สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้เราจะมารีวิวจังหวัดทางผ่านใกล้กรุงเทพมหานคร นั่นคือ พระนครศรีอยุธยา 📍 นั่นเอง เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนคงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง ว่าที่แห่งนี้เต็มไปด้วยวัดและโบราณสถานจำนวนมาก ที่สำคัญเพื่อน ๆ คงเคยเจอแพลนเที่ยว one day trip กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นจังหวัดที่สามารถเที่ยวได้ครบและจบในวันเดียวแถมยังเดินทางสะดวกไม่ว่าจะด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟชิล ๆ ก็มาได้จ้าขอบอก … หลายคนสงสัย ถ้าหากเราไม่มีเวลาทั้งวันล่ะ ? จะเที่ยวได้ไหม ? เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนแรกว่า เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่หลายคนมองว่าเป็นทางผ่านเพื่อเชื่อมไปจังหวัดอื่น ๆ ขอบอกตรงนี้เลยว่า เรามีเวลา 3 ชั่วโมง ✨ ก็เก็บจุดเช็คอินได้ไม่น้อยเลยนะคะ จะไปที่ไหนได้บ้างนั้น มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยจ้า มากันที่แรกเลยนะคะ วัดไชยวัฒนาราม หรืออีกชื่อ วัดชัยวัฒนาราม ขอกระซิบนิดหนึ่งว่ารูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัดนะคะ ตัววัดตั้งอยู่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จะอยู่ห่างจากใจกลางเมืองนิดหน่อย ใช้เวลา 20 นาทีได้ค่ะ สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำความเป็นไทย สร้างบรรยากาศให้กับตัวเองหรืออยากได้รูปสวย ๆ กลับไป สามารถเช่าชุดไทยย้อนยุคได้ที่บริเวณหน้าวัดเลยนะคะ มีให้เลือกหลายร้านมาก ๆ แต่สำหรับเราที่มีเวลาน้อย ขอลุยเข้าไปชมในวัดเลยดีกว่า ทำเวลานิดหน่อย 😅 ภายในมีให้เดินชมหลายโซนมาก ๆ เลย เอาซะเราเหนื่อยตั้งแต่วัดแรกเลยก็ว่าได้ เราใช้เวลากับการเดินชมทั่ว ๆเกือบชั่วโมงเลยค่ะ 💧 ค่าเข้าชมสำหรับคนไทยอยู่ที่ 10 บาท ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 50 บาทนะคะ ถือว่าราคาไม่แรงเลยค่ะ เทียบกับความสวยงามในวัด เพราะวัดแห่งนี้ได้รับ 📣 การประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็น โบราณสถานของชาติ โดยที่ผ่านมากรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาและดำรงไว้สำหรับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มาต่อกันที่วัดที่สองของวันนี้นะคะ วัดมหาธาตุ ระยะทางอยู่ห่างจากวัดแรกประมาณ 15 นาทีค่ะ อยู่ใจกลางเมืองต.ท่าวาสุกรี บริเวณรอบ ๆ มีอีกหลายวัดเลยนะคะเพื่อน ๆ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่มาแล้วต้องเก็บตกให้หมดนะคะ แต่อย่างที่รู้กันเรามีเวลาน้อย เลยตัดสินใจจะเก็บวัดนี้เป็นวัดสุดท้าย พร้อมแล้วไปชมกันเลยจ้า จุดเด่นของวัดนี้ที่ทุกคนมาแล้วต้องถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก คือ วิหารเล็ก ที่มีรากของต้นไม้ขนาดใหญ่ แผ่รากขึ้นเกาะเต็มผนังวัด ซึ่งรากไม้ส่วนหนึ่งได้ล้อมเศียรพระพุทธรูปไว้ ซึ่งเศียรพระพุทธรูปในรากไม้ดังกล่าวมีอายุนานกว่าร้อยปี เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงเคยเห็นภาพมาบ้างแล้ว ขอบอกเลยว่าของจริงสวยกว่าภาพถ่ายมากค่ะ 📣 ด้วยความงดงามแปลกตาจึงกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจจุดนี้กันมาก ๆ ส่วนบริเวณรอบวัด ๆ มีจุดน่าสนใจอีกเยอะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์แปดเหลี่ยม ซากปรักหักพังซึ่งเคยเป็นสถานที่สำคัญ พระปรางค์ขนาดกลาง มีภาพจิตกรรมฝาผนังบางช่วง เราใช้เวลาเดินชมที่นี่ไปประมาณ 45 นาที ก่อนจะเดินทางไปจุดหมายต่อไป ซึ่งเป็นจุดเช็คอินสุดท้ายของวันนี้ค่ะ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง และแล้วเราก็มาถึงจุดหมายสุดท้ายของทริปวันนี้ค่ะ ตลาดน้ำอโยธยา 🛶 ขอบอกว่านักท่องเที่ยวคึกคักมาก ๆ เลยค่ะ ตัวตลาดยังคงความเป็นกรุงเก่าให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอินเสมือนได้ย้อนเวลานั่นเอง ภายในประกอบไปด้วยร้านค้าค่อนข้างหลากหลายโซน ทั้งร้านอาหารทะเล อาหารคาวหวาน ขนม ของฝาก เรือขายอาหาร ร้านขายสินค้า OTOP ร้านนวดผ่อนคลาย ที่สำคัญมีบริการล่องเรือชมบรรยากาศรอบ ๆ ตลาดด้วย ที่พลาดไม่ได้คงจะเป็นการแสดงโชว์ ช่วงเวลาประมาณ 12.00 – 13.00 น. สามารถชมได้ฟรีนะคะ ถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยอีกทางด้วยค่ะ น่าสนใจเอามาก ๆ เลย เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย เราใช้เวลาทั้งทริปเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น จริง ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะเลยที่เราตั้งใจจะไป หากเพื่อน ๆ คนไหนผ่านไปที่อยุธยาและยังพอมีเวลาว่าง ช่วงข้อต่อของการเดินทาง สามารถเที่ยวรอบ ๆ เมืองได้สบาย ๆ ตามแพลนของเราได้เลยค่ะ 👍 ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ ภาพประกอบบทความโดย . . . spallaround