เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปอได้ไปเที่ยวทะเลสาบไบคาล ไปแบบงง ๆ รู้แต่หนาว มีน้ำแข็ง มีหิมะ คิดในใจ จะไปเป็นเอลซ่า เพื่อนชวนล่วงหน้าครึ่งปี ก็เลยบอกว่าไปก็ไป ว่าแต่ไบคาลอยู่ไหน อยู่แถบไซบีเรีย ในรัสเซีย บินแค่ 6 ชั่วโมง ให้เพื่อนจัดการ จองตั๋วเครื่องบิน ซื้อทัวร์ท้องถิ่น จ่ายเงิน จบที่งบ (ประมาณ) 35,000 บาท ต่อคน ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ คือ ตั๋วเครื่องบิน 14,500 บาท ค่าทัวร์ รวม คนขับรถ ไกด์ ที่พัก อาหาร 8 มื้อ บนเกาะ คนละประมาณ 12,000 บาท อาหารรวมในค่าทัวร์แล้ว ค่าทัวร์ One day Trip ที่ไปนั่งหมาลากเลื่อน ชมพิพิธภัณฑ์ ไปตลาดปลา ไปดูที่เค้าเล่นสกี สโนว์บอร์ด 3,500 บาท ค่าโรงแรมคืนแรกหารกัน เฉลี่ยคนละ 700 บาท ค่าโรงแรม 2 คืนสุดท้ายในเมือง 840 บาท ต่อคน ที่เหลือก็ซื้ออาหาร ซื้อขนมกินเองนิดหน่อย ค่ารถที่ต้องเดินทางเอง เดินทาง จำนวน 6 คน ปกติไปเที่ยว 7 วัน 7 ชุด แฟชั่นต้องมา ฉันต้องสวย แต่คราวนี้ มีอุปสรรคคือ เรามีน้ำหนักโหลดกระเป๋าได้แค่ 10 กิโล ถือขึ้นเครื่องได้ 1 ใบ ไม่เกิน 5 กิโล ด้วยความงก ไม่ซื้อเพิ่มจ้า ไป 7 วัน อากาศ -20 ถึง -30 องศา และแล้วก็ถึงเวลา ชุดนอนชุดเที่ยวชุดเดียวกัน เดินทางด้วยสายการบิน Ural Airline อ่านรีวิวสายการบินมาบ้าง เลยมีความแพนิค กลัวนั่นนี่ไปหมด (ทางที่ดี อย่าอ่าน เตรียมใจให้พร้อมเมื่อต้องออกเดินทางก็พอ ) สรุปคือ ไม่ดีเลย์ อาหารใช้ได้ คุณแอร์คนสวยปลุกมากินข้าวตอน ตี 3 ทุกอย่างดีกว่าที่คิด เวลาดีด้วย ออกจากสุวรรณภูมิ ตี 1 ถึงสนามบินอีร์คุตส์(รัสเซีย) ตอน 7 โมงเช้า พอไปถึง กระเป๋าพี่ที่ไปด้วยกัน แตกแหลกราน ล้อลากพัง พวกเราเลยจำต้องนั่งแท๊กซี่ โดนแท๊กซี่รัสเซียรับน้องไป คันละ 2,500 RUB ประมาณ 1,250 บาทต่อคัน ระยะทาง ไม่ถึง 10 กิโลเมตร เราต้องแยกนั่ง 2 คัน คันละ 3 คน ถึงบ้านพักที่เราจองไว้ในเมืองอีร์คุตส์ ช่วงแรกไม่มีรูปเพราะออกจากสนามบินหนาวมาก ปรับตัวไม่ทัน ใครจะเอามือออกมาถ่ายรูป ไม่ถ่าย หนาว!! เลยเป็นช่วงที่รูปถ่ายหายไป แล้วเราก็ไปเดินเล่นในเมือง หาของกินรองท้อง อุปสรรคคือ อ่านหนังสือไม่ออกสักตัวจ้า มีแต่ภาษารัสเซีย ดีที่วันต่อๆไป เรามีคุณไกด์พาไปเกาะ โอคอน ที่ๆเราจะไปทะเลสาบน้ำแข็งไบคาล เราไปพักบนเกาะ 3 คืน 4 วัน การเดินทางจากเมืองอีร์คุตส์ ไปยังเกาะ ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง โดยรถยนต์ แวะไปเรื่อย มาวันแรก ร่ำร้องจะกินเกี๊ยวรัสเซีย จากนั้นไปได้กินจนเบื่อ อาหารที่นี่ (ในโรงแรมที่เราพักบนเกาะ) ทุกอย่างใส่ผักชีลาว หรือแม่บ้านโรงแรมที่เราไปพักอยู่เป็น ผักชีลาวLover ก็ไม่รู้ น่าเอาวัฒนธรรมแกงอ่อมอีสานบ้านเราไปเผยแพร่บนเกาะเสียจริง แล้วพวกเราก็ได้ไปเดินเล่นหลังจากถึงที่พักบนเกาะ เราเดินตัดภูเขาที่มีหิมะปกคลุมไปทั่วเพื่อไปยัง Shaman Rock แล้วก็ยืนงงว่า แท่ง ๆ มีผ้าสี ๆ ผูก คืออะไร คุณไกด์บอกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เราสนใจพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกมากกว่าเลยวิ่งไปถ่ายรูปแทน วันต่อ ๆ ไป เราก็นั่งรถลงไปยังทะเลสาบที่เป็นน้ำแข็ง เพื่อไปถ่ายรูป ดูน้ำแข็งแปลก ๆ สำรวจธรรมชาติในฝั่งซีกโลกที่บ้านเราไม่มี กะว่าให้เบื่อกันไปข้างนึงเลย ก่อนกลับจากเกาะเข้าเมืองคุณไกด์น่ารัก ชวนไปเล่นไอซ์สเกตที่ทะเลสาบน้ำแข็ง สามารถเดินไปได้ ไม่ไกลจากโรงแรม ดีจัง ไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ หิ้วรองเท้าสเกตแล้วเล่นได้เลยไม่เสียค่าลานสเกต หงายหน้าหงายหลังกันไป คุณไกด์บอก เธอต้องซ้อมมากกว่านี้ คือ บ้านฉันมันร้อนไม่มีลานน้ำแข็งให้ซ้อมนะ น่าจะชวนคุณไกด์มาเล่นโถกเถกไม้ไผ่ แล้วบอกคุณไกด์ว่าเธออ่อนซ้อม แหม เรากลับมาจากเกาะแล้วก็พักโรงแรมใกล้สนามบิน เพราะวันถัดมา เราจะไปนั่งหมาลากเลื่อนกัน ความฝันว่าหมาที่จะมาลากคือ ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวใหญ่ขนฟู ความจริงคือ ไอ้ด่างผอม ๆ แถวบ้านฉันนี่แหละ ทางฟาร์มบอกว่าเป็นพันธุ์พื้นเมือง กำลังพัฒนาอยู่เพราะเคยเอาไปแข่งแล้ว วิ่งชนะไซบีเรียนฮัสกี้ น้องหมาวิ่งไป อึไป วิดหิมะกระเด็นใส่หน้า หรือฉี่น้องหมาก็ไม่รู้ ความฝันหวานของฉันละลายไปพร้อมกับหิมะที่น้องหมาวิดใส่หน้า หลังจากนั้นเราไปตลาดปลา Omul ปลาพื้นเมืองของคนที่นี่ แต่เราไม่ได้ซื้ออะไรค่ะ และด้วยความอุ้ยอ้ายเดินช้าของพวกเรานั้น ทำให้พลาดเข้าชมพิพิธภัณฑ์อะไรสักอย่าง เลยได้ไปนั่งชิงช้าสวรรค์อันใหญ่ชมพระอาทิตย์ตกแทน วันสุดท้ายก่อนกลับ เราคุยกันว่า จะเดินไปโบสถ์ถ่ายรูปสวย ๆ สุดท้าย เราไปไม่ถึงโบสถ์ เราแวะห้างที่เดินผ่านสักห้าง แล้วซื้อของฝาก ซื้อขนม เพื่อจะเอากลับไทย ขากลับเราเลือกที่จะนั่งรถเมล์ ในราคา 10 บาทตลอดสาย 10 บาทจริง ๆ แล้วก็คิดได้ว่า ไอ้ค่าแท๊กซี่ 1,250 บาท ที่จ่ายตอนวันแรกที่มาถึง คืออะไร ค่าประสบการณ์เอาไว้อัพเลเวลในการท่องเที่ยวครั้งหน้าสินะ การมาเที่ยวคราวนี้ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าตอนปอไปเที่ยวเกาหลีเองเสียอีก เพราะ ไม่มีของให้ช้อปปิ้ง ไม่รู้จะซื้ออะไร ซื้อแต่ไอติม กับเบเกอรี่กิน สวย สนุก ครบทุกกิจกรรม กลับบ้านได้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียนเอง