สวัสดีค่ะอ้ายฉิงรีวิววัดเช่นเคย สำหรับการเที่ยวเขมราฐ อุบลราชธานีครั้งนี้ก็เป็นการเดินทางกลับจากงานแต่งเพื่อนสนิท เส้นทางขากลับผ่านหลายจุดเหมือนกัน วัดบุ่งขี้เหล็ก ก็เป็นหนึ่งจุดแวะท่องเที่ยว ไหว้พระ ถ่ายภาพ ถือเป็นการพักรถ พักคนระหว่างเดินทางไปในตัวเลย ที่นี่มีความโดดเด่นที่เจดีย์แปลกตารูปทรงไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน ชื่อเจดีย์ศรีอริยเมตไตรย มี 6 ชั้น สูง 97 เมตร ทุกชั้นขึ้นชมได้ และอีกหนึ่งความน่าสนใจคือลานพระขาวอ้ายฉิงได้แวะเข้ามาภายในวัด มีที่จอดรถกว้างขวาง วันนั้นก็มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเหมือนกันแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ และสิ่งหนึ่งที่เผชิญไปพร้อมกันคือแดดร้อนระอุมาก ๆ แต่ใจก็ยังสู้ไหวอยู่ ไหน ๆ ก็ได้แวะเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสชมให้หนำใจเลยซึ่งจุดแรกที่พากันชมก็จะเป็นภายในเจดีย์ศรีอริยเมตไตรย เป็นเจดีย์ที่มีเวลาเปิดปิด วันธรรมดาปกติทำการ 08.30 – 17.00 น. ส่วนวันหยุดทำการเวลา 08.30 – 17.30 น.ภายในนั้นชั้นแรกเลยก็จะเจอกับห้องโถงใหญ่ ๆ สีทองอร่ามสวยงาม ตัวองค์เจดีย์ภายนอกเองก็ทองอร่ามเช่นกัน เรียกว่ามองเข้ามาก็สะดุดตากับความทองสว่างและใหญ่ตระหง่านของเจดีย์แห่งนี้เลยหากต้องการจะไปชั้นอื่น ๆ สะดวกสุดใช้ลิฟท์ได้เลย หรือจะเดินบันไดวนก็ได้หากต้องการ แต่ละชั้นก็จะมีพระพุทธรูปต่าง ๆ ให้ไหว้ที่หน้าลิฟท์จะระบุไว้เลยว่าชั้นไหนมีอะไรบ้างแต่อ้ายฉิงไม่ได้แวะทุกชั้นเพราะต้องทำเวลาในการเดินทาง เลยได้เห็นเพียงชั้น 1 กับชั้น 6 เท่านั้นเองจุดต่อไปก็เดินไปตามป้ายบอกทางภายในวัดว่ามีที่ไหนให้แวะบ้าง ต่อไปก็ไปเจอคาเฟ่ในวัด แปลกใหม่ดี เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ อยู่หลังวัดเลยใกล้ ๆ กับลานพระขาว ใครเดินทางมาเหนื่อย ๆ แวะไหว้พระแล้วก็หาอะไรเย็น ๆ ดื่มได้ นั่งพักได้ตรงบริเวณลายพระขาวของวัดบุ่งขี้เหล็กในวันที่อ้ายฉิงเที่ยว บอกเลยว่า ร้อนมาก ๆ แดดร้อนจะเผาไหม้เกรียมตลอดเวลาเลย แต่ก็ยังพอวิ่งออกไปถ่ายภาพเก็บมารีวิวฝากทุกคนได้จริง ๆ ทางวัดก็จัดจุดสำหรับให้นักท่องเที่ยวเอาไว้ถ่ายภาพหลายจุดเหมือนกันใครจะได้ภาพสวย มุมดีแค่ไหนก็อยู่ที่มุมมองของการถ่ายภาพแต่ละคนเลย แต่อ้ายฉิงเองก็ได้มาอย่างที่เห็นกัน ความสว่างของภาพที่มันสว่างขนาดนั้นเพราะแสงแดดล้วน ๆ เลยประวัติที่มาวัดบุ่งขี้เหล็ก อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานีอ้ายฉิงหาข้อมูลประวัดวัดบุ่งขี้เหล็กมาฝากด้วย เสริมเป็นความรู้เพิ่มเติมในการรีวิว แต่เดิมนั้นมีชื่อว่าวัดสังวรวนาราม จากนั้นหลวงปู่จันทร์หอม ก็ได้มาทำการบูรณะใหม่เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดบุ่งขี้เหล็ก” ประกาศตั้งเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2543 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ 19 มีนาคม พ.ศ. 2550 ในปี พ.ศ. 2546 มีการสร้างอาคารเสนาสนะ อย่างมหาวิหารพระพุทธชินราชและอุโบสถ สร้างเสร็จเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 ส่วนหอเจ้าแม่กวนอิม สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2548ที่มาของเจดีย์ศรีอริยเมตไตรยเจดีย์ศรีอริยเมตไตรยนั้นหลวงปู่จันทร์หอมก็ดำริให้สร้างขึ้นเพื่อสืบพระพุทธศาสนาให้อยู่คู่บ้านเมือง รูปทรงไม่เหมือนใคร แปลกตากว่าที่เคยเห็นจากเจดีย์อื่น ๆ ผนังเป็นสีทองตั้งอยู่กลางวัด เจดีย์ศรีอริยเมตไตรยสร้างเมื่อ พ.ศ. 2556 และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2558 ใช้เวลาในการสร้าง 1 ปี 4 เดือน ซึ่งจะมีทั้งหมด 6 ชั้น ในแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปอยู่ให้ทุกคนขึ้นไปกราบไหว้บูชากันได้ ขึ้นไปแต่ละชั้นก็เปรียบเหมือนการขึ้นสวรรค์แต่ละชั้นจะมีดังนี้ชั้น 1 เป็นชั้นจาตุมหาราชกา จะเรียกว่าสวรรค์ชั้น 1 ก็ได้ จะมีท้าวมหาราช 4 พระองค์ปกครอง อายุ 500 ทิพย์ ( 9 ล้านปีบนโลกมนุษย์) อยู่โลกทำแต่ความดีชวนคนทำบุญ ทำทานชั้น 2 เรียกว่าชั้นดาวดึง ซึ่งมีพระธาตุเกศแก้วจุฬามณี พระอินทร์ปกครอง จะมีอายุ 1000 ปีทิพย์ ( 36 ล้านปีบนโลก) ใครอยู่ชั้นนี้แปลว่าเป็นคนดี รักษาศีล จิตใจดี ชอบให้ทานชั้น 3 เป็นชั้นยามาเรียกว่าสวรรค์ชั้น 3 ซึ่งจะมีท้าวสยามเทวาธิราชปกครอง อายุ 2,000 ปีทิพย์ ( 144 ล้านปีโลกมนุษย์) เป็นที่สำหรับคนที่รักษาศีล ภาวนาอยู่เสมอ นำพาคนอื่นบำเพ็ญไปด้วยชั้น 4 เรียกว่าชั้นดุสิต ซึ่งมีท้าวสันดุสิตเทวราชปกครองอยู่มีอายุ 4,000 ปีทิพย์ ( 576 ล้านปีโลกมนุษย์) สำหรับคนที่มีจิตบริสุทธิ์ อยู่ในศีล ในธรรม ตอนอยู่บนโลกมักฟังธรรมชั้น 5 เรียกว่าชั้นนิมมานรตีภูมิ จะมีท้าวสุนิมมิตเทวราชปกครองอยู่ มีอายุ 8,000 ปีทิพย์ ( 2,304 ล้านปีโลกมนุษย์) สำหรับผู้ที่ประพฤติในธรรม ใจอยู่ในศีล ปฏิบัติอยู่ในธรรมชั้น 6 เรียกว่า ชั้นปรนิมมิตสวัสดี หรือจะเรียกสวรรค์ชั้น 6 จะมีท้าวปรนิมมิตสวัสดีและท้าวปรมินมิตสวัสดีมาราธิราช ปกครองอยู่ มีอายุ 16,000 ปีทิพย์ ( 9,216 ล้านปีโลกมนุษย์) สำหรับคนที่ก่อบุญ ทำกุศลตอนเป็นมนุษย์อยู่เสมอ มีจิตใจสูงอยู่ในคุณธรรม รักษาศีล ให้ทานเสมอในปี พ.ศ. 2562 พระมหาบันทอน สุธีโร พร้อมชาวบ้านและผู้ศรัทธาได้ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ พร้อมชาวบ้านและผู้ศรัทธา และได้เปิดทำการให้เข้าไปสักการะได้ จนมาถึงปัจจุบันลานพระขาว วัดบุ่งขี้เหล็ก อุบลราชธานีมาถึงวัดบุ่งขี้เหล็กแล้วหากไม่ได้มาชมลานพระขาวจะถือว่าพลาดเลย เพราะว่าสวยงามมาก ๆ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย จำนวน 56 องค์ ที่ตั้งเรียงกันสวยงามบนลาน ทุกองค์เป็นสีขาวเลยได้ชื่อว่าเป็นลานพระขาว ซึ่งสถานที่แห่งนี้เกิดจากความศรัทธาของชาวบ้านต่อหลวงปู่จันทร์หอม ได้ร่วมกันสร้างแบบคนละไม้คนละมือจนออกมาสวยงามให้ได้เห็นจนถึงปัจจุบันความประทับใจการเที่ยวไหว้พระวัดบุ่งขี้เหล็ก อุบลราชธานีชอบที่สุดคือที่บริเวณลานพระขาว สวยงามจริง ๆ มองไปแล้วทำให้รู้สึกสงบ แม้แดดจะร้อนมากแค่ไหนแต่ยังมีความรู้สึกเย็นได้อยู่ อีกจุดคือชั้นดาดฟ้าของเจดีย์ศรีอริยาเมตไตรย ลมเย็นสบายมากมองเห็นบรรยากาศโดยรอบได้ชัดเจน อีกมุมจะเห็นลานพระชาวมุมสูงก็สวยอีกแบบ และที่สำคัญวัดนี้ก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำบุญทำทานเท่าไหร่ ตามกำลังศรัทธาได้เลย มีห้องน้ำให้บริการ ที่จอดรถก็มีพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้เยอะการเดินทางมาวัดบุ่งขี้เหล็ก ชมลานพระขาว เจดีย์ศรีอริยเมตไตรยวัดนี้อยู่ในเขตของอำเภอเขมราฐ อุบลราชธานีใครที่มาเที่ยวเขมราฐแนะนำว่าควรแวะมาสักครั้ง เปิดทุกวันเข้าฟรี ส่วนการเดินทางอ้ายฉิงก็มาแบบนักท่องเที่ยวทั่วไปเลยคือเปิดให้ GPS นำทางนั่นเอง วัดอยู่ติดถนนหาไม่ยาก เลี้ยวเข้าไปด้านในได้เลยGPS: https://goo.gl/maps/iKUZPVD7A4eSWAtC7Facebook: วัดบุ่งขี้เหล็ก ลานพระขาวที่อยู่ : 139 หมู่ 4 ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานีวัดบุ่งขี้เหล็กเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเขมราฐที่น่าสนใจ โดยเฉพาะใครที่ชอบเที่ยวสายบุญไม่ควรจะปล่อยผ่าน ในอุบล ฯ นั้นวัดเยอะมาก ๆ ในเมืองก็เพียบเก็บแทบไม่หมดเลย อ้ายฉิงอยู่อุบล ฯ มาก่อนยังเที่ยวไม่หมด ลานพระขาวก็ยังเพิ่งเคยเห็น เพิ่งเคยรู้จักวัดบุ่งขี้เหล็กนี้เองและยังมีอีกหลายสถานที่แน่ ๆ ที่จะต้องตามเก็บ ตามเที่ยวชมเพื่อเป็นประสบการณ์และเก็บภาพมาเขียนรีวิวให้ทุกคนได้ตามรอยกัน เนื้อหารีวิว : อ้ายฉิง (ผู้เขียน)บุคคลในภาพ : อ้ายฉิง (ผู้เขียน)ภาพประกอบ : อ้ายฉิง (ผู้เขียน)ข้อมูลประวัติ : travel.trueid.net, สารสนเทศท้องถิ่นอีสาน ณ อุบลราชธานีภาพปก : Canva อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !