เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลาย ๆ หมู่บ้านของกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ ลำปาง ตาก และบางส่วนในพื้นที่จังหวัดน่านกับพิษณุโลก ได้ประกอบพิธีสำคัญประจำปีของหมู่บ้าน คือ “ ล้อ ข่อง ดู่ เออ ” เรียกเป็นภาษาไทยว่า “ พิธีปลูกประตูหมู่บ้านหรือประตูผีบ้าน ” ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่ และทุกคนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญจะขาดไม่ได้ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่สนใจ ก็มักจะวางแผนลงไปเที่ยวชม และเรียนรู้ประเพณีนี้เสมอ แต่เพราะติดสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดจึงทำให้พลาดโอกาสนี้ไป แต่ในหมู่บ้านก็ยังคงทำประเพณีนี้เป็นปกติ เพียงแต่ปรับมาสื่อสารด้วยภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวผ่านโลกออนไลน์แทน เพื่อที่ว่าลูกบ้านซึ่งไปทำงานในชุมชนอื่น จะมีส่วนร่วมเหมือนทุกปีดังเช่นที่เคยทำมา ก่อนจะลงรายละเอียดเรื่องพิธีกรรมดังกล่าว ผมขอบอกเล่าเพื่อความเข้าใจ เกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าสักเล็กน้อยน้อยนะครับ ในประเทศไทยได้แบ่งกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าออกเป็น 8 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มหน่าค๊าอาข่า, กลุ่มเปี๊ยะอาข่า, กลุ่มอ้าเค้ออาข่า, กลุ่มอ้าจ้ออาข่า, กลุ่มอูพีอาข่า, กลุ่มอู่โล้อาข่า และกลุ่มลอมี้อาข่า อันที่จริงคนไทยทั่วไปมักจะรู้จักกลุ่มชาติพันธุ์อาข่าในชื่อว่า “ อีก้อ ” มากกว่า แต่คำเรียกนั่นไม่ใช่คำที่กลุ่มชาติพันธุ์อาข่าพึงพอใจนัก ดังนั้นผมจะไม่กล่าวถึงคำนั้นอีก กลุ่มชาติพันธุ์อาข่า นิยมอาศัยอยู่บนพื้นที่ดอยสูง มีความลาดเทหรือตามสันเขา โดยสถานที่ในการตั้งชุมชนมักตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำ หนองน้ำหรือพื้นที่ราบ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตร ค้าขายเร่และเลี้ยงสัตว์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และพิธีกรรมทุกอย่างในการดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ คำว่า “ บัญญัติอาข่า ” ซึ่งครอบคลุมความเชื่อในผีหลายประเภท สิ่งเร้นลับในธรรมชาติ โชคลางและการเสี่ยงทาย ทุกครัวเรือนจึงมีหิ้งผีบรรพบุรุษไว้เซ่นไหว้ปีละ 9 ครั้ง และมีศาลพระภูมิหรือผีหมู่บ้าน คือ ผีที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน คอยปกป้องรักษาคนในชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยจะสังเกตเห็นว่า ปากทางเข้าหมู่บ้านจะมีการสร้างประตูหมู่บ้านไว้ เรียกว่า “ ล้อข่อง ” ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ผมจะมาแนะนำให้รู้จักนั่นเอง “ พิธีปลูกประตูหมู่บ้านหรือประตูผี ” นี้ มักจัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี ตามปฎิทินชุมชนของกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า ที่ยึดถือปฏิบัติกันยาวนานมาตั้งแต่อดีต ใช้เวลาประกอบพิธี 1 วัน โดยพิธีกรรมจะเริ่มต้นด้วยผู้นำที่เป็น 4 เสาหลักของชุมชน มานำประชุมและกำหนดวันจัดพิธีกรรม ประกอบด้วย 1. เจ่วมาและลเจ่วหย่า ผู้นำศาสนาของชุมชน 2. พิมา เบ้วหม่อ หมอสวดพิธีกรรมทางศาสนา 3. ยี้ผ่า หมอทรง มีหน้าที่ในการรักษาคนไข้ด้วยสมุนไพรและเข้าทรง 4. ขะมา หละจ่า คนทำหน้าที่ประสานงานกับบุคคลภายนอกเสมือนผู้ใหญ่บ้าน ในวันทำพิธีกรรม หัวหน้าทุกครัวเรือนจะต้องไปรวมตัวกัน ที่บ้านของผู้นำศาสนาในชุมชน ช่วยกันเตรียมเครื่องเซ่นไหว้หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม จากนั้นไปยังจุดทำพิธี ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านทิศเหนือ ไม่ไกลจากชุมชนมากนัก อยู่สูงในจุดหรือทำเลที่สามารถมองเห็นชุมชนได้อย่างทั่วถึง เมื่อเลือกต้นไม้ได้แล้ว ก็จะแกะสลักเป็นรูปเคารพเครื่องเซ่นสรวงบูชา บางกลุ่มก็ไปตัดไม้ไผ่มาทำเป็นเครื่องประดับเรียกว่า “หน่าชิหน่าจะ” และทำเป็นตาแหลว “ ด๊าแล้ ” ติดห้อยไว้โดยรอบประตู ต่อจากนั้น พิมา เบ้วหม่อ หมอสวดพิธีกรรมทางศาสนา ก็จะนำกล่าวบูชาเซ่นไหว้ขอพรภูตผีเจ้าที่เจ้าป่า ให้มาช่วยปกป้องพื้นที่ทำกินและอวยพรให้พืชผักงอกงามได้ราคาดี ไม่มีโรคภัยและปลอดจากแมลงต่าง ๆ ที่จะมารบกวนในพื้นที่ทำกิน จากพิธีกรรมดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ากลุ่มชาติพันธุ์อาข่ามีความเชื่อว่า ประตูนี้จะช่วยป้องกันสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ภูตผีปีศาจโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด ไม่ให้เข้ามาในชุมชน เป็นการแบ่งเขตแดนระหว่างผีกับคนออกจากกัน จนกลายเป็นธรรมเนียมที่ทุกหมู่บ้านต้องสร้างประตูนี้ ที่สำคัญ ห้ามบุคคลทุกเพศทุกวัยแตะต้องประตูนี้ ดังนั้น นักท่องเที่ยวหรือคนต่างถิ่นที่ผ่านมาเจอประตูนี้ในหมู่บ้าน จึงไม่ควรแตะต้องประตู หรือสิ่งของใด ๆ ที่ประตูเด็ดขาดนะครับ...เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน หมู่บ้านที่ปรากฏในภาพคือ : บ้านป่าคาสุขใจ ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมด จากเพจ อาหลง เบเชกู่