หากพูดถึงจังหวัดมหาสารคาม ทุกคนก็ต่างนึกถึงแต่เมืองแห่งการศึกษา สถานศึกษาเต็มไปหมดทั้งเมือง จนคิดว่าไม่มีที่เที่ยวที่น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ ? แต่หารู้ไม่ว่า เมืองแห่งการศึกษายังคงซ่อนแหล่งท่องเที่ยวไว้อีกมากมายให้เราได้ไปศึกษา วันนี้ผู้เขียนจึงจะพาทุกคนไปแหล่งเรียนรู้แบบชนบท ในเมืองมหาสารคาม ที่เป็นอุทยานสัตว์เล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ที่สำคัญคือใกล้กับตัวเมืองอีกด้วย จะเป็นที่เที่ยวที่ไหนนั้น ตามไปชมพร้อมกันเลยค่ะ นี่คือที่เที่ยวที่ชื่อว่า อุทยานวังมัจฉา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโขงกุดหวาย หมู่ที่ 7 ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม อุทยานวังมัจฉาหากเดินทางมาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ม.ใหม่ ประมาณ 8 กิโลเมตร ขับมาทางเข้าเมือง เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงแม็คโครแล้ว ให้เลี้ยวซ้าย และขับเข้ามาเรื่อย ๆ อีกประมาณ 6 กิโลเมตร ระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกทางตลอดว่าอุทยานวังมัจฉาเป็นแบบไหน เมื่อถึงจุดหมายของเราแล้วเราก็ทำการฝากรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ได้ที่ข้างหน้าทางเข้าเลยค่ะ ค่าฝากรถมอเตอร์ไซค์ราคา 5 บาท ส่วนรถยนต์ราคา 10 บาทเท่านั้น การท่องเที่ยวของที่นี่เป็นการท่องเที่ยวเชิงชนบทและอนุรักษ์ เป็นอุทยานเล็ก ๆ ไม่ใหญ่มาก มีสะพานข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งโดยระหว่างสะพานก็จะมีศาลาคั่นกลางระหว่างสะพานอยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนน้ำนั้นมีความใสมากและทอดยาวเป็นบริเวณล้อมรอบอุทยาน หากใครที่ต้องการที่จะซื้ออาหารให้สัตว์เราก็สามารถซื้อได้ตรงบริเวณที่เราฝากรถได้เลยค่ะ มีทั้งผักบุ้ง แครอท มะเขือ ให้กับแพะ กระต่ายและหนูตะเพาในอุทยานมัจฉา ทุกอย่างราคา 10 บาท ส่วนอาหารปลาก็มีทั้งอาหารเม็ดที่ราคาถุงละ 10 บาท ส่วนขนมปังห่อละ 20 บาท เราก็สามารถเลือกได้ตามความชอบของเราเลยค่ะว่าอยากให้อาหารกับอะไร ส่วนใครที่อยากทำบุญปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา ที่นี่ก็มีขายไม่ว่าจะเป็นปลาไหล ปลาทับทิม ปลานิล ปลาดุก หอยขม และนก และราคาก็มีตั้งแต่ 20 บาท และราคาการปล่อยนกก็อยู่ที่ว่าเราจะซื้อปล่อยกี่ตัวเลยค่ะ สำหรับใครที่ซื้ออาหารปลามาก็สามารถมาให้ได้ตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ อุทยานตามที่เราชอบเลย ปลาของที่นี่ตัวใหญ่มาก ๆ และจากที่สังเกตคือเราไม่ควรให้อาหารเม็ดกับปลาเลยค่ะ เพราะปลาไม่กินอาหารเม็ด แต่จะกินขนมปังมากกว่า หากใครที่มีโอกาสได้มาเที่ยวที่นี่ต้องลองซื้อขนมปังแทนอาหารเม็ดดูนะคะ หลังจากที่เราให้อาหารปลาอยู่จุดแรกกันแล้ว เราก็มาข้ามมาอีกฝั่งกันเลยค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้าง แต่ก็ดูร่มรื่นกว่าฝั่งแรกอีกนะคะ ตามมาเลยค่ะ หากเราข้ามมาอีกฝั่งหนึ่งเราจะพบกับ ศาลาพุทธบูชา ได้เรามาสักการะบูชา และเสี่ยงเซียมซี รวมถึงทำบุญอีกด้วย หากใครที่ไม่ได้ซื้ออาหารให้สัตว์ตั้งแต่ทางเข้า ก็ไม่ต้องเดินกลับไปให้เหนื่อยเลยค่ะ เพราะอีกฝั่งก็มีขายเช่นกัน อีกทั้งรายได้ที่ได้จากการซื้ออาหารสัตว์ทุกชนิดจะนำไปถวายวัดอีกด้วย บอกเลยว่านอกจากจะได้ให้อาหารสัตว์แล้วยังยังได้บุญอีกด้วยนะคะ อีกทั้งยังมีอาหารและเครื่องดื่มเย็นขายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารทานเล่นและเมนูส้มตำ ส่วนราคาก็สมเหตุสมผลค่ะ ไม่แพงเกินไป สามารถจับต้องได้ ส่วนในฝั่งนี้นั้นมีแพะไว้ให้เราให้อาหาร เราสามารถเอาหญ้าหรือผักบุ้งมาให้แพะทานได้ บอกเลยว่าแพะที่นี่เชื่องและน่ารักมากค่ะ น้องจะมาเกาะคอกและเล่นกับเรา เหมือนกับว่าเราเคยสนิทกันมาก่อน ซึ่งในวันที่ผู้เขียนได้ไปที่อุทยานวังมัจฉานั้นถือเป็นวันที่โชคดีมาก ๆ เพราะได้เห็นแม่แพะหนึ่งตัวตกลูกพอดี ลูกแพะกำลังน่ารักน่าเอ็นดู พึ่งคลอดได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ ยังเดินไม่ค่อยคล่องนักแต่แม่แพะก็เดินตามตลอด เหมือนกับว่าเขากำลังหวงลูกน้อยเขาอยู่เลยทีเดียว และสัตว์เลี้ยงอีก 2 ชนิดที่น่ารักขี้อ้อนสุด ๆ นั่นคือกระต่ายและหนูตะเพา แต่ละตัวน่ารักมากค่ะ กินเก่งอีกด้วย หาใครที่จะมาเที่ยวให้อาหารกระต่ายที่นี่ ผู้เขียนแนะนำว่าควรป้อนแครอทให้น้องดีที่สุดนะคะ ห้ามป้อนผักบุ้งให้น้องเด็ดขาด เพราะคนส่วนใหญ่ชอบป้อนผักบุ้งให้น้องทำให้น้องป่วยหรืออาจตายได้ เพราะว่าผักบุ้งมียางที่กระต่ายกินไม่ได้ ถ้าเรายังอยากเห็นน้องน่ารัก ๆ แบบนี้ตลอด เราก็ควรป้อนแค่แครอทน้องนะคะ เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคนกับแหล่งท่องเที่ยว อุทยานวังมัจฉาในจังหวัดมหาสารคาม ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าในจังหวัดเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยการศึกษาจะมีที่เที่ยวแบบนี้อยู่ด้วย หากใครได้มีโอกาสมาจังหวัดมหาสารคาม ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันเยอะ ๆ นะคะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน