รีเซต

Kominato Railway สถานี Totoro กับรถไฟสาย Local ที่ ชิบะ

Kominato Railway สถานี Totoro กับรถไฟสาย Local ที่ ชิบะ
เอิงเอย
18 กันยายน 2562 ( 20:00 )
2.3K
2

     นี่คือการ เที่ยวญี่ปุ่น แบบคนว่าง... เพราะต้องใช้เวลาทั้งวันเพื่อมานั่งรถไฟเล่นแบบนี้! 🚂🎌 Kominato Railway สถานี Totoro กับรถไฟสาย Local ที่ชิบะ

“.. ความไม่มีอะไร มันคือความเรียบง่าย
และเราหลงใหลความเรียบง่ายเหล่านั้น ..”

 

 

นั่งรถไฟเที่ยวชิบะ 

 

      Kominato Railway เป็นรถไฟท้องถิ่นของจังหวัดชิบะ เป็นรถไฟธรรมดาที่คนญี่ปุ่นใช้นั่งกลับบ้าน ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวและไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจเท่าไรนัก แต่ KominatoRailway กลับเป็นสายรถไฟที่รู้จักกันดีในกลุ่มช่างภาพชาวญี่ปุ่น ทั้งสายแลนด์สเคป และสายพอร์ตเทรต เพราะรถไฟสายนี้วิ่งผ่านทิวทัศน์ที่สวยงาม และสถานีต่างๆ ก็มีกิมมิค น่ารัก โดยเฉพาะ Totoro Station ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเที่ยวญี่ปุ่นแบบคนว่างของเราในทริปนี้!

 

 

      รถไฟมีแค่สองโบกี้ สดใสด้วยสีเหลืองตัดแดง เวลาวิ่งผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจี โอ้โห มันช่างมีออร่า ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมช่างภาพสายแลนด์สเคปและสายรถไฟถึงชอบมาตั้งกล้องรอถ่ายรูปรถไฟขบวนนี้กัน เพราะมันเป็นหนึ่งในขบวนรถไฟที่มีเสน่ห์มากจริงๆ

 

 

       Kominato Railway มีทั้งหมด 18 สถานี แต่ละสถานีจะมีกิมมิคแตกต่างกันไป สำหรับคนญี่ปุ่นเขาจะใช้รถไฟนี้กลับบ้านกันเป็นปกติ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา มีอยู่แค่ไม่กี่สถานีเท่านั้นที่มีความน่าสนใจ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องขึ้นลงให้ครบทุกสถานีนะ

     แล้วถ้าใครคิดว่าสามารถเสียสละเวลาทั้งวันให้กับการนั่งรถไฟเล่นได้ ลองชวนเพื่อน ไป Train Hopping ด้วยกันนะ อ้อ อย่าลืมพกกล้องไปด้วย เพราะเส้นทางนี้จะมีแต่มุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปจนเมมเต็มแน่นวล



ข้อควรรู้ของรถไฟสาย Kominato Railway

 

• เป็นรถไฟท้องถิ่น ของจังหวัดชิบะ สามารถไปเที่ยวแบบเช้า - เย็นกลับจากโตเกียวได้ แต่ต้องวางแผนดีๆ เพราะรถไฟมีรอบวิ่งน้อย เนื่องจากเป็นรถไฟสายโลคอล

• เส้นทางของ Kominato Railway มีระยะทางยาวประมาณ 39.1 กิโลเมตร จอดทั้งหมด 18 สถานี แต่บางสถานีก็ไม่มีอะไร ถ้ามาเพื่อถ่ายรูปเล่นแบบเรา วางแผนลงแค่สถานีที่เราไปมาก็ได้

• ค่ารถไฟ เริ่มต้น 140 เยน/เที่ยว แต่แนะนำให้ซื้อ One Day Pass ไปเลยดีกว่า เพราะขึ้นลงกี่รอบก็ได้ใน 1 วัน ราคา 1,800 เยน

 

 

    ปกติแล้วคนญี่ปุ่นเขาจะขับรถมาจอดตามสถานีต่างๆ เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะเลยค่ะ เพราะรถไฟมันมีน้อยเที่ยวมาก จะนั่งรถไฟแล้วกระโดดลง รอรถไฟมาก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ฉะนั้นต้องกะเวลาดีๆ และทำใจไว้เลยว่าอาจจะไม่ค่อยได้เก็บภาพคู่กับรถไฟ เพราะเราต้องรีบขึ้น-ลงรถไฟนั่นเองจ้า

 

 

      สถานี Goi เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสาย Kominato Railway ค่ะ ซึ่งจริงๆ เส้นทางของ Kominato มันจะเชื่อมต่อกับรถไฟสายมูมิน (Isumi Railway) บางคนเขาจะนั่งรถไฟสายนี้จนสุดสายแล้วก็นั่งรถไฟสายมูมินต่อ แต่เราแค่อยากมาถ่ายรูปในเส้นทางของรถไฟสายนี้สายเดียว ก็เลยนั่งไปลงสถานีที่ต้องการ แล้วก็นั่งย้อนกลับมาที่สถานี Goi เพื่อนั่งรถไฟกลับโตเกียวค่ะ

 

 

      สถานีแรกของรถไฟสาย Kominato Railway จะเชื่อมต่อกับสถานี Goi เลยนะคะ คือลงจากรถไฟ JR Uchibo Line ปุ๊บ เดินขึ้นมาก็จะเจอทางเข้าสถานีเลย โดยไม่ต้องแตะบัตรออกจากสถานี Goi แต่ต้องมาแตะบัตรผ่านเข้าสถานีของ Kominato Railway ที่ตู้ตรงนี้แทน อ่อ JR Uchibo Line สามารถใช้บัตร Suica ได้เลย ส่วน Kominato Railway ไม่สามารถใช้ได้นะคะ ต้องซื้อตั๋วแยกหรือ One Day Pass อย่างเดียว

 

 

สถานนีที่เราแวะ

 

สถานี Totoro

 


      📍 สถานี Kazusa Okubo หรือ สถานี Totoro นั่นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นแค่สถานีเงียบๆ สถานีนึง แต่เด่นเพราะมีรูปวาดของโทโทโร่ สามารถแวะลงถ่ายรูปเล่นได้ เป็นสถานีเกือบท้ายๆ ของเส้นทางรถไฟแล้ว  ฉะนั้นจะใช้เวลานานเลยจากสถานี Goi ประมาณ 65 นาทีได้ เราวางแผนลงสถานีไกลๆ ก่อน แล้วค่อยไล่กลับไปยังต้นทางค่ะ

 

 

      สถานีนี้เอาจริงๆ ก็เป็นสถานีธรรมดาๆ ถ้าบ้านไม่ได้อยู่แถวนี้ก็ไม่มีใครลงค่ะ ตอนเราลงมานี่เฟว้งฟว้าง อ้างว้าง ได้ยินเสียงกาบินผ่านหัวเหมือนในการ์ตูนกันเลยทีเดียว 5555 แต่มันน่ารัก มีกิมมิคตรงที่มีโทโทโร่นี่แหละ

 

 

      จำได้ว่าเราอยู่ที่สถานีนี้ประมาณชั่วโมงได้ค่ะ กว่ารถไฟจะมา คือเรียกว่ามาเพื่อถ่ายรูปกับโทโทโร่โดยเฉพาะเลย 555 แต่เอาเข้าจริง รู้สึกว่ากำลังดี เพราะกว่าจะถ่ายรูปเสร็จก็เกือบ 1 ชั่วโมงพอดี เพลินเกิ๊น

 

==================

 

 

สถานี Tsukizaki

 

      📍 สถานีต่อไปที่เราลงคือ สถานี Tsukizaki นั่งย้อนจาก Kazusa Okubo มาแค่ 1 สถานีค่ะ เป็นสถานีที่ช่างภาพญี่ปุ่นแวะมาถ่ายรูปกันเยอะมาก

 

 

       สถานีนี้มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลค่ะ แต่เราเห็นคนญี่ปุ่นที่ขับรถมาเพื่อถ่ายรูป เดินเข้าไปถ่ายรูปที่ชานชาลาได้โดยไม่ต้องโชว์ตั๋วนะ พอถึงเวลารถไฟมา ก็จะมีคนญี่ปุ่นมารอถ่ายรูปแบบรู้เวลาเลยล่ะค่ะ

 

      สถานีนี้เด็ดตรงที่มีมุมไว้สำหรับถ่ายรูปโดยเฉพาะเลย เรียกกันว่า Mori Radio จริงๆ เป็นเหมือนห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่บรรยากาศรอบๆ สวย ก็เลยกลายเป็นโลเคชั่นในการถ่ายรูปพอร์ตเทรตของคนญี่ปุ่นค่ะ

 

      ช่วงระยะเวลากว่ารถไฟขบวนต่อไปจะมาของสถานีนี้คือนานมากกก ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าได้ ตอนแรกคือบับ ทำไรดีวะ สถานีก็เล็กนิดเดียว ถ่ายรูปจนเกือบทุกมุมแล้ว เลยตัดสินใจออกไปเดินเล่นเรื่อยๆ เพื่อรอรถไฟ

 

      เอาจริงๆ ไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนเลยว่ามันมีเส้นทาง Hiking ด้วย แต่เดินมามั่วๆ ก็เจอมุมสวยๆ ในเส้นทางเดินป่าค่ะ เป็นอุโมงค์สวยมากกก เหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกนึงที่มีแต่ธรรมชาติเลย

 

 

 

       ดูเวลาใกล้รถไฟมา เราก็กลับมานั่งรอรถไฟที่สถานี แอบย้ำอีกทีว่าเวลาสำคัญมาก เพราะรถไฟวิ่งน้อยเที่ยวมากนะคะ ไปเช็คเวลาเพื่อวางแผนก่อนได้ที่ เช็คตารางรถไฟ kominato Railway

==================

 

 

สถานี Kazusa Tsurumai

 

 

      📍สถานีสุดท้ายที่เราแวะคือ สถานี Kazusa Tsurumai แอบจงใจว่าอยากให้เป็นสถานีสุดท้าย เพราะอยากเก็บแสงเย็นที่นี่ค่ะ สถานี Kazusa Tsurumai เป็นสถานีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล แต่เป็นอีกหนึ่งโลเคชั่นที่คนญี่ปุ่นนิยมมาถ่ายรูปกัน แล้วก็สามารถเดินไปหามุมถ่ายรูปรถไฟคู่กับทุ่งนาได้ค่ะ เห็นว่ามีพวก MV มาถ่ายกันด้วย เพราะมันให้อารมณ์คลาสสิค และญี่ปุ่นชนบทจริงๆ

 

      ไฮไลท์ของสถานีนี้คือเดินไปถ่ายรูปรถไฟคู่กับทุ่งนาได้ค่ะ พิกัดอยู่ข้างๆ สถานีเลย เดินไปแค่นิดเดียว ความยากก็คือ ถ้าเราถ่ายรถไฟที่กำลังจะมาขบวนถัดไป เราก็จะพลาดรถไฟขบวนนั้น และต้องรอไปอีกเป็นชั่วโมง ฉะนั้นแนะนำให้ค้นหาเวลาของเที่ยวรถไฟที่จะสวนทางไปค่ะ เพราะรถไฟวิ่งอยู่บนรางเดียวกัน มันจะมาก่อนขบวนที่พาเรากลับสถานี Goi ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ เพียงพอต่อการถ่ายรูปรถไฟค่า

 

 

      ช่วงเย็นๆ นี่มีตากล้องมายืนรอถ่ายรูปรถไฟกันเพียบ แต่ละคนก็มีมุมจับจองเป็นของตัวเอง บ้างก็ซุ่มอยู่ในดงต้นข้าว ยืนรออยู่ริมถนน ดักรออยู่ข้างรางรถไฟ แล้วแต่ว่าใครอยากได้มุมไหน เราเองก็เคยสงสัยนะว่าทำไมคนญี่ปุ่นต้องทำกันถึงขนาดนี้ แต่พอรู้ตัวอีกที เราก็กลายเป็นหนึ่งในคนมาดักรอถ่ายรูปรถไฟไปเองซะแล้ว

 

 

วิธีการเดินทางจากโตเกียว


       นั่งรถไฟ JR CHUO/SOBU LINE ลงสถานี Chiba จากนั้นต่อรถไฟ JR Uchibo Line ลงสถานี Goi ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟสาย Kominato Railway

** เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ “ต้องวางแผนเรื่องเวลาให้ดี” เพราะรถไฟสายโลคอลแบบนี้ ไม่ได้วิ่งตลอดทั้งวัน ถ้าพลาดไปขบวนนึงต้องนั่งรอไปเป็นชั่วโมง ฉะนั้นแนะนำให้เข้าไปเช็คเวลาใน Hyperdia แล้วกะเวลาที่จะอยู่ในแต่ละสถานีให้ดี ควรวางแผนไว้ก่อนเลยว่าจะลงสถานีไหน ตอนกี่โมง และจะอยู่ถึงกี่โมง 

 

 

      จริงแล้ว เวลา 1 วัน อาจไปเก็บสถานที่แลนด์มาร์กได้หลายที่เลยนะ บางคนอาจจะคิดว่าทำไมต้องมาเสียเวลากับการนั่งรถไฟสายโลคอลธรรมดาๆ เล่นแบบนี้ แต่สำหรับเรา .. ความไม่มีอะไร มันคือความเรียบง่าย เราหลงใหลความเรียบง่ายเหล่านั้น และมีความสุขมากกับการได้มองเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในความธรรมดา และมีความสุขมากกว่าเมื่อได้นำความทรงจำเหล่านั้นกลับมาเล่าให้ใครสักคนฟัง

ชวนใครสักคนไปนั่งรถไฟเล่นกันนะ
อย่างน้อยๆ เราก็ได้ใช้เวลาร่วมกัน
: )

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพจาก เพจ Movearound Journey