“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” อิ่มบุญอิ่มใจกับหนุ่ม-สุทนทักทายกันวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2565 เมื่อผมเองจัดรายการกินเที่ยวทั่วไทยที่คลื่นข่าว fm 100.5 mhz เวลา 10.10-11.00 น. แล้วเสร็จก็เดินทางมา "วัดสร้อยทอง" เพื่อเก็บเรื่องราวและข้อมูลมาเขียนเล่าให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกันได้ที่ "วัดสร้อยทองพระอารามหลวง" ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาและติดถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานครวัดสร้อยทอง"วัดสร้อยทอง" เป็นอีกวัดหนึ่งน่าสนใจไปกราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดสร้อยทองสำหรับประวัติความเป็นมาของวัดสร้อยทอง หนุ่ม-สุทนขอเขียนเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านเป็นเรื่อง ๆ เพื่อความเข้าใจง่าย ๆ ตามที่ได้พูดคุยกันกับแม่ชีผู้ดูแลในวิหารวัดสร้อยทองดังนั้นขอเริ่มต้นที่เรื่องที่ 1 ตามประวัติความเป็นมาของวัดสร้อยทองสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2394 ถ้าหากดูตามปี พ.ศ.จะตรงกับสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนการสร้างวัดไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้างแต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเชื้อสายของท่านเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์หรือแพ บุนนาค ครั้งกระนั้นจัดสร้างวัดแล้วให้ชื่อว่า "วัดซ่อนทอง" โดยมีเรื่องราวเล่าขานกันว่ามีท้าวอู่ทองได้อพยพผู้คนหนีภัยสงครามเข้ามาบริเวณนี้แล้วเอาทองซ่อนไว้เชื่อได้ว่าคงจะเป็นที่มาของชื่อ "วัดซ่อนทอง" ครับไปวัสร้อยทอง สามารถเดินทางทางเรือได้ครับส่วนเรื่องที่ 2 ต่อมาทาง "วัดซ่อนทอง" ได้ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมวัดขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2445 โดยมีประชาชนชาวสยามหรือชาวไทยและชาวญวนเวียดนาม บริจาคเงินให้บูรณะซ่อมแซมโครงสร้างวัดให้สวยงามสันนิษฐานว่าพอแล้วเสร็จคงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดสร้อยทอง"วัดสร้อยทอง เงียบสงบ สะอาดตาน่ามองเรื่องราวที่ 3 ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กล่าวว่ามีเครื่องบินของทหารพันธมิตรบินมาทิ้งระเบิดบริเวณสะพานพระราม 6 ปรากฏว่าลูกระเบิด 14 ลูกมาตกในวัดซ่อนทองหรือวัดสร้อยทอง ทำให้วัดเสียหายเป็นส่วนใหญ่แต่องค์พระพุทธรูปประดิษฐานในหลังคามุงด้วยจากคล้าย ๆ ศาลาไม้เล็ก ๆ ปรากฏว่าไม่มีอะไรเสียหายแม้แต่นิดเดียวด้วยเหตุผลนี้ชาวประชาชนทั้งหลายเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระพุทธรูปจึงเรียกว่า "หลวงพ่อเหลือ" เพราะในวัดนี้มีพระพุทธรูปเหลืออยู่องค์เดียวนี่คือที่มาของชื่อ "หลวงพ่อเหลือ" พระพุทธรูปหล่อด้วยทองเหลืองผสมสำริดนั่งขัดสมาธิปางมารวิชัยพุทธลักษณะงดงามประดิษฐานบนฐานรองรับสูงแต่มีองค์จำลองให้ปิดทองได้ถึงทุกวันนี้ "หลวงพ่อเหลือ" ประดิษฐานในวิหารดูเด่นชัดและงดงามมาก สำหรับการกราบบูชาขอพรแม่ชี เล่าเรื่องราวให้ฟังว่าขอพรได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการค้า การลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ หรือสอบผ่านเพื่อเข้ารับราชการ เป็นต้น ส่วนการแก้บนตามที่บนบานไว้ เช่น ผลไม้หรือดอกไม้และพวงมาลัย นี่คือส่วนหนึ่งเท่านั้นสำหรับท่านผู้อ่านทุกท่านถ้าหากได้ขอพรองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือ "หลวงพ่อเหลือ" ไปกราบขอพรกันได้เป็นความเชื่อของแต่ละคนครับหลวงพ่อเหลือ เรื่องที่ 4 ขึ้นบน "พระเจดีย์" วัดสร้อยทองประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปที่สำคัญของวัดสร้อยทอง กราบขอพรกันได้เช่นกันครับ กราบพระบรมสารีริกธาติและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ สิริมงคลชีวิตครับ"วัดสร้อยทอง" ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีในปี พ.ศ. 2545 หนุ่ม-สุทน ไปมาแล้ว 3 ครั้ง เชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "องค์หลวงพ่อเหลือ" จึงมากราบขอพรแล้วก็ไม่พลาดที่จะเก็บเรื่องราวและข้อมูลมาเขียนเล่าให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใน "วัดสร้อยทอง" กันนะครับ "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” แล้วฝากติดตามฟังรายการ "กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์" ทางคลื่นข่าว fm 100.5 mhz ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน วัฒนธรรมและอาหารถิ่นของชุมชนได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. ขอบคุณและสวัสดีครับกราบขอพร "หลวงพ่อเหลือ" ขอให้ทุกท่านมีเงิน มีทอง เหลือกิน เหลือใช้ ครับพิกัด "วัดสร้อยทอง" https://goo.gl/maps/Ub9Swpr3QVbcQbBu5เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !