วัดโพธิ์แมนคุณาราม วัดจีนที่สร้างขึ้นเมื่อสมัย พ.ศ. 2502 เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามผสมผสานศิลปะของสามสัญชาติ ไทย จีน ทิเบต ถึงแม้จะเป็นวันที่สร้างมาไม่ถึงหลายร้อยปี แต่ก็มีเรื่องราวและความพิเศษของวัดแห่งนี้อยู่มาก หลายเรื่องด้วยกัน ความทรงจำสมัยเด็กเมื่อนึกถึงวัดจีนแห่งนี้ คือ เย็นสบาย สวยงาม เพราะว่าพื้นของวัดจีนมักจะสร้างด้วยหินอ่อนที่พอเวลานั่งแล้วจะเย็นสบายแม้ในอากาศร้อน สมัยเด็กนั้นโรงเรียนของฉันตั้งอยู่ใกล้กับวัดจีนแห่งนี้ ทำให้ฉันได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยครั้ง วัดจีนที่ฉันรู้จักมักจะมีบรรยากาศไม่แตกต่างกันนัก มีผู้คนจอแจ ขวักไขว่ เสียงดังทั้งเสียงพูดคุย เสียงสวดมนต์ เสียงระฆังดังแข่งกันจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ กลิ่นควันธูปลอยตลบอบอวล คละคลุ้ง ซึ่งผิดกับความทรงจำของฉันที่มีต่อวัดโพธิ์แมนคุณารามแห่งนี้ ถ้าคุณได้ลองมาเยือนจะพบกับความสงบ ร่มรื่น และเย็นสบายอย่างที่ความทรงจำของฉันได้บอกไว้ ฉันจึงชอบสถานที่แห่งนี้มาก เพราะนอกจากความทรงจำของรุ่นฉันที่มีต่อวัดแห่งนี้ ยังรวมไปถึงความทรงจำรุ่นพ่อแม่ของฉันที่มีไม่แพ้กัน เพราะเป็นสถานที่เดท และพาลูกเล็ก ๆ มาเที่ยวที่วัดแห่งนี้ วัดโพธิ์แมนคุณาราามตั้งอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 19 สามารถเดินทางโดยรถส่วนตัวมีทางเข้าสองทาง คือ ถ้ามาทางสาธุประดิษฐ์ก็เข้าทางซอยสาธุประดิษฐ์19ได้เลยแต่ถ้ามาจากฝั่งนี้จะเข้าซอยมาลึกกว่าอีกทางแต่ก็ไม่ไกลนัก และอีกทางฝั่งถนนนราธิวาสราชนครินทร์ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาส24เข้าไปไม่ไกลนักก็จะเจอทางเข้าวัด การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางที่ผ่าน มีรถเมล์สาย 519 102 62 67 77 180 22 หรือเข้าทางซอยนราธิวาส 24 ก็สาย 142 เมื่อเข้าปากซอยมาเล็กน้อยทางซ้ายมือจะพบกับซุ้มประตูใหญ่ที่มี 5 ช่อง พร้อมกับชื่อวัดทั้งสองภาษาไทยและจีน รวมทั้งข้อความภาษาจีนมงคลบนซุ้มประตูที่ว่า ฟ้าฝนดี ประเทศมั่นคง และประชาชนผาสุก รับพรกันตั้งแต่หน้าประตูเลยทีเดียว ในสมัยก่อนท้องที่ละแวกนี้ไม่ได้มีแค่ตึกรามบ้านช่อง คอนโดตึกสูงเหมือนในปัจจุบัน ยังคงมีชาวบ้าน พื้นที่ไร่สวนให้เห็นอยู่ตามธรรมดาของวิถีชีวิตคนไทยที่พึ่งการทำไร่ทำนาเป็นหลัก จึงไม่แปลกที่คำอวยพรแรกจะกล่าวถึงฝนฟ้าอากาศก่อนเป็นสำคัญ เมื่อผ่านพ้นซุ้มประตูหน้ามา ก็จะเป็นลานกว้างสามารถจอดรถได้ แต่คนจะนิยมจอดที่ลานกว้าง ลานจอดด้านหน้าซุ้มประตู จึงไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาที่จอดรถ ถึงแม้ว่าจะวัดจะอยู่ในตัวเมืองแต่ผู้คนไม่พลุกพล่าน ลานจอดรถสามารถรองรับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี สะดวกสบายจึงไม่ต้องกังวล เมื่อผ่านลานกว้างมาจะเจอกับวิหารหน้าอุโบสถตามสไตล์วัดจีนอื่น ๆ แค่เดินเข้ามาในวิหารก็คลายร้อนจากที่เราเดินตากแดดผ่านลานกว้างมาได้จริง ๆ ภายในวิหารทั้งสีมุมจะเป็นที่ตั้งประดิษฐานของท้าวจตุโลกบาล ตรงกลางมีพระศรีอริยเมตตรัยที่มีพระวรกายอ้วน บางคนจะเข้าใจผิดว่าคือ พระสังกัจจายน์ รวมทั้งตัวฉันเองที่พึ่งจะมารู้เมื่อโตแล้วนี่เอง การได้ศึกษาเรื่องน่ารู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนมาเที่ยวชมก็ช่วยให้เราดื่มด่ำในสิ่งนั้น ๆ ได้ดีกว่ามากเลยทีเดียว ปัจจุบันการหาข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ช่างง่ายกว่าสมัยก่อนมาก เพียงแค่นิ้วจิ้มก็พบกับข้อมูล รีวิวรวมเรื่องราวให้เราได้ศึกษาก่อนมา ช่างเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวสายค้นหาอย่างเรา จากวิหารผ่านเข้ามาก็จะเจออุโบสถของวัดอยู่ตรงหน้า แต่ด้านหลังถ้าหันหลังกลับไปจะพบกับ พระเวทโพธิสัตว์ ซึ่งเทพเจ้าภายในวิหารเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเป็นเทพเจ้าผู้ปกป้อง คุ้มครอง ภยันตภัยร้ายต่าง ๆ จึงได้อยู่ส่วนหน้าเพื่อปกป้อง การไปกราบไหว้เพื่อเป็นการขอพรให้พวกท่านช่วยคุ้มครอง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากเรา ถ้าใครต้องการแก้ปีชงที่วัดแห่งนี้ก็มีบริการ ซึ่งจัดไว้อยู่ในส่วนหน้า ส่วนวิหารแห่งนี้นั่นเอง ภายในอุโบสถอนุญาตให้เราขึ้นไปไหว้กราบสักการะองค์พระพุทธวัชรโพธิคุณ ที่มีพระวรกายคล้ายศิลปะไทย แต่ครองจีวรแบบจีน ถ้ามาตรงกับเวลาสวดมนต์ของพระจีนที่นี่ก็สามารถร่วมสวดพร้อมท่านได้ในอุโบสถ ทางวัดจะจัดที่นั่งให้เราร่วมสวด หรือฟังบทสวดมนต์ได้ด้วย รอบ ๆ วัดขอแนะนำให้เดินชม เพราะมีปะติมากรรมที่สวยงาม ทั้งประตูฝังมุก อาคารทรงจีนหลังคาแอ่น ทางเดินที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบจีน ได้เข้าไปชมเหมือนหลุดไปอยู่ในหนังจีนกำลังภายในช่างน่าตื่นตาตื่นใจ วัดโพธิ์แมนคุณาราม เปิดให้ผู้คนทั่วไปได้เข้ามาสักการะ เยี่ยมชมได้ทุกวัน ถ้าใครชอบท่องเที่ยวสายบุญต้องห้ามพลาด วัดจีนในเมืองใหญ่ที่นับวัน ๆ จะหาได้ยากลงทุกที ในยุคที่มีแต่ตึกสูงเบียดบังวัฒนธรรมโบราณ อันควรค่าแก่การอนุรักษ์ และยึดเหนี่ยวจิตใจ ภาพประกอบโดย นักเขียน(Buakhow)