สตูล เป็นจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่ง ถ้ามีคำถามว่าจะไปสตูลแล้วจะไปเที่ยวไหนดี ? ส่วนมากแล้วนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติก็มักจะนึกถึงเกาะแก่งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น เกาะหลีเป๊ะ เกาะไข่ เกาะตะรุเตา ฯลฯ แน่นอนว่าเกาะในฝั่งทะเลอันดามันในย่านนี้มันสวยงาม และสร้างความประทับใจแก่ผู้ที่มาเยือนนับครั้งไม่ถ้วน หากจะมีอีกสักหนึ่งคำถาม ถ้าจะไปเที่ยวแบบไม่ต้องลงเกาะล่ะ จะไปเที่ยวไหนอีกได้บ้าง ? จากคำถามนี้เองจึงเป็นที่มาของทริปนี้ค่ะ เราขับรถจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พาครอบครัวซึ่งไม่เคยไปสตูลมาก่อนในชีวิต นี่ขนาดว่าเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกัน ก็ยังไม่เคยไปเลย อาจจะเป็นเพราะที่ตั้งของ จ.สตูล มันไม่ใช่ทางผ่านเหมือน จ.พัทลุง หรือ จ.นครศรีธรรมราช ดังนั้นการเดินทางไปเที่ยว จ.สตูล ในครั้งนี้ ถือเป็นความตั้งใจอย่างมาก ตอนที่ขับรถเข้าเขตสตูลก็สัมผัสได้ถึงธรรมชาติทั้งสองข้างทางสมกับคำขวัญจังหวัดที่ว่า "สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์" ใช่ ! มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เส้นทางที่มุ่งสู่สตูลมีรถสัญจรไปมาน้อยมาก หันไปทางไหนก็แลดูเขียวชอุ่มไปหมด จุดมุ่งหมายแรกของเราอยู่ด้านซ้ายมือมีป้ายบอกทางเข้าไปยังแหล่งท่องเที่ยว บ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย และน้ำตกโตนปาหนัน ที่นั่นทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติแห่งขุนเขาและสายน้ำจาธรรมชาติ ที่มีความชุ่มชื้น มีอากาศดีดีมีให้สูดกันเต็มปอดกันเลยทีเดียว เมื่อออกมาจากน้ำตก ได้แวะที่ วัดดุลยาราม (วัดฉลุง) ภายในวัดมี "พ่อแก่" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสตูล พระประธานในวิหาร ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวสตูล หลังจากที่กราบไหว้ทำบุญและขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตแล้ว ก็ตรงเข้าเมืองกันต่อ เมื่อเข้าไปถึงตัวเมืองสตูล อีกหนึ่งสถานที่ ที่จะพลาดไม่ได้ นั่นก็คือ คฤหาสถ์กูเด็น หรือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล นั่นเอง ประวัติสถานที่คร่าวๆ คือ ความตั้งใจแรกของการสร้างเพื่อจะเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แต่ยังไม่ได้เสด็จมาประทับ ต่อมาจึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บเรื่องราวในอดีตของจังหวัดสตูล มาที่นี่ก็จะได้เรียนรู้ถึง ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต ของชาวสตูล มีค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ส่วนเด็ก และผู้สูงอายุ ไม่เก็บค่าเข้าชม เปิด วันพุธ ถึง วันอาทิตย เวลา 9.00 - 16.00น. หยุดวันจันทร์,อังคาร และ นักขัตฤกษ์ หลังจากเข้าเช็คอินที่พักแล้ว ก็นอนกลางวันพักผ่อนกัน ตอนเย็นแดดร่มลมตก ออกมาเดินเล่นชมเมืองกันดีกว่า และที่พลาดไม่ได้สำหรับคนชอบถ่ายรูปนั่นก็คือ Street Art เมืองสตูล ซึ่งจะหาไม่ยากเท่าไร โดยมันจะกระจายๆแถวย่านในเมือง เอามาเป็นน้ำจิ้มให้ดููประมาณนี้นะคะ วันที่เราไปตรงกับวันเสาร์พอดี ซึ่งในทุกวันเสาร์ ช่วงเย็นก็จะมี ตลาดนัดถนนคนเดิน ตั้งอยู่บริเวณหอนาฬิกาและมัสยิดกลาง สามารถเดินเล่น เลือกซื้อของ และหาอะไรอร่อยๆกิน บรรยากาศช่วงหัวค่ำเป็นอะไรที่คึกคักมากสำหรับเมืองเล็ก เมื่อกินอิ่มก็กลับที่พักนอนหลับพักผ่อนกันต่อไป เก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ เช้าวันรุ่งขึ้น ขับรถออกจากโรงแรม โดยมุ่งหน้าจะไปเขาโต๊ะพญาวัง ผ่านวัดสตูลสันตยาราม เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เบื้องหลังเป็นภูเขา แลดูสง่างามมากๆ และแน่นอน อดไม่ได้ที่จะแวะเก็บภาพไว้ ไม่ไกลจากวันสตูลสันตยารามก็จะถึง เขาโต๊ะพญาวัง เป็นสวนสาธารณะที่สามารถขับรถเข้าไปได้โดยเวียนเป็นวงกลมรอบภูเขาขนาดใหญ่ เป็นถ้ำหินมีธรรมชาติร่มรื่น และมีลิงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งมีตลาดนัดเช้าที่ด่านพรมแดนวังประจัน ซึ่งเป็นด่านระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย หลังจากที่เที่ยวชมเขาโต๊ะพญาวังแล้ว จึงเดินทางต่อกันค่ะ บริเวณหน้าด่านพรมแดนวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล อยู่ติดกับ ด่าน Wang Kelian รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย จะมีของขายทั้งสองข้างทางก่อนถึงด่าน สามารถจอดรถและเดินผ่านด่านเพื่อไปร้านขายสินค้าปลอดภาษี หรือ Duty Free Shop ในเขตประเทศมาเลเซียได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือเดินทางแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเดินออกนอกประเทศกันเลยทีเดียว ภายในร้าน Duty Free ก็จะมีสินค้าหลายอย่างซึ่งจะเน้นหนักไปทางของกิน ไม่ว่าจะอาหารแห้ง ขนม นม ช็อคโกแลต น้ำผลไม้ น้ำกระป๋องต่างๆ และที่ขาดไม่ได้ พวกเหล้า ไวน์ บุหรี่ ฯลฯ พนักงานที่นี่พูดภาษาไทยได้ และสามารถจ่ายเป็นเงินบาทไทยได้เลย ตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งกำลังดี ก็ซื้อกันพอหอมปากหอมคอค่ะ ขากลับออกจากด่านมาไม่ไกล เจอทางเลี้ยวด้านขวามือ มุ่งหน้าไปอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ทะเลบัน ไม่ใช่ทะเล แต่เป็นบึงขนาดใหญ่ มีทางเดินให้ชม ธรรมชาติป่าที่สวยงามค่ะ ออกจากทะเลบัน ก็มุ่งหน้ากลับหาดใหญ่ เป็นอันจบทริป เห็นด้วยใช่ไหมคะ ที่ว่าสตูลไม่ได้มีดีแค่ที่เกาะเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นแค่เพียงจังหวัดเล็กๆ เงียบๆ แต่ช่างมีเสน่ห์น่าค้นหาจริงๆนะ อย่าลืมหาโอกาสไปสัมผัสเมืองสตูลด้วยตัวคุณเองนะคะ...