ยุคนี้เทรนด์นักเดินทางแบบ Solo Traveler ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยตนเองมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่คนไทยด้วยกันเองอาจจะมีอยู่น้อย แต่จากประสบการณ์ที่เราได้เที่ยวต่างประเทศแบบตัวคนเดียวมาเกิน 10 ทริปแล้ว ก็มักจะเจอนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเหมือนกันอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เลือกพักในที่พักแบบโฮสเทล ที่ทำให้มีโอกาสพูดคุยและได้ฟังเรื่องราวของอีกฝ่ายก็รู้สึกว่าได้เปิดโลกมาก ๆ การท่องเที่ยวตัวคนเดียวสำหรับเราก็เลยเป็นอะไรที่สนุก ไม่รู้สึกว่าเหงา และก็ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเลยเราอยากจะบอกทุกคนว่าการไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลย ถ้าเรามีการเตรียมตัวที่ดี ที่สำคัญก็คือเราจะมีโอกาสได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองและพึ่งพาตัวเอง ซึ่งมีผลกับการพัฒนาตัวเราในหลายด้านเลยค่ะ สำหรับใครที่ยังรู้สึกกลัว หรือว่าลังเลอยู่ เราอยากจะแชร์วิธีการที่เราใช้ในการเตรียมตัวเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ซึ่งก็ไม่ยากเลย เพื่อน ๆ ทำตามได้แน่นอน1. เลือกประเทศที่อยากไป เลือกประเทศที่เราอยากไปก่อนค่ะ สำหรับมือใหม่ควรเลือกประเทศที่มีความปลอดภัยสูง เดินทางสะดวก ส่วนเรื่องงบประมาณแล้วแต่ความสามารถของแต่ละคนเลย สำหรับคนที่ไม่เคยไปต่างประเทศเองมาก่อนเราแนะนำให้ลองเริ่มเที่ยวเองที่สิงคโปร์ก่อนค่ะ เป็นประเทศเล็กก็จริง แต่ความปลอดภัยและการเดินทางภายในประเทศสะดวกดีมาก ที่เที่ยวเยอะ ไปแล้วประทับใจแน่นอน กับอีกประเทศนึงก็คือญี่ปุ่นค่ะ ดีมาก ๆ เหมือนกัน2. เช็ค Passport/ Visa/ เงื่อนไขที่จำเป็นในการเข้าประเทศ จะไปต่างประเทศเอกสารที่ต้องมีแน่ ๆ ก็คือ พาสปอร์ต (Passport) ค่ะ โดยหลายประเทศกำหนดเงื่อนไขไว้ว่าพาสปอร์ตจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน (ดูจากวันที่เดินทางกลับนะคะ) ดังนั้นต้องเช็คอายุที่เหลือของพาสปอร์ตเราก่อน แล้วก็ดูว่าประเทศที่เราจะไปนั้น Free Visa สำหรับพาสปอร์ตไทยรึเปล่า หรือว่าต้องทำ Visa ด้วย และอย่างเกาหลีใต้เราต้องลงทะเบียน K-ETA ให้ผ่านก่อนจองตั๋วเครื่องบินค่ะ3. ทำแผนการเดินทาง ส่วนนี้ก็คือทำแพลนเที่ยวค่ะ สำหรับมือใหม่ที่ยังกลัวการเดินทางเองอยู่ ขอแนะนำว่าควรเที่ยวในเส้นทางยอดนิยมของประเทศนั้น ๆ ซึ่งจะมีคนทำรีวิวไว้เยอะและเดินทางไม่ยาก และควรเลือกสถานที่ให้เหมาะกับช่วงเวลาที่เราจะเดินทาง เพราะการท่องเที่ยวในบางประเทศ ในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีสิ่งที่น่าสนใจต่างกันออกไป และระวังอย่าให้เกินจำนวนวันที่เราสามารถอยู่ในประเทศนั้นได้นะคะ สำหรับแหล่งข้อมูลสามารถค้นจาก Google ได้เลย หรือจะเข้าไปอยู่ในกลุ่มท่องเที่ยวประเทศต่าง ๆ ใน Facebook ซึ่งมักจะมีการรีวิวประสบการณ์และแชร์ภาพที่เที่ยวกันอยู่เรื่อย ๆ ก็เป็นอีกแหล่งที่ดีสำหรับการหาข้อมูลและการคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้น และควรเลือกเริ่มต้นและจบทริปในเมืองหลักที่มีสนามบิน เพื่อให้สะดวกในการเลือกจองตั๋วเครื่องบินค่ะ4. จองตั๋วเครื่องบิน ในช่วงทำแผนการเดินทาง หากเรากำหนดวันเดินทางและสนามบินที่จะไป-กลับได้แล้ว ก็จองตั๋วเครื่องบินค่ะ สามารถใช้ Google Flights ช่วยค้นหา ระบบจะแสดงสายการบิน เวลาเดินทาง ข้อมูลการเดินทาง และราคาของเที่ยวบินนั้น เมื่อเราคลิกเลือกเที่ยวบินที่ต้องการก็จะแสดงเว็บไซต์ที่เปิดขายอยู่ แต่ส่วนตัวเราแนะนำให้ดูตรงนี้เป็นแนวทาง แล้วจองตรงกับเว็บไซต์ของสายการบินเอง ราคาอาจจะสูงกว่าเว็บไซต์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่บ้าง แต่หากเกิดปัญหาในภายหลังจะติดต่อได้สะดวกกว่าค่ะ5. จองที่พัก เลือกที่พักให้เหมาะสมกับงบประมาณของเราค่ะ โดยต้องดูเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางด้วย ซึ่งในส่วนนี้สามารถดูจากรีวิวของผู้เข้าพักในเว็บไซต์สำหรับการจองที่พักต่าง ๆ เช่น Agoda หรือ Booking.com หรือโพสต์ถามในกลุ่มท่องเที่ยวต่าง ๆ หากเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวและมีงบไม่มากควรเลือกจองโฮสเทลที่มีห้องแบบ Woman Only ที่พักส่วนใหญ่จะเปิดให้จอง 3-6 เดือนก่อนวันเข้าพัก และการเข้าพักในวันธรรมดาราคามักจะถูกกว่าการเข้าพักในวันศุกร์และวันหยุดต่าง ๆ ในการจองขอแนะนำว่าควรเลือกจองแบบยกเลิกได้ฟรีเผื่อว่าเราอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังค่ะ6. เตรียม Pocket Money แลกเงินสดในสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ ไว้ใช้งาน เพราะอาจมีร้านค้าที่รับเงินสดเท่านั้น และหากไม่ต้องการพกเงินสดมาก แนะนำให้ทำ Travel Card โดยเราสามารถแลกเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศไว้ในบัตรได้ค่ะ ข้อดีมาก ๆ ของ Travel Card คือ ใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในต่างประเทศได้โดยไม่มีการชาร์จเพิ่ม (ต้องมีเงินในบัตรเพียงพอกับที่จ่ายด้วยนะคะ) ซึ่งต่างจากการใช้บัตรเครดิตที่จะถูกชาร์จเพิ่มค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน เท่ากับเราจ่ายในราคาที่แพงขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนไปต่างประเทศหากไม่อยากพกเงินสดเยอะ มี Travel Card ไว้ อุ่นใจกว่าค่ะ7. ซื้อประกันการเดินทาง ประกันการเดินทางเป็นของที่ไม่บังคับว่าต้องมี แต่หากจำเป็นต้องใช้แล้วไม่มีอาจจะต้องเสียใจในภายหลัง เพราะค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้นแพงกว่าในประเทศไทยมาก ในตอนที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมักจะมีเสนอขายประกันการเดินทางพ่วงมาด้วย แนะนำให้ดูก่อนว่าครอบคลุมเงื่อนไขที่เราต้องการรึเปล่า หากไม่โอเคก็เลือกซื้อของบริษัทอื่นจะดีกว่าค่ะ8. ซื้อ Travel Sim/ Roaming Data ในที่พักและบางสถานที่ท่องเที่ยวอาจมีบริการ Free WiFi อยู่แล้วก็จริง แต่การมีอินเทอร์เน็ตสำหรับไว้ดูข้อมูลต่าง ๆ อัปโซเชียล และติดต่อกับคนทางบ้านได้ตลอดด้วย ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจกว่าค่ะ จะเลือกซื้อเป็น Travel Sim หรือสมัคร Roaming Data ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลย9. เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศที่เราไป โดยส่วนตัวเราจะไม่เตรียมเสื้อผ้าไปเยอะ แต่จะเลือกที่พักที่มีเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญหรือไม่ก็ซื้อใหม่เลยค่ะ ถ้าไปญี่ปุ่นก็จะได้เสื้อผ้าจาก Uniqlo และ GU เพิ่มมาทุกทริปเลย ส่วนของใช้ส่วนตัวขึ้นอยู่กับว่าที่พักของเรามีอะไรให้บ้าง โดยจะเห็นได้จากรายละเอียดของที่พักในตอนที่จอง และอย่าลืมเหลือน้ำหนักกระเป๋าไว้ซื้อของฝากกลับมาด้วยนะคะ10. ทำเช็คลิสต์ก่อนเดินทาง หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก่อนถึงวันเดินทางก็เก็บกระเป๋าและมาทำเช็คลิสต์เอกสารและของจำเป็นเพื่อความมั่นใจกันอีกครั้ง เพราะของบางอย่างถ้าลืมก็แย่แน่ ๆ อันนี้เป็นเช็คลิสต์ส่วนตัวของเราค่ะPassport (ถ้าลืมคือทริปจบตั้งแต่สนามบินเลยค่ะ)Pocket money และ Travel Cardกรอกเอกสารเข้าประเทศแบบออนไลน์ (ถ้ามีให้กรอกล่วงหน้าได้ เช่น SG Arrival Card ของสิงคโปร์, Visit Japan ของญี่ปุ่น)พิมพ์เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินขากลับ (เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในบางประเทศอาจจะขอดูค่ะ แต่ดูจากในโทรศัพท์ก็ได้นะคะ)Travel Sim/ Roaming Data (สมัครแพ็คเกจก่อนออกจากไทย หรือเปลี่ยนซิมก่อนลงเครื่อง เผื่อเจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารอื่น ๆ ที่ไม่ได้พิมพ์ไว้จะได้เปิดสะดวกค่ะ)ขาตั้งกล้องโทรศัพท์ (อันนี้สำคัญมากสำหรับเราค่ะ ถ้าขาดสิ่งนี้ไปคงจะได้แต่รูปเซลฟี่ตัวเองระยะใกล้ แต่ถ้าไม่มีก็ขอร้องอย่างสุภาพให้นักท่องเที่ยวแถวนั้นช่วยถ่ายรูปให้ได้นะคะ)ยารักษาโรคประจำตัว (เช็คด้วยนะคะว่ามียาที่ห้ามนำเข้าประเทศที่เราจะไปรึเปล่า หรือต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วย และยาควรอยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฉลากกำกับชัดเจนค่ะ)เช็คกระเป๋าอย่าให้มีสิ่งของที่ห้ามนำเข้าประเทศของประเทศที่เราจะไปหากเตรียมตัวครบตามนี้แล้วก็เตรียมขึ้นเครื่องพร้อมรอยยิ้มได้เลย ตอนเจอเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็อย่ากังวลใจว่าเราเดินทางคนเดียวแล้วจะดูน่าสงสัยรึเปล่า ทำใจให้สบาย เจ้าหน้าที่ถามอะไรมาก็ตอบตามความจริงไปค่ะ ถ้าเรามาเที่ยวจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรให้กังวล หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวคนเดียวนะคะแหล่งที่มาของภาพประกอบ:ภาพ Cover จัดทำโดยใช้ Template ของ Surfer, Canvaภาพที่ 1 จาก sasirin pamai, Canvaภาพที่ 2 จาก Google Flightsภาพที่ 3 จาก Vlada Karpovich - Pexels, Canvaภาพที่ 4 จาก rattanakun, Canvaส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้