงหรือจังหวัด จังหวัดหนึ่งที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ชายแดนติดกับจังหวัดนครพนม ซึ่งเมืองเอกคือ "เมืองท่าแขก" โดยมีแม่น้ำโขงเป็นตัวกั้น และมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 เพื่อใช้ในการคมนมคมขนส่งระหว่างประเทศไทยและลาว การเดินทางจากกรุงเทพ โดยขึ้นรถที่ขนส่งหมอชิต 2 มาลงที่จังหวัดนครพนม แต่เราได้เดินทางจากจังหวัดเลย โดยขึ้นรถที่สถานีขนส่งจังหวัดเลย โดยรถ "เชียงราย – นครพนม" และข้ามฟากไปยังแขวงคำม่วนโดยรถโดยสารประจำทาง "ท่าแขก - นครพนม" หรือข้ามฟากโดยเรือที่ "ท่าเรือท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม" วันเดินทางตรงกับวันคืนวันที่ 4 ธันวาคม 2558 (เป็นคืนก่อนวันเดินทางด้วยสิ) ทางบริษัทรถไม่ให้จองตั๋ว ให้มารอขึ้นรถเลย เพราะว่าจังหวัดเลย เป็นท่ารถระหว่างทาง รถที่จะเดินทางรอบแรก 4 ทุ่มจ้า แต่ดันเต็มหมดเลย รอบห้าทุ่มก็เต็ม รอบตี 2 ก็เต็ม ได้ขึ้นแล้ว...รอบตี 3 (สรุปคือเดินทางวันที่ 5) ระหว่างนั้นก็นอนเล่น กินอะไรร้อนๆ วนไป... อากาศก็เย็นๆด้วยสิ กำลังเข้าหน้าหนาวแล้ว!!! ถึงจังหวัดนครพนมทั้งทีก็ไม่แวะลืมกินขนมจีนน้ำนัวเรณูนคร และไปสักการะพระธาตุพนม ก่อนข้ามฟากไปยังแขวงคำม่วน เอาจริงๆ เวลาออกทริปไม่เคยที่จะแพลนเรื่องเวลาเลย ขอให้ถึงจุดหมายที่คิดว่าไปพอ แต่ความไม่แพลนนั่นแหละ เราข้ามฝากด้วยรถโดยสารไปถึงที่ขนส่งของแขวงก็ค่ำ (ประมาณห้าโมงเย็น) แรงเราไหว...ลุยต่อ และความที่ชอบเดินทางโดยไม่ซื้อซิมโทรศัพท์ของอีกประเทศ ถึงจะดูยุ่งยาก แต่มันก็ท้าทายดี(มั้ง) เลยไปถามสามล้อว่ารู้จักโรงแรมนี้ และแน่นอนสามล้อรู้จัก เพราะในสมัยนั้นโรงแรมในแถบนั้นยังมีน้อย เราก็ทำการบ้านมาแค่ว่า จองโรงแรม ชื่อโรงแรม ห่างจากขนส่งกี่กิโลเมตร ซึ่งสามล้อเรียกค่าโดยสาร 400 บาท จ้า โรงแรมห่างที่พักประมาณ 5 กิโลเมตร เราไปกับน้องสองคน และไปครั้งแรก แต่ความเคยเดินทางมาบ้าง เลยเล่นตัวไปว่าแพงอะ แล้วทำเหมือนจะเดินไป ดันมีสามล้ออีกคันหนึ่งมาถามว่าจะไปไหน จ่ายได้เท่าไหร่ เราก็บอกพิกัดไป บอกจ่ายได้ 200 บาท และตกลงตามนี้ได้ ก็ไปสิคะ พอมาถึงโรงแรมด้วยความจะบอกทางบ้านว่าถึงที่พักแล้ว แต่โรงแรมไม่มีอินเตอร์เน็ตจ้า...เอาไงดีจะต้องเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไว้เที่ยววันถัดไปซะด้วย เลยไปขอให้เจ้าของโรงแรมพาไปร้านเช่ารถ ซึ่งเจ้าของโรงแรมก็ใจดีมากกกกก เพราะโดยปกตินานๆจะมีคนมาพัก ซึ่งส่วนใหญ่ที่เดินทางมาแขวงคำม่วนก็จะมาแบบ one day trip แล้วกลับไปนอนที่นครพนม ค่ามัดจำรถที่นี่ก็แพงพอสมควร (4-5,000 บาท) แต่ก็เข้าใจเหตุผลแหละว่าติดชายแดนทั้งสองฝั่ง ทั้งชายแดนไทยและชายแดนเวียดนาม (เลยขอมัดจำเป็นเงินไทยไว้และพาสปอร์ตอีก) พอได้รถแล้วก็กลับมารับน้องไปหาร้านอาหารที่มี wifi เพื่อจะได้ติดต่อทางบ้าน และซื้ออะไรเย็นๆ กลับไปดื่ม (เพราะมาลาวทั้งที จะพลาดเบียร์ลาวไม่ได้) พักผ่อนและเตรียมลุยวันพรุ่งนี้จ้า ด้วยความไม่แพลนอีกตามเคย เราก็ถามพี่ที่โรงแรมว่าแถวนี้ที่ไหนน่าไปบ้าง พี่ที่โรงแรมก็บอกถ้ำนกแอ่นและวัดศรีโคตรบูร พี่แกบอกไม่ไกลหรอก (อย่าถามว่า "ไกลไหม?" กับคนที่นี่ เพราะทุกคนจะบอกว่า "ไม่ไกล" กันทั้งนั้นเลย...อีกหลักเดียว (อีก 1 กิโลเมตร) ก็จะถึง) เมื่อถึง "ถ้ำนกแอ่น" ไม่รู้จะเรียกว่า ต้องกลับมาซ้ำอีกหรือเปล่า เพราะตอนที่ไปไฟในถ้ำดับ ต้องดูวิว บรรยากาศรอบๆ ด้วยไฟฉาย ก็ไม่เป็นไรถือว่าได้บรรยากาศอีกแบบ สำหรับสถานที่อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด คือ "วัดศรีโคตรบูร" ภายในเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุ บรรยากาศสงบ ลมพัดเย็นสบาย ติดริมโขง ในวันนี้ เราออกกันไม่เช้ามากประมาณ 9 โมงเช้า หาไรกิน หลงทางบ้าง (ไม่บ้างแหละ มากเลย) ไปสองที่ใช้เวลาร่วมๆ 6 ชั่วโมงเอง แต่ที่สำคัญที่พลาดไม่ได้ “ข้าวจี่ปาเต๊ะ” เด้ออออออ หรือเรียกว่าแซนวิชเมืองลาว โดยขนมปังฝรั่งเศสมาทำแซนวิช นำขนมปังทามายองเนส ใส่พริกดองน้ำส้ม ซอสพริก ผักชี แตงกวาสด เนื้อหมู หมูยอ หมูหยอง แซ่บอีหลีจ้าาาาาา เมื่อจบทริปแล้วเราก็กลับมาคืนรถมอเตอร์ไซค์ประมาณบ่าย 3 โมง ข้ามฟากโดยเรือ แล้วกลับภูมิลำเนากัน. รูปทั้งหมดเป็นรูปที่ผู้เขียนถ่ายเอง หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !