เทศกาลแกลสตันบูรี (Glastonbury Festival) ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเทศกาลแกลสตันบูรี หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ เทศกาลศิลปะการแสดงร่วมสมัยแกลสตันบูรี (Glastonbury Festival of Contemporary Performing Arts) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แกลสตันบูรี หรือ แกลสโต เป็นเทศกาลดนตรี และการแสดงบนผืนหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นที่รู้จักกันในด้านดนตรีร่วมสมัย และยังมีศิลปะ การเต้นรำ ตลก ละคร ละครสัตว์ คาบาเร่ต์ และศิลปะอื่น ๆ ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 (2005) เทศกาลครอบคลุมพื้นที่ 900 เอเคอร์ (3.6 ตร.กม.) มีการแสดงกว่า 385 โชว์ มีผู้เข้าร่วมชมราว 150,000 คน ในปี 2007 มีการแสดงกว่า 700 การแสดง กับเวทีมากกว่า 80 เวที (ขนาดเกือบ 8 เท่าของ เวทีใหญ่ทางบ้านเราอย่าง big mountain ที่มีเพียง 10 เวที) ขอบคุณรูปภาพจาก: Wendy Wei from Pexels แต่...ช่างน่าเสียดายที่เทศกาลแกลสตันบูรี ได้ถูกยกเลิกไปในปีนี้เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า วันนี้เราเลยจะมารำลึกความหลังไปกับผลงานของช่างภาพคุณ เอมม่า สโตนเนอร์ ที่ได้ทำการประมวลภาพของผู้ร่วมงานเทศกาลในช่วงเวลา 50 ปีที่ผ่านมา 2513-2563 (1970-2020) ไปชมกันค่ะ ในปี1970 : เจนนี เวสตี้ เล่าว่ามันเป็นเทศกาลแรกที่ฉันไปกับไมเคิล สามีที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้ จำได้ดีเลยว่าวันนั้นฝนตกหนัก คนดูอย่างพวกเราต้องไปช่วยทีมงานจัดการกับสถานที่ จนเค้าให้พวกเราเข้างานโดยไม่ต้องจ่ายค่าบัตร 1 ปอนด์เลยหล่ะ งานในวันนี้แยกเป็นสองเวที คนมาไม่เยอะเท่าไร มีรถพยาบาลมาสแตนบาย และรถขายไอติมหนึ่งคัน ระบบเสียงวันนั้นมันโคตรห่วยเลย !!! ในปี1971 : เทอร์รี่ เมน วันนั้นผมไปที่งานคนเดียว มันเป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผม ได้เปิดหูเปิดตามากๆเลย ทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยความสงบ สันติภาพ และ ความเป็นมิตร ทั้งที่เราต่างเป็นคนแปลกหน้า ผมรู้สึกแปลกหน่อยๆ ที่เห็นคนพากันแก้ผ้าเต้นรำ ทุกอย่างมันช่างต่างจากปัจจุบันนี้จริงๆ ในปี1984 : พอล เคลเมนส์ เล่าว่ารูปนี้เป็นรูปที่ผม และเพื่อนๆกำลังรอการแสดงของ The Smiths ที่เวทีหลัก พอโชว์เริ่ม ไอ้คนที่นอนหนุนตักผมในรูปมันขึ้นไปป่วนบนเวที ทำให้โชว์ของ The Smiths จบลงเร็วกว่ากำหนด ตอนนั้น แกลสตันบูรียังเป็นเพียงงานเล็กๆ ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยอะไรทั้งนั้น พวกเราต่างดูแลช่วยเหลือกันเอง มันเป็นปีเดียวกับที่มีการประท้วงครั้งใหญ่ของคนงานขุดถ่านหิน ทำให้ผมเห็นสติกเกอร์ coal not dole (ถ่านหินไม่มีค่า) แปะอยู่ทั่วงาน เป็นความทรงจำที่ดีจริงๆ ในปี 1987 : จอห์น โนวิส เล่าว่าหลังจากจบแกลสตันบูรีในปีนั้น ผมและลูกสาวทั้งสองคนเก็บของใส่รถ เตรียมตัวเดินทางกลับบ้านที่เบรคอน ประเทศเวลส์ ระหว่างทางโดนตำรวจเรียกให้จอด เพราะสายรายงานมาว่ามียาเสพติดอยู่ในรถ พวกเราติดอยู่ที่สถานนีตำรวจอยู่หลายชั่วโมง รถถูกโละเป็นชิ้นๆ ลูกสาววัย 8 และ 10 ขวบ เริ่มร้องไห้เพราะพวกเค้าคิดว่าผมจะถูกพาตัวไป จนพวกเราถูกปล่อยตัวไปตอนหัวค่ำโดยตำรวจบอกว่าเป็นการเข้าใจผิด ในปี 1989 : เอลลา แคมปส์ ลีนนีย์ เล่าว่ามันคือแกลสตันบูรีครั้งแรกของฉัน ในรูปคือแม่ที่กำลังอุ้มฉันอยู่ วันนั้นมันร้อนมากๆจนแม่ต้องเอาผ้าอ้อมมาคลุมหัวเพื่อกันแดดให้ ในปี 1995 : ชอน เดวีย์ เล่าว่าแกลสตันบูรีครั้งแรกของผมคือตอนที่ผมอายุ 24 อาศัยอยู่ที่บริสตอล ผมพบกับแพดดี้ รักครั้งแรกและรักแท้ของผมที่นั่น สี่ปีที่แล้วแพดดี้จากไปด้วยโรคเนื้องอกในสมอง ........ ผมยังระลึกถึงช่วงเวลานั้นที่แกลสตันบูรีอยู่เสมอ ในปี 2003 : อลี เบิร์ด เล่าว่าผมสนุกโคตรๆใน Lost Vagueness (ลอส เวกเนส งานปาร์ตี้หลังจบคอนเสิร์ต เป็นเหมือนเทศกาลในเทศกาลขอบคุณอีกที ชื่องานตั้งเพื่อแซวลาส เวกัส) แชมเปญหมดไปไม่รู้กี่ขวด ยันหว่างงงงงง ในปี 2009 : โซอี ไอลา ดาวิกนอน 2009 โซอี ไอลา ดาวิกนอน เล่าว่าเป็นรูปถ่ายของฉันกับเพื่อนสนิท วันนั้นเป็นไม่กี่วันก่อนหน้าวันเกิดอายุ 16 ปีของฉัน ปีนั้นเป็นปีที่ไมเคิล แจ็คสันเสียชีวิต ฉันจำช่วงเวลาที่คนทั้งงานทราบข่าวของไมเคิลได้ดื แกลสตันบูรีกลับตาลปัด ทุกวงนำเพลงของ MJ มาเล่นกันหมดเลย !! ในปี 2011 : รัสเซล ฮอลโลเวล เล่าว่าในขณะที่ผมกำลังยืนอยู่กลางสนาม มีผู้ชายท่าทางลุกลี้ลุกลน สะพายกีตาร์ยืนหันรีหันขวางอยู่ ในจังหวะหนึ่งที่ผมสบตากับชายคนนั้น เค้าเข้ามาถามผมทันทีว่า “ฝากกีตาร์ไว้แปปหนึ่งได้มั้ย จะไปห้องน้ำ” (ปวดขี้แน่นอน) ผู้ชายคนนั้นคือ เอ็ด โอไบรอัน มือกีตาร์ของเรดิโอเฮดนั่นเอง เอ็ดกลับมาจากห้องน้ำพร้อมกล่าวขอบคุณผมและถามผมว่าสนใจจะขึ้นไปดูเรดิโอเฮดเล่นบนเวทีมั้ย นี่แหละที่มาของภาพนี้ ในปี 2017 : ไกอา แคมป์เบล โคลส์ เล่าว่าเราสองคนคิดว่ามันคงจะเจ๋งดีถ้าจ้างช่างภาพมาถ่ายพรีเวดดิ้งของเราในแกลสตันบูรี ก่อนที่เราจะเข้าพิธีกันในสัปดาห์ถัดไป แต่ช่างภาพแนะนำว่าผมควรจัดแต่งงานแบบจริงๆในนี้เลย เราจึงทำตามคำแนะนำ มีคนอาสาทำหน้าที่ผู้ดำเนินพิธี(บาทหลวง)ให้ มีคนมามุงดูกันเยอะมาก แต่ความรู้สึกของเราตอนนั้นคือ รอบๆไม่มีใคร มีแค่เราสองคนเท่านั้น เป็นไงกันบ้างคะ เทศกาลแกลสตันบูรีเป็นเทศกาลดนตรีที่เต็มไปด้วยความทรงจำของหลายๆคน นอกจากนี้เอมม่ายังได้กล่าวไว้ว่า มันคือสถานที่ๆผู้คนจากทั่วโลกมาพบกัน กลายเป็นกลุ่มเพื่อน กลายเป็นสังคมขนาดใหญ่ วงดนตรีหลายวงได้แจ้งเกิด ผู้คนได้พบรักกัน เด็กๆหลายคนเติบโตมากับเทศกาลนี้ ในช่วงเวลาที่เราต้องเว้นระยะห่างทางสังคมยิ่งทำให้เราคิดถึงแกสตันบูรีมากเป็นพิเศษ เครดิตภาพ และบทสัมภาษณ์จาก : https://www.emmastoner.com/myglastonburystory ขอบคุณรูปภาพจาก: https://emmastonerweddings.com/