ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) เป็นหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขา ของจังหวัดกิฟุ ในภูมิภาคชูบุ ที่อยู่ห่างออกมาจากตัวเมือง ในปี 1995 หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมร่วมกับโกคายามะ ในจังหวัดโทยามะ ช่วงหน้าหนาวในเดือนธันวาคม จนถึง เดือนมีนาคม จะมีหิมะตกหนัก ทำให้ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับชิราคาวาโกะเป็นอย่างมาก ภายในหมู่บ้าน ชิราคาวาโกะ จะมีการสร้างบ้านด้วยรูปแบบที่เรียกว่า กัสโชสึคุริ ซึ่งคำว่า กัสโช หมายถึง พนมมือ เป็นสถาปัตยกรรมแบบเก่า อันเนื่องมาจากหมู่บ้านนี้อยู่ในพื้นที่ๆมีหิมะตกหนัก จึงมีการสร้างหลังคาจั่วลักษณะพนมมือ ให้มีความลาดเอียงประมาณ 60 องศา เพื่อป้องกันหิมะถล่ม ทับลงบนหลังคา โดยหลังคาทรงกัสโชจะช่วยทำให้หิมะไหลลงมาได้สะดวกมากขึ้น เมื่อรถบัสจอดถึงหมู่บ้าน จุดแรกที่ต้องเข้าไปก็คือจุดบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูล เจ้าหน้าที่จะให้แผนที่ของหมู่บ้านมาด้วย ในนั้นเราสามารถซื้อตั๋วรถบัสกลับ และดูรอบรถบัสที่จะออกได้อีกด้วย จากนั้นก็วางแผนการเที่ยวโดยจะเริ่มเที่ยวจากพื้นราบ หรือจะขึ้นเขาเพื่อที่จะมองลงมาเห็นวิวหมู่บ้านทั้งหมดที่ จุดชมวิวเท็นชุคาคุ ก่อนก็สามารถเลือกได้ การขึ้นเขามีด้วยกัน 2 วิธี คือ การนั่งรถบัสขึ้น ใช้เวลา 5 นาที หรือถ้าจะดื่มด่ำกับธรรมชาติ ขอแนะนำเดินขึ้น ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จะเป็นทางลาดขึ้นเขาไม่ชันมาก ด้านบนนอกจากจะชมวิวได้สวยมากๆแล้ว ยังมีร้านอาหาร กาแฟ ไว้คอยบริการอีกด้วย จุดชมวิวเท็นชุคาคุ เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านเลยทีเดียว วิวกว้างๆ สวยมากๆ ช่วงเวลาที่ไปนั้นเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่ก็เป็นช่วงปีที่ญี่ปุ่นหนาวเร็วกว่าปกติด้วย จึงได้เห็นทั้งใบไม้แดงและหิมะในเวลาเดียวกัน จึงทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาดูแปลกตา เพราะยังมีสีอื่นๆอยู่ในภาพด้วย ไม่ได้ขาวโพลนไปด้วยหิมะแบบในหน้าหนาวปกติ เต็มอิ่มจากวิวด้านบนเรียบร้อย ก็เดินลงมาทัวร์ภายในหมู่บ้านกันต่อ ภายในหมู่บ้านเองจะมีบ้านโบราณกว่า 100 หลัง แต่จะมีที่พักแบบเกสต์เฮาส์ในสไตล์กัสโชกว่า 40 แห่งเลยทีเดียว แต่ใครจะมาพักต้องจองก่อนล่วงหน้า และยังมีร้านค้า ร้านอาหารแบบกรุบกริบ ให้แวะพัก แวะชิมกันได้ตลอดทาง วัดเมียวโอะเซนจิ วัดเก่าแก่ของหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ที่นักท่องเที่ยวทุกคนน่าจะต้องเดินผ่าน เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบกัสโชซึคุริ โดดเด่นด้วยหอระฆังขนาดใหญ่ ซึ่งยังใช้งานได้อยู่ ในอดีตเคยเป็นที่พักของเหล่าพระสงฆ์ที่เดินทางผ่านไปมา ปัจจุบันยังคงสภาพไว้อย่างดี ระหว่างทางเดินจะเห็นน้ำใสๆ ไหลผ่านตามท่อระบายน้ำ และมีปลาแหวกว่ายอยู่จริงๆด้วย อากาศที่เย็นแบบนี้ ร้านค้าบางร้านยังนำเครื่องดื่มออกมา วางแช่น้ำในอ่างหน้าร้านเครื่องดื่มก็เย็นจัดพร้อมดื่มได้แล้ว แวะไปแวะมา เดินไปเดินมา เวลาผ่านไปเร็วมาก จนต้องรีบไปบ้านสามหลัง อีกหนึ่งไฮไลท์ที่อยู่ไกลท้ายหมู่บ้าน บ้านสามหลังนี้ เป็นภาพที่มีอยู่ทั่วไปบนสื่อสิ่งพิมพ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น จนจะเป็นสัญลักษณ์ของชิราคาวาโกะไปแล้ว บ้านสามหลังสวยสมกับการมาชมจริงๆ ให้บรรยากาศเหมือนบ้านในเทพนิยาย มีฉากหลังเป็นเขา หมอกก็มี หิมะก็มา ใบไม้ก็แดง ยืนดู ชื่นชม ถ่ายรูปกันอยู่นานทีเดียว แต่ก็ต้องรีบเดินกลับ เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันรอบรถบัสขากลับ หน้าหนาวที่ญี่ปุ่นบางที 4 โมงเย็นก็จะเริ่มมืดแล้ว การมาเที่ยวที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะแห่งนี้ ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบนะครับ เช่น การข้ามถนนช่วงทางเดินเข้าหมู่บ้าน ต้องข้ามเฉพาะจุดที่เขาให้ข้ามเท่านั้น คนที่เขาดูแลพื้นที่ค่อนข้างระวังเรื่องความปลอดภัยมาก ไม่นำขยะมาวาง หรือทิ้ง มีป้ายบอกหลายภาษาเลยครับ ทั้งนี้เพราะชิราคาวาโกะ เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั่นเอง จึงทำให้คนในชุมชนภาคภูมิใจ และเกิดความรักต่อชุมชนของตัวเอง เราเป็นนักท่องเที่ยว เที่ยวสนุก แต่ต้องไม่ทำให้เสียชื่อเสียงนะครับรูปประกอบโดย : เจ้าของบทความ ชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลก บ้าน 3 หลัง มุมถ่ายรูปสวย เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน วิธีเดินทาง : จากทาคายาม่า (Takayama) แผนที่และพิกัด เดินทางด้วยรถบัส โนฮิบัส (Nohi) จากสถานีทาคายาม่า 2,800 เยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มได้อีกครับ : ทาคายาม่า เที่ยวเมืองเก่า ชิมเนื้อฮิดะ ปราสาทฮิเมจิ ใบไม้เปลี่ยนสีในสวนสวย มรดกโลก ข่าวขึ้นค่าเข้าชมถึง 4 เท่า! วัดโจจัคโคจิ Jojakko-ji Temple เที่ยวญี่ปุ่น ข่าวใบไม้เปลี่ยนสี รีวิว วัดคิโยะมิซุ (วัดน้ำใส) ดื่มน้ำ 3 สาย รับพร เที่ยว ญี่ปุ่น ด้วยตัวเอง รีวิว วัดโทไดจิ นารา สวนกวาง เที่ยว ญี่ปุ่น ด้วยตัวเอง ตลาดนิชิกิ ครัวแห่งเมืองเกียวโต ศาลเจ้านิชิกิ เทนมังกุ ขอพรเรื่องการสอบ กับเทพเจ้าเทนจิน เมืองเกียวโต ฟุชิมิอินาริ ศาลเจ้าจิ้งจอก แห่งเกียวโต เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !