หนึ่งในวัดที่คนกรุงเทพฯ นิยมมาไหว้พระ 9 วัด ชื่อเต็มของวัดนี้ชื่อว่า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 ซึ่งในวันนี้ฉันกับเพื่อนสาวตั้งใจมาไหว้พระ 9 วัด และวัดนี้เป็นหนึ่งในวัดที่เราจะมา ตอนแรกคิดว่าจะอกหักเพราะวัดดูเหมือนก่อสร้างทาง และเหมือนจะปิดไม่ให้คนเข้า แต่ได้ถามไปที่พี่ ๆ บริเวณวัด เขาบอกว่าเข้าได้ แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม ฉันกับเพื่อนนั่งตุ๊กตุ๊กมาจากย่านใกล้เคียง กลัวจะเสียเที่ยวเดี๋ยวไม่ครบ 9 วัด เลยทำให้ลองเดินเข้าไปสำรวจรอบ ๆ เพื่อนสาวบอกว่าเคยมาวัดนี้และเข้าอุโบสถอยู่ครั้งหนึ่ง แต่นานมากแล้ว เลยพากันเดินเข้าไปที่ใจกลางของวัด จะเห็นว่ามีเจดีย์อยู่ตรงกลาง และรายล้อมไปด้วยศาลาและอุโบสถ รอบ ๆ เจดีย์จะมีพระพุทธรูปที่เป็นเหมือนชื่อเจ้าอาวาสวัดตั้งแต่ที่วัดนี้สร้างขึ้นมา เพื่อนสาวเดินไปดูบอกว่ามีอุโบสถอยู่ฝั่งซ้าย แต่ปิด มองไปรอบ ๆ เห็นการซ่อมแซมวัดเกิดขึ้น ฉันไม่อยากเชื่อว่าวัดจะปิด จึงลองเดินไปฝั่งขวา และสอบถามพี่ ๆ แถวนั้น ได้ความว่าอุโบสถฝั่งขวาเปิด แต่ต้องเข้าอีกทาง พวกเราไม่รอช้า รีบไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที เมื่อเข้ามาในอุโบสถถึงกับตะลึงในความงามและความแปลกของศิลปะในวัดนี้ เนื่องจากมันดูไม่เหมือนวัดอื่น ๆ ที่จะเป็นจิตรกรรมฝาผนังไทยแท้ เล่าเรื่องพุทธประวัติเป็นส่วนใหญ่ ที่นี่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง มีการผสมผสานศิลปะโบสถ์จากศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมฝั่งตะวันตก ดูแล้วเป็นสไตล์โกธิค เพราะมีความหรูหราตามตำราว่าไว้ ว่ากันว่าเมื่อก่อนฝาผนังวัดนี้ก็เป็นจิตรกรรมฝาผนังเล่าพุทธประวัตินั่นแหละ แต่ถูกลบไปในสมัยรัชกาลที่ 7 ซึ่งเป็นช่วงที่วัฒนธรรมตะวันตกกำลังเข้ามาในสยามประเทศทั้งในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การแต่งกาย มาจนถึงศิลปะสถาปัตยกรรมในวัดด้วย ซี่งภายในมีพระประธานนามว่า ‘พระพุทธอังคีรส’ ซึ่งมีความพิเศษอีกเช่นกัน เพราะพระรัศมีสามารถถอดเปลี่ยนได้ ไม่เหมือนพระพุทธรูปทั่วไป ฉันชอบสีชมพูของอุโบสถและชอบความพิเศษของพระประธานที่นี่เหลือเกิน และได้ทำการกราบไหว้ขอพรพระ เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตเรียบร้อยแล้ว เมื่อชมเสร็จสิ้นการกราบไหว้ขอพรและชมความงามของศิลปะจนพอใจแล้ว พวกเราก็พากันเดินทะลุออกมาอีกฝั่งของวัด เป็นเหมือนสวนหย่อมขนาดย่อม มีพรรณไม้สวยงามประดับอยู่รอบ ๆ และมีที่นั่งให้ชมความสวยงามภายนอกวัด แม้แดดจะร้อน แต่วัดดูสงบและร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ หลังคาวัดหลากหลายแบบประดับอยู่รอบเจดีย์ ดูสวยงามมีมิติเป็นอย่างมาก พระเจดีย์นี้ถือเป็นเจดีย์แบบโบราณดั้งเดิม ไม่มีการดัดแปลงใด ๆ เลย เจดีย์ที่วัดอื่น ๆ จะเป็นเจดีย์ที่ผสมผสานดัดแปลงไปตามยุคสมัยเสียเป็นส่วนมาก ใครอยากลองมาวัดราชบพิธฯ โดยไม่ต้องเดินทางด้วยตุ๊กตุ๊กแบบพวกเรา สามารถมาได้โดยนั่ง MRT ลงสถานีสามยอด แล้วเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึงวัดแล้ว หรือไปติดตามความเคลื่อนไหวของวัดได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม Wat Rajabopit รับรองว่าถ้าได้มาเอง จะได้เที่ยวชมความสวยงามแปลกใหม่ของวัด ที่ผสมผสานศิลปะไทยเข้ากับศิลปะตะวันตกได้เป็นอย่างดี คนชอบเที่ยววัดประทับใจอย่างแน่นอน เที่ยวชมวัดราชบพิธฯ ชมศิลปะไทยผสมผสานตะวันตก