พี่ชายของผู้เขียนทำงานที่จังหวัดชุมพรเมื่อสมัยหนุ่ม ๆ จนกระทั่งมีครอบครัว และเลือกที่จะลงหลักปักฐานที่นั่น ไม่ย้ายไปไหนแล้ว เมื่อรู้ข่าวว่าผู้เขียนลงมาทำงานที่เกาะพีพี จึงพาลูกพาเมียมาเยี่ยมถึงเกาะพีพีกันเลยทีเดียว “อ้ายมาคืนเดียว” พี่ชายบอกกับผู้เขียนว่าจะมาแค่คืนเดียว คำว่าคืนเดียวมันน้อยเกินไปสำหรับเกาะพีพีและสำหรับพี่น้องที่นาน ๆ จะได้พบกันสักครั้ง แต่ในเมื่อเวลามีเท่านี้ก็ว่ากันไปตามนั้น มาหยา เมื่อมาถึงเกาะพีพี ถ้าไม่ได้นั่งเรือหางยาวไปเล่นน้ำทะเลก็ถือว่ายังมาไม่ถึง ผู้เขียนเลยจัดทริปสั้น ๆ สำหรับพี่ชายและครอบครัว โดยการเช่าเรือหางยาว ขับออกไป อ่าวมาหยา ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของเกาะพีพีเลยก็ว่าได้ พูดถึง อ่าวมาหยา ซึ่งเป็นหัวใจของเกาะพีพีแล้ว มีคำกล่าวที่ว่า “ถ้ามาพีพีแล้วไม่ได้มา มาหยา ก็แปลว่ายังมาไม่ถึง” แต่เมื่อต้นปี 2560 ได้มีคำสั่งจากกรมอุทยานแห่งชาติว่าให้ปิดอ่าวมาหยา เป็นเวลา 2 ปี เพื่อฟื้นฟูปะการังใต้น้ำและขยายพันธุ์ปลา ข่าวการปิดมาหยานี้มีผลกระทบต่อธุระกิจการท่องเที่ยวเกือบ 100 % เพราะจุดประสงค์หลักของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่เกาะพีพีแห่งนี้ ก็เพื่อที่จะมาเที่ยวอ่าวมาหยากันทั้งนั้น พอมีข่าวประกาศปิดนักท่องเที่ยวบางคนถึงกับยกเลิกเปลี่ยนเป็นเที่ยวที่อื่นแทน แต่ทางกรมอุทยานแห่งชาติไม่ได้สั่งปิดทั้งหมด ยังอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเที่ยวรอบ ๆ หมู่เกาะมาหยาได้ เช่นอ่าวปิเละ อ่าวโละซะมะ ซึ่งมีความงดงามไม่แพ้ในเวิ้งอ่าวมาหยาเลยแม้แต่น้อย ผู้เขียนพาพี่ชายนั่งเรือหางยาว จากหาดหลังหรือหาดโละดาลัม วันนี้กัปปิตัน(คนขับเรือ)ของเราคือบังอาซีส ลูกชายของบังลูน่า ถึงแม้จะเป็นกัปปิตันมือใหม่แต่บอกได้เลยว่าปลอดภัยแน่นอน เพราะผู้ที่เกิดมากับเล กับเรือ ( เล ภาษาใต้คือ ทะเล) ย่อมรู้จักใจเล เป็นอย่างดี บังอาซีสพาพวกเราขับไปอย่างช้า ๆ เพื่อให้ชมความงามของเขาหินปูนที่ถูกลมและน้ำทะเล พัดและซัดเซาะจนเป็นชั้น ๆ เกิดความงดงามตระการตาสำหรับอาคันตุกะผู้มาเยือน หรือแม้แต่ตัวผู้เขียนเองยังรู้สึกถึงความงามทุกครั้งที่ได้นั่งเรือออกมาเที่ยวชม บังอาซีส จอดให้เล่นน้ำกันเป็นจุด ๆ ด้วยเสน่ห์ของน้ำทะเลอันดามัน ที่ใสจนเป็นสีเขียวมรกต สร้างความตื่นเต้นและสร้างความประทับใจให้กับพี่ชายผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก “อ้ายตัดสินใจไม่ผิดเลยที่มาหามึง” แกบอกกับผู้เขียนแบบนั้นทำเอาผู้เป็นน้องปราบปลื้มใจและดีใจที่ได้เห็นพี่ชายและรอบครัวมีความสุข เมื่ออวดน้ำทะเลใสๆ แล้วคราวนี้ก็อยากอวดปลาบ้าง จากจุดแรกอ่าวปิเละ อ่าวนี้เป็นอ่าวตื้น ๆ เวลาน้ำลงเราสามารถลงไปเดินบนทรายได้ อ่าวนี้ไม่มีปลาให้ดูมากนักบังอาซีส พาขับอ้อมโขดหินไปอีกนิด ตรงนี้เรียก “โละซะมะ” วันนี้ที่อ่าวนี้มีลมเล็กน้อยทำให้เรือโยกโคลง ใครที่ไม่ชินกับการนั่งเรือที่จอดอยู่บนคลื่นแล้วอาจจะทำให้วิงเวียนและอาเจียนเอาได้ อาการนี้เรียกเมาเรือ วิธีแก้เมาเรือนั้นไม่ยาก ชาวเลบอกว่าต้องโดดลงน้ำเลแล้วกลืนน้ำเลสักอึกนั่นเอง วิธีนี้ไม่รู้ใช้ได้จริงหรือเปล่าเพราะตัวผู้เขียนเองยังไม่เคยลองสักครั้ง ความพิเศษของอ่าวโละซะมะนี้คือเจ้าปลาตัวเล็ก ๆ สีส้มสลับลายดำ ที่เขาเรียกว่า ปลานีโม่ ที่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีปลาชนิดอื่นเช่น ปลาเสือ ปลานกแก้ว ปลาฉิ้งฉ้าง และปลาอื่น ๆ อีกมากมาย และนอกจากปลาแล้ว ใต้ทะเลอันดามันแห่งนี้ ยังมีปะการังที่มีชีวิตสายพันธุ์ต่างๆ ให้ชมกันอีกด้วย ทริปนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งวัน เราเล่นน้ำและดูปลาจนพอใจแล้ว จึงเลี้ยวหัวเรือกลับ แม้จะใช้เวลาไม่มากนัก แต่พี่ชายแต่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนไม่น้อย เราไม่สามารถถ่ายภาพปลานีโม่ และปะการังมาให้ชมได้เพราะกล้องที่ใช้ถ่ายเป็นเพียงโทรศัพท์ธรรมดาๆ :::ภาพโดยผู้เขียน:::