วันว่าง ๆ แค่หนึ่งวันในเชียงใหม่ ไปขึ้นดอยกันดีไหมคะ ฮ่า ๆ เราเป็นคนชอบเดินป่า ขึ้นดอยมากค่ะ ถ้าชวนคือไปแน่นอน อย่างทริปนี้จริง ๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามีม่อนนี้อยู่ที่เชียงใหม่ เพราะเราไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงกัน ไปทางเดียวกับทางไปม่อนแจ่มเลยค่ะ แต่ส่วนมากคนก็เลือกไปเที่ยวม่อนแจ่มเยอะกว่า อาจจะเป็นเพราะไม่รู้จักม่อนนี้รึเปล่านะ เพราะเราก็พึ่งเห็นแล้วก็ลองไป ถ้าให้ไปอีกรอบก็จำทางไม่ได้แล้วหล่ะค่ะ ทางแยกก่อนที่จะไปถึงดอยม่อนล่องมันเยอะมากต้องขับรถไปแล้วคอยถามชาวบ้านเรื่อย ๆ จนถึงตีนดอยก่อนจะขึ้นไปม่อนล่อง ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายโมงแล้วค่ะ ตอนเราถามทางคนแถวนั้นเขาบอกว่าช่วงหน้าหนาวจะมีรถกระบะไปรับไปส่งถึงบนดอยม่อนล่องเลย เพราะทางขึ้นคือลำบากมาก แต่เราก็รอรถจนมีลุงคนนึงขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา เราเลยถามว่าวันนี้จะมีรถรับขึ้นดอยรึเปล่า ลุงบอกช่วงนี้มันปลายฝนต้นหนาวนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะเลยไม่มีรถไปรับไปส่ง เราต้องขึ้นไปเอง เราเลยไม่รอช้าเอารถมอไซค์แว๊นขึ้นดอยเลยจ้า แต่ฤดูฝนทางคือเป็นโคลนแล้วถนนขึ้นดอยลื่นมากจะขับไปทางไหนก็ลื่น อันตรายมากเลยค่ะเกือบรถล้มหลายรอบมาก จึงไม่เอารถมอเตอร์ไซค์ไปต่อ เพราะไปไม่รอดแน่นอนจึงตัดสินใจเดินขึ้นดอย ลุงที่ผ่านไปมาเขาบอกว่าประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงยอดดอย อยากจะบอกว่าเป็นสามกิโลเมตรที่เหนื่อยมาก เหมือนเดินวนไปมาไม่ถึงสักทีก็เดิน ๆ หยุด ๆ แต่อากาศดีมากเสียงนกเต็มไปหมด เดินไปเรื่อย ๆ พอใกล้ถึงแล้วจะเห็นศาลพระภูมิก็หลอน ๆ อยู่นะคะแถวนั้น เหมือนไม่ค่อยมีใครไปเที่ยวเลยเท่าที่ดูรอบ ๆ ถ้าเดินขึ้นไปอีกนิดก็จะเป็นศาลของขุนหลวงวิรังคะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปตรงนั้น เราอยู่ชมวิวแถวข้างล่าง เราคิดว่ามันคุ้มมากเดินขึ้นดอยม่อนล่องครั้งนี้เพราะวิวสวยมากเห็นเมืองด้านล่างเป็นเมืองลำพูน เห็นภูเขาเรียงกันอยู่ด้านล่างลมพัดเย็นมากอาจจะเป็นเพราะว่าฝนกำลังใกล้มา มีตำนานเล่าถึงม่อนล่องนี้ว่าอดีตกษัตริย์ชาวลัวะหรือขุนหลวงวิรังคะอยากขอให้เจ้าแม่จามเทวีเป็นพระมเหสี ซึ่งเจ้าแม่จามเทวีเป็นกษัตริย์ของเมืองหริภุญชัย แต่เจ้าแม่จามเทวีมีข้อแลกเปลี่ยนว่าถ้าขุนหลวงวิรังคะพุ่งหอกมาถึงเมืองหริภุญชัยได้จะยอมเป็นพระมเหสี แต่ตอนที่ขุนหลวงวิรังคะพุงหอกไปเมืองหริภุญชัยนั้นเจ้าแม่จามเทวีได้รายคาถาอาคมไว้ ทำให้ขุนหลวงวิรังคะไม่สามารถพุ่งหอกมาถึงเมืองหริภุญชัยได้ ขุนหลวงวิรังคะจึงโมโหและยกทัพไปตีเมืองหริภุญชัยแต่ก็พ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะสิ้นใจได้บอกว่าให้นำศพไปฝังตรงจุดที่เห็นเมืองหริภุญชัย แต่ระหว่างนำศพไปฝังบนยอดดอยโลงศพก็พลิกคว่ำลงมา ทำให้ม่อนนี้ชื่อว่าม่อนล่อง ล่องคือโลงศพนั่นเอง มีตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาสามารถติดตามอ่านได้และอย่าลืมลองไปเที่ยวกันดูนะคะ เห็นเขาบอกว่าถ้าไปขอเรื่องความรักที่ม่อนล่องจะประสบความสำเร็จด้วยแหละค่ะ สำหรับการเดินทางไปม่อนล่อง ใช้เส้นทางเดียวกันกับการไปม่อนแจ่มเลยค่ะ แต่ก่อนจะขึ้นม่อนแจ่มจะมีทางแยกขวามือไปทางโรงเรียน สามารถถามทางคนในหมู่บ้านได้ตลอดทางค่ะ เพราะทางแยกค่อนข้างเยอะ พิกัด : https://goo.gl/maps/1G3VgdnKN2eozp1j6 เวลาเปิด - ปิด : 08.00 - 17.00 น. เปิดให้บริการช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน - มกราคม ไม่มีค่าเข้า แต่มีค่ารถขนส่งขึ้นไปบนดอย ไม่แน่ใจว่ากี่บาทเพราะตอนที่เราไปไม่มีรถขึ้นไปส่งเดินเท้าขึ้นเอง สามารถเดินขึ้นได้นะคะไม่เสียเงิน สามารถทำกิจกรรมหรือกางเต้นท์ได้แต่ต้องบอกเจ้าหน้าที่ก่อน ติดต่อเบอร์ : 085-6231838, 097-9877546, 085-7225077