เมื่อนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพเพียง 200 กิโลเมตรเท่านั้น คงหนี้ไม่พ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เอาใจสายธรรมชาติท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเพลิดเพลินกับกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เป็นวิวทิวทัศน์ท่ามกลางธรรมชาติที่แสนงดงามเปรียบเสมือนสตูดิโอธรรมชาติที่สามารถถ่ายรูปได้ทุกมุม ที่สำคัญใช้งบในการเดินทางไปกลับไม่สูงและมีทางเลือกในการเดินทางอีกมากมาย จะไปกันเป็นกลุ่ม เป็นครอบครัว เป็นนักศึกษาออกทริปกับเพื่อน ๆ หรือจะออกทริปเพียงคนเดียวก็ได้ทั้งนั้น พอมาถึงจุดนี้เรามีอีกทางเลือกในการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในปี 2024 ด้วยงบไม่เกิน 2,000 ใช้เวลาอยู่กับเขาใหญ่นานถึง 3 วัน 2 คืน เอาใจสายลุยนอนกางเต็นท์เดินทางด้วยรถไฟ และเช่ารถจักรยานยนต์เท่านั้น สามารถเก็บเกี่ยวบรรยากาศระหว่างการเดินทางได้อย่างอิสละ ไปได้ทุกจุดที่อยากไปภายในอุทยานแบบเต็มจัดเต็มสุด ๆ ขั้นตอนในการเดินทางจะเป็นอย่างไรดูกัน เตรียมตัวก่อนออกทริปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 3 วัน 2 คืน บอกก่อนเลยทริปนี้เราไปเที่ยวกันเป็นกลุ่ม รวมทั้งหมดเป็น 3 คน เดินทางจากกรุงเทพฯ ในตอนเช้า และสถานที่ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในอุทยานทั้งหมด แนะนำให้เตรียมของใช้ส่วนตัว ยา ไฟฉาย กล้อง และนำเต็นท์ไปด้วยจะได้ไม่ต้องเช่าเต็นท์ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปจะรวมเฉพาะผมคนเดียวนะครับ เช็ครอบขบวนรถไฟก่อนออกเดินทาง เพื่อจะได้รู้ว่าควรออกจากบ้านกี่โมงถึงจะไปทันรถไฟ ดูผ่านเว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (railway.co.th) เลือกเมนูสายตะวันออกเฉียงเหนือ เลือกต้นทางจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ถึงปลายทาง ปากช่อง จากนั้นเลือกวันเดินทางและจำนวนผู้โดยสาร จะแสดงเวลาออก เวลาที่จะไปถึง ประเภทขบวน ใครสะดวกจองตั๋วออนไลน์ก็สามารถจองได้เลยครับ หาร้านเช่ารถจักรยานยนต์ ค้นหาร้านตามเพจ Facebook ที่ตั้งร้านควรอยู่ภายในอำเภอปากช่องหรือหน้าอุทยานเลยก็ได้ สำหรับร้านที่เราจองไว้ล่วงหน้าจะอยู่ในตัวอำเภอปากช่องไม่ห่างจากสถานีรถไฟมาก Inboxเข้าไปเขาจะให้แจ้งชื่อผู้จอง เบอร์โทรศัพท์ วันเวลาที่จองและคืนรถ มีค่าเช่าอยู่วันละ 300 บาท/คัน เอกสารที่ใช้เช่าก็จะมี บัตรประจําตัวประชาชน ค่ามัดจำ 500 บาท/คัน เราจองในวันที่ออกเดินทางเวลาไปรับรถ 14:30(คาดการณ์จากเวลาที่เดินทางไปถึงร้าน) เช่า 2 วัน 2 คัน และชำระเงิน 1,200 บาท หารกันจ่ายคนละ 400 บาท ส่วนค่ามัดจำผมจ่ายให้ก่อน 1,000 บาท วันที่ 1 เดินทางจากกรุงเทพฯ – อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ปากช่อง ทานข้าวเช้าให้เรียบร้อยแล้วออกจากบ้านในช่วงเช้า ๆ 8:00 ขึ้นBTSไปลงหมอชิตและต่อรถไปสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่เกิน 100 บาท ซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลาออก 10:35 เวลาถึง 13:25 ราคา 185 บาท/ที่นั่ง พอถึงลงจากสถานีปากช่องหาอะไรกินให้เรียบร้อยเพราะต้องขับรถอีกไกล เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์จากปากช่อง – อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หลังจากนั้นเดินจากสถานีรถไฟปากช่องไปร้านเช่ารถจักยานยนต์ ทำเอกสารแล้วเลือกรุ่นและหมวกกันน็อคให้เรียบร้อย ทางร้านจะให้น้ำมันเต็มถังเมื่อใช้งานเสร็จต้องเติมน้ำมันให้เต็มก่อนนำมาส่งคืน ซึ่งค่าน้ำมันออกเองนะจ๊ะ พอได้รถแล้วก็ขับรถระยะทางจากตัวอำเภอปากช่องถึงทางเข้าอุทยาน 28 กิโลเมตร หน้าทางเข้าจะมีค่าบริการนักท่องเที่ยวดูได้จากเว็บ ค่าบริการ - Khao Yai National Park เราชำระค่าบริการผู้ใหญ่ 40 บาท และค่าเข้ารถจักยานยนต์ 20 บาท เสร็จแล้วอย่าลืมไปกราบไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อนออกเดินทางต่อ เดินทางไปที่จุดกางเต็นท์ เราเลือกที่จะไปกางเต็นท์ที่ ลานกางเต็นท์ลําตะคอง ระหว่างขับรถไปจะแวะไหนก็คำนึงถึงเวลาไว้กางเต็นท์ด้วยล่ะ เมื่อถึงลานกางเต็นท์ลําตะคองมีค่าธรรมเนียมเช่าพื้นที่กางเต็นท์ 30 บาท/คน/คืน เราเช่าผ้าห่มผืนละ 20 บาท/คืน รวมบริการทั้งหมด 2 คืน 100 บาท และยังมีอุปกรณ์สำหรับกางเต็นท์ให้เช่ารายละเอียดทั้งหมดดูได้จากเว็บ แคมป์ปิ้ง - Khao Yai National Park กางเต็นท์เสร็จแล้ว ทางอุทยานก็มีบริการห้องอาบน้ำและจุดชาร์จชาร์จแบตเตอรี่มือถือซึ่งจะเปิดจ่ายไฟฟ้าให้เป็นรอบ ๆ เมื่อฟ้ามืดแล้วนอนดูดาวสักพักแล้วรีบเข้านอนเพื่อเตรียมไปดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ วันที่ 2 ท่องเที่ยวแบบจัดเต็มภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ชมทิวทัศน์ผาเดียวดาย ตื่นแต่เช้าตรู่ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยขับรถต่อไปที่ จุดชมทิวทัศน์ผาเดียวดาย เป็นจุดที่โดดเด่นในการชมพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างขับรถก็ระวังเส้นทางลาดชันและสัตว์ป่าที่ออกหากินในตอนเช้าตรู่ด้วยนะ ชมทิวทัศน์ผาตรอมใจ ขับรถต่อมาอีกหน่อยก็จะถึง จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว (ผาตรอมใจ) เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในภาคกลางที่นี่มีบริการห้องน้ำร้านของชำและพักรับประทานอาหารเช้าที่นี่ได้เลย น้ำตกเหวสุวัต มีที่จอดรถให้บริการและเดินต่ออีก 100 เมตร ก็จะถึง น้ำตกเหวสุวัต ซึ่งไม่สามารถลงเล่นน้ำได้นะ เรานั่งพักริมโขดหินชมม่านน้ำตกขนาดใหญ่เสพบรรยากาศร่มรื่นฟิน ๆ ฟังเสียงน้ำตกสบาย ๆ และที่นี่ยังมีบริการห้องน้ำ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ให้บริการอีกด้วย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นี่ควรจะเป็นจุดเริ่มต้นก่อนเริ่มเที่ยวเขาใหญ่ด้วยซ้ำ เพราะที่นี่ให้นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นจุดกางเต็นท์ เส้นทางเดินป่า จุดชมทิวทัศน์ต่าง ๆ ที่สำคัญมีร้านอาหาร คาเฟ่ชิว ๆ ริมน้ำ เราเลยตัดสินใจพักทานอาหารกลางวันที่นี่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ เราตัดสินใจไปต่อกับเส้นทางเดินป่า ซึ่งที่เขาใหญ่มีเส้นเดินป่าที่มีให้เลือกถึง 7 เส้นทาง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเว็บ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ - Khao Yai National Park เราไปเส้นทางที่ 1 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว – น้ำตกกองแก้ว กับ เส้นทางที่ 7 ชื่อว่า 200 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ 2 เส้นทางสั้น ๆ ก็เหนื่อยเอาเรื่องแล้วครับ อ่างเก็บน้ำสายศร หลังจากลุยมาทั้งวันก็มานั่งปูเสื่อพักเสพบรรยากาศริม อ่างเก็บน้ำสายศร ที่นี่มีเป็นจุดที่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ อยู่แทบทุกมุม ยิ่งมาช่วงพระอาทิตย์ตกอากาศไม่ร้อนลมเย็น ๆ ชมแสงสุดท้ายของวันก็ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินป่าได้อย่างหมดจด ถือเป็นสถานที่สุดท้ายที่มาเติมเต็มทริปเขาใหญ่ได้ดีที่สุดแล้ว ***อย่าให้ฟ้ามืดซะก่อนล่ะ รีบขับรถกลับมาที่จุดกางเต็นท์ ไม่อย่างนั้นระหว่างทางจะมืดสนิทและจะมีสัตว์ป่ามาออกหากินตอนกลางคืนฉะนั้นขับระมัดระวังด้วย!! วันที่ 3 เดินทางกลับพร้อมความทรงจำดี ๆ และรูปถ่ายสวย ๆ เดินทางออกจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - ปากช่อง ตื่นแต่เช้าทำธุระส่วนตัวทานข้าวเช้า และเก็บเต็นท์ให้เรียบร้อยเพราะต้องขับรถอีกไกลไปที่ร้านเช่ารถในตัวอำเภอปากช่อง ก่อนนำรถส่งคืนให้เติมน้ำมันเต็มที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ เราใช้ไป 120 บาท เมื่อคืนรถเสร็จรับเงินมัดจำคืน 1,000 บาท เดินทางกลับจากปากช่อง – กรุงเทพฯ เดินเท้าต่อไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีปากช่อง 130 บาท จากปากช่อง-กรุงเทพอภิวัฒน์ ระหว่างรอรถไฟก็มีร้านอาหารใกล้ ๆ ทานข้าวกลางวัน เมื่อขึ้นรถไฟแล้วก็ต่อรถไปขึ้นBTSหมอชิตกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยจ่ายค่าเดินทางเพิ่มอีกไม่เกิน 100 บาท เป็นอันจบทริปเขาใหญ่แบบจุใจ 3 วัน 2 คืน ด้วยงบไม่เกิน 2,000 บาท คำนวณค่าใช้จ่ายตั้งแต่ต้นจนจบทริป ย้ำอีกครั้งนะว่าเป็นค่าใช้จ่ายเฉพาะตัวผมคนเดียวเท่านั้นตั้งแต่ต้นจนจบทริปนะครับ ค่าเช่ารถจักรยานยนต์ 2 วัน หารกับเพื่อนคนละ 400 บาท (ไม่รวมมัดจำ 1,000 บาท) ค่าเดินทางจากบ้านถึงอำเภอปากช่อง 285 บาท ค่าบริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 60 บาท ค่าธรรมเนียมเช่าพื้นที่กางเต็นท์ 2 คืน 60 บาท ค่าเช่าผ้าห่ม 2 คืน 40 บาท ค่าน้ำมัน 120 บาท ค่าเดินทางกลับจากอำเภอปากช่องถึงบ้าน 230 บาท รวมทั้งหมดเป็น 1,195 บาท เราตั้งงบไว้ 2,000 บาท ลบกับเงินที่ใช้ไป 1,195 บาท จะเท่ากับ 805 บาท ซึ่ง 805 บาท ก็เพียงพอสำหรับค่าอาหาร 3 วัน 2 คืนแล้ว เป็นอย่างไรบ้างสำหรับแนวทางการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างอิสระโดยไม่พึ่งรถส่วนตัวเลย อย่างไรก็ตามหากท่องเที่ยวที่ไหนแล้วมีงบที่ตั้งไว้ จำเป็นอย่างมากที่ต้องวางแผนการเดินทางให้ดี ที่สำคัญให้เกียรติสถานที่ทำตามกฎระเบียบ ไม่รุกราน ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า ทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทาง และไม่นำอะไรกลับไปนอกจากความทรงจำและรูปถ่ายด้วยนะครับ เครดิตภาพทั้งหมด โดย ครีเอเตอร์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !