ชุมชนตลาดน้อย เป็นชุมชนเก่าแก่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากชาวจีน ในชุมชนมีกลิ่นอายความคลาสสิค จีน ๆ บ้านเรือน คาเฟ่ ยังตกแต่งให้ดูวินเทจเข้ากับสถานที่ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะมากมายที่ติดตามกำแพง ผนังทางเดินของแต่ละซอย เหมาะแก่การมาเดินเล่นในทุก ๆ ช่วงของวัน ในปัจจุบันชุมชนตลาดน้อยเป็นที่รู้จักในเรื่องการวาด Street Art บนกำแพง และยังมี Art Gallery บริเวณใกล้เคียงอีกมากมาย จึงอยากมานำเสนอการเดินเที่ยวในชุมชนตลาดน้อย (ฉบับคนมีเวลาน้อย) ซึ่งในการมาตลาดน้อยเราสามารถมาได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น รถส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟฟ้า เรือ เดิน สามารถเข้าได้หลายเส้นทาง แต่ในการเดินทางครั้งนี้เราเลือกมาด้วย รถไฟฟ้าใต้ดินลงที่สถานีหัวลำโพง ประตูทางออกที่ 1 ออกมาจะเจอกับวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ มีให้ใช้บริการหรือจะเดินเท้า โดยใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็จะถึงชุมชนตลาดน้อย หลังจากออกมาจากสถานีรถไฟใต้ดินแล้วนั้น เราก็เดินต่อกันมาเรื่อย ๆ ในขณะที่เดินนั้นก็จะเดินศิลปะบนพื้นฟุตบาท เช่น ฝาท่อระบายน้ำที่เป็นลวดลายที่สวยงามอยู่ตามถนนตลอดเส้นทาง เดินต่อไปอีก 800 เมตร ถนนฝั่งขวามือของเราจะเจอสะพานที่ชื่อว่า สะพานพิทยเสถียร เมื่อข้ามสะพานฝั่งขวาจะเจอกับคาเฟ่ที่ชื่อว่า HOC เดินมาอีกนิดจะเจอกับ หนังสือพิมพ์ซิงจงเอี๋ยน หนังสือพิมพ์ภาษาจีนที่โด่งดังเมื่อสมัยก่อน ฝั่งตรงข้ามกับอาคารซิงจงเอี๋ยนนั้นเป็น อาคารชัยพัฒนสิน อดีตเคยเป็นโรงงานน้ำอัดลม ปัจจุบันมีคาเฟ่และ Gallery เล็กๆเปิดอยู่ข้างใน หลังจากแวะอาคารชัยพัฒนสินแล้วนั้น เดินตรงต่อมาประมาณ 400เมตร ซอยเจริญกรุง 30 มีคาเฟ่ gallery มากมาย เช่น Att 19 ,Wherehouse 30 ,Lek Gallery Art เป็นต้น ซึ่งในซอยนี้สามารถเดินต่อไปเพื่อไปยัง River City Bangkok ที่ที่รวบรวมงานศิลป์ของศิลปินมากมายทั้งมีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียง หรือจะเป็นงานสะสมของเก่าก็สามารถมาเลือกซื้อได้ที่นี้ ต่อมาเราก็จะเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ เพื่อโผล่ไปที่วงเวียน อยู่ตรงหน้าทางเข้าโบสถ์แม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) ตอนนี้ทางโบสถ์ปิดไม่ให้เข้าชมเนื่องด้วยสถานะการโควิท เดินออกมาเรื่องๆ ก็จะเจอกับกรมเจ้าท่า ที่เป็นทั้งสำนักราชการและยังเป็นท่าเรือสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวที่ชุมชนตลาดน้อยนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ง่ายต่อการเดินทาง ทางเดินหน้ากรมเจ้าท่าต่อไปก็จะเป็นชุมชนตลาดน้อย เดินไปประมาณ 100 เมตรก็จะเจอกับซอยที่ป้านเขียนว่า “ตรอกศาลเจ้าโรงเกือก” ในตรอกนี้ก็จะเต็มไปด้วย Street Art บนกำแพง เท่ๆ ตลอดเส้นทาง มีภาพวาดตามผนังกำแพงที่สื่อถึงความเป็นไทย-จีน แต่ไม่ล้าสมัยตลอดเส้นทาง และด้วยความที่ที่แห่งนี้เป็นชุมชนก็จะมีศิลปินท้องที่นั่งวาดรูปขาย มีคนในพื้นที่นั่งยิ้มแย้มต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม มีร้านขายของชำให้ซื้อน้ำหรือนั่งพักหลังจากเดินมาเหนื่อยๆ ก็ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนแห่งนี้ไปด้วย สุดทางเดินในก็ยังมีศาลเจ้าโรงเกือกอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ด้วยสถานการณ์อะไรบางอย่างทำให้บริเวณข้างในศาลเจ้าที่ติดกับแม่น้ำนั้นได้ปิดกั้นไว้ทำให้ไม่เห็นวิวของแม่น้ำ ตรงข้ามกับทางเข้าศาลเจ้าก็จะมีตรอกเล็กๆ อีกตรอกนึง เต็มไปด้วยบ้านเรือนของคนในพื้นที่ เป็นทางเล็กๆ ค่อนข้างเปลี่ยวแต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านบ้างประปรายทำให้รู้ว่าข้างในยังมีสถานที่ถ่ายรูปอยู่ เราจึงเดินกันตามทางไปเรื่อยๆ ก็เจอกับมุมไฮไลท์ที่ทุกคนที่มาตลาดน้อยจะต้องถ่ายก็คือ ซากรถโฟลท์เก่าที่จอดอยู่ตรงกำแพงอิฐมอญทำให้ดูเก่าคงความคลาสสิคข้างกินเป็นคาเฟ่ที่คนนิยมมาอีกร้านนึง แต่ด้วยเวลาจำกัดทำให้เราไม่ได้แวะเข้าไป เดินต่อไปก็จะเจอทางแยกแยกไปทางซ้ายก็จะเป็นตรอกเล็กๆจะเป็นทางเดินไปโรงแรม ร้านอาหาร และมีศาลเจ้าอยู่ในตรอกชื่อว่า “ศาลเจ้าโจวซือกง” เป็นศาลเก่าแก่อายุ 200 ปี เป็นที่สักการะสำคัญของคนจีนฮกเกี้ยนในชุมชน ตอนที่เราที่ศาลเจ้าคนค่อนข้างเยอะทำให้เราเดินย้อนกลับมาทางเดิมที่เดินเข้ามาและได้ด้วยความโชคดีจึงได้เจอกับกลุ่มแห่มังกรขนาดเล็ก หลังจากเดินผ่านกลุ่มแห่มังกรออกมาตรงจนสุดตรอกก็จะเจอกับตลาดชุมชน ที่คนเริ่มขวักไขว่เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานและฝนตกปรอยปรอย ภายในตลาดก็จะมีอะไหล่เครื่องยนต์ต่างๆ และเราก็เดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อเดินทางกลับ สรุป ในการมาครั้งนี้เรามากันแบบไม่มีการวางแผน เวลาค่อนข้างน้อย และสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจทำให้เราไม่สามารถเดินได้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม แต่ก็ใช่เวลาที่มีอยู่ได้คุ้มที่สุด มีมุมที่ถ่ายรูปเยอะมากที่เป็นทั้ง Street Art สมัยใหม่ หรือแบบโบราณ วินเทจ และยังมีมุมระหว่างทางที่เราเดินถ่ายรูปได้ตลอดทาง ไม่ใช่ว่ามีแค่มุมถ่ายรูปแต่ยังมีงานศิลปะของศิลปินให้เลือกดูหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน สำหรับคนที่ไปคนเดียวไม่ต้องกลัวเหงาเลยระหว่างทางจะมีน้องแมวนอนยังตามทางเดินและยังมีผู้คนในชุมชนที่พร้อมตอนรับนักท่องเที่ยวทุกๆ คน ยังมีอีกหลายอย่างเช่นร้านอาหารในชุมชน หรือการเข้าไปขอพรในเเจ้าที่เรายังไม่ได้ทำ ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าอยากที่จะเที่ยวที่นี่อีก เครดิตรูปภาพ ถ่ายโดยผู้เขียน นางสาว สุพิชฌาย์ ยอดเกวียน นาย วรัญญู นาอินทร์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !