19-20/06/2552 คือวันที่ของภาพถ่ายในเซตนี้ กว่า 10 ปีมาแล้วล่ะ ณ ปาย เมืองในหุบเขาอันเงียบสงบ จ.แม่ฮ่องสอน ที่พวกเราเห็นมาจากหนังเรื่องอะไรสักเรื่อง (จำไม่ได้) เพื่อนคนหนึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อนคนหนึ่งอยู่ลำพูน อีกหนึ่งคนอยู่ลำปาง ซึ่งสาวลำปางหนา ก็คือข้าพเจ้าผู้เขียนบทความนี้ นี่เอง... ไม่ต้องใส่ใจมาก เพราะไม่ใช่สาระ เราจะพาเพื่อน ๆ ย้อนเวลาไปเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ว่าเมืองปายแห่งนี้ น่าอยู่และสงบมากแค่ไหน พวกเราถึงอยากมาเที่ยวกัน ดูจากภาพปกรู้แล้วใช่ไหมล่ะ? 12.29 น.พวกเราอยู่ระหว่างเดินทาง โดยนัดเจอกันที่ขนส่งเชียงใหม่ ตอนนั้นไม่ได้ขับรถไปเอง เพราะอยากตะลอนทัวร์ หรือพะรุงพะรังทัวร์ก็ไม่รู้อะนะ... คือศึกษามาแล้วว่าจะพักที่เมืองปาย แถวนั้นมีทั้งเกสเฮาส์ ตลาดของกินของใช้ รถเช่า และสถานีขนส่ง คือพร้อมและสะดวกแทบทุกอย่าง ซึ่งในช่วงที่ไปเที่ยวก็ไม่ใช่ไฮซีซั่น ดังนั้นเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยรถโดยสาร ก็ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ทริปนี้เราไปเที่ยวกันหลายที่ ไม่ไกลจากแถวที่พักมาก หลักใหญ่ใจความ อยากให้เพื่อน ๆ ได้เห็นเมืองปายเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา แต่บอกย้ำตรงนี้ก่อนว่า เป็นมุมมองของเราเท่านั้นนะ เพราะเมื่อปลายปี 2562 เราก็เพิ่งไปมาเหมือนกัน และบรรยากาศในภาพต่อไปนี้ คงหาดูได้ยากแล้วล่ะ “ปายในฝัน” ที่พักริมน้ำหลังเล็ก ด้านหน้าคือสายน้ำปาย สุดสายตาคือภูเขาลูกใหญ่ ที่เห็นได้ใกล้มากในระดับสายตา เชียวชอุ่มไปด้วยหญ้าสีเขียวสด ต้นไม้น้อยใหญ่ และดอกไม้เล็ก ๆ ทั่วบริเวณ ในวันที่ท้องฟ้าสีขุ่นไม่ได้สดใสอะไร แต่เรากลับสูดหายใจได้เต็มปอด แถมยืนยิ้มให้กับธรรมชาติเบื้องหน้าได้พักใหญ่กันเลยทีเดียว พวกเรามาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่นี่ เพื่อขับไปเที่ยวกันเกือบทั้งวัน อย่างที่บอกแหละ ไม่ได้ไปไหนไกลมาก ลัดเลาะไปเฉพาะที่ใกล้ ๆ เท่านั้น เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิด ในช่วงเวลานั้น จะไม่ค่อยมีคนเอารถยนต์ส่วนตัวมาเท่าไร พวกเราก็เที่ยวแบบคนต่างประเทศนั่นแหละ แว้นกันสนุกมาก ถามว่าอันตรายไหม บอกเลยว่า “ไม่” เพราะรถยนต์ไม่ได้เยอะมากเหมือทุกวันนี้ ส่วนนี้คือเมืองปาย หมายความว่าในตัวเมืองเค้าอะนะ ในยุคนั้นก็จะโล่ง ๆ ประมาณนี้ การค้าขายมีมากพอสมควร อยากกินอะไรก็ไม่อดนะ มีขายครบวงจรเหมือนกับตลาดทั่วไป จะสังเกตได้ว่าถนนโล่งมากถึงมากที่สุด พวกเราใช้วิธีเดินไปเรื่อยเพื่อหาของกิน เหมือนได้สัมผัสวิถีชาวบ้านของที่นี่เค้าอย่างแท้จริงด้วย “ปายอินเลิฟ” ที่นี่เค้าดังมากเมื่อ 10 ปีที่แล้ว อ้อ!! จำได้ละ น่าจะหนังเรื่องปายอินเลิฟนี่แหละ ที่ทำให้พวกเรามาเที่ยวกัน และภาพนี้คือบรรยากาศของช่วงเวลานั้น ตึกสีเหลืองหลังใหญ่ ตระหง่านอยู่ที่ถนนสายหลัก จักรยานสีขาวรุ่นโบราณ จอดใช้ไม่ได้ แต่กลับเป็นพร็อพที่น่ารักมาก การตกแต่งรอบ ๆ บริเวณ เป็นการผสมผสานธรรมชาติกับจินตนาการ ที่ประทับใจเราได้แบบไม่รู้ลืม สีเขียวและสีสันของทั้งต้นไม้และดอกไม้ รวมกับผืนหญ้าบนพื้นดิน ทำให้พวกเราเดินสวนกันไปมาวุ่นวายมาก ไม่ใช่อะไรนะ... ถ่ายภาพนั่นแหละ วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยไปข้างหนึ่งเลย จากนั้นก็มาเดินเล่นต่อกันที่ “สะพานท่าปาย” ในช่วงนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีนักท่องเที่ยวนะ ก็มีเรื่อย ๆ เดินสวนกันพอไม่เหงา แต่ไม่หนาตาเหมือนทุกวันนี้ ไม่มีการเอาของมาตั้งกลางสะพาน เพื่อทำกิจกรรมบางอย่างให้เสียองค์ประกอบภาพ โครงสร้างที่แข็งแรง พื้นไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีของตัวสะพาน รวมถึงมีประวัติความเป็นมาให้เราเรียนรู้ นี่แหละ!! สมัยนั้น... สายชิลล์แบบพวกเราถึงต้องมาโดนกันไง แต่ปลายปี 2562 ที่ผ่านมา แทบหาที่จอดรถไม่ได้ พวกเราเลยไม่ได้แวะ “หมู่บ้านสันติชล” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว จะเป็นแบบนี้นะ มีบ้านดินรอบ ๆ พื้นที่ เป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ในช่วงเวลานี้น่าจะราว ๆ 4-5 โมงเย็น ทั่วบริเวณเงียบสงบ สะอาด โล่งกว้าง ด้านหน้าจะเป็นศูนย์โอทอปเล็ก ๆ เน้นขายสมุนไพรและของที่ระลึกเป็นหลัก สำหรับต้นฤดูฝน อากาศจะเย็นสบายมาก ๆ ถือได้ว่าเป็นแหล่งออกซิเจนชั้นยอดอีกที่หนึ่งเลย ... ย้ำว่า!! เมื่อ 10 ปีที่แล้วนะ เราอาจไม่ได้เห็นบรรยากาศเก่า ๆ ในที่เดิมได้อีกต่อไป นอกจากภาพถ่ายและความทรงจำ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปตามวันเวลา เป็นเพราะสัจธรรมหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ จะบอกว่าเสียดาย ก็กล้าพูดได้เต็มปาก จะบอกว่าเข้าใจในความเป็นไป ก็ทำใจให้รู้สึกแบบนั้นยากเหลือเกิน ... เมื่อไรก็ตามที่คิดถึง เราจะมานั่งยิ้มให้กับภาพถ่ายเก่า ๆ ... วนไป ... แต่อยากบอกว่า “รัก ณ เมืองปาย” ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม