ประสบการณ์การปีนเขาที่แสนปวดขา ปวดเข่า เพื่อแลกมากับวิวที่สวยงาม แสนตราตรึงใจ กิจกรรมแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถของเรายิ่งนัก และในวันนี้ผมก็ได้มีประสบการณ์การปีนเขาที่เรียกได้ว่าท้าทายขีดจำกัดร่างกายผมมาก เนื่องจากตัวผมนั้นชอบไปทะเล ชอบพาย ดำน้ำดูปะการัง แต่ในครั้งนี้ผมเรียกการปีนเขาเพื่อเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับตัวผมเอง และสถานที่ที่ผมเลือกนั้นก็ไม่ใกล้ไกลจากกรุงเทพมากนัก และเส้นทางการปีนก็ไม่ได้ยากด้วย (จริงหรอ?) ที่แห่งนั้นก็คือเขาล้อมหมวกเขาล้อมหมวก เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่กลางทะเล มีความสูงโดยวัดจากระดับน้ำทะเล 900 ฟุต โดยกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นผู้ดูแล และบนยอดเขามีมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระบรมสารีริกธาตุ ให้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย ทั้งยังสามารถชมความงดงามของอ่าวทะเล 3 อ่าว ได้แก่ อ่าวประจวบ อ่าวน้อย และอ่าวมะนาว แบบ 360 องศา เรียกได้ว่าถ่ายรูปกันได้ทุกมุมเลยทีเดียวการเดินทาง: การมาที่เขาล้อมหมวกนั่นไม่ยากเลย ส่วนตัวผมเลือกขับรถส่วนตัวจากกรุงเทพฯมาประจวบคีรีขันธ์ โดยเดินทางบนเส้นพระราม 2 ตรงไปเรื่อย ๆ ตามถนนเพชรเกษมลงสู่ภาคใต้ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง เท่านั้น (แต่ถ้าวันไหนรถติดแถวพระราม 2 หนัก ๆ ก็จะนานหน่อย)วันเวลาเปิด-ปิด : เขาล้อมหมวกจะเปิดนักท่องเที่ยวได้ปืนขึ้นไปบนยอดเขาตั้งแต่เวบา 06.00 – 10.30 น. แต่เขาล้อมหมวกจะเปิดเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น สามารถสอบข้อมูลได้ที่เบอร์: 032-611-017 ต่อ 60202, 60215 / 080-373-1876สำหรับสิ่งของที่ต้องเตรียมมานั้นมีดังนี้รองเท้าหุ้มส้น หรือ รองเท้าผ้าใบ เวลาที่ปีนเขานั้น การใส่รองเท้าผ้าใบจะใช้ให้เรายืดเกาะแน่น และลดการเกิดอุบัติเหตุได้ ถุงมือ จะช่วยให้เชือกไม่บาดมือเราได้ เวลาที่ต้องไต่เชือกขึ้นไปบนยอดเขา แต่หากใครที่ไม่มีถุงมือ ทางเจ้าหน้าที่มีถุงมือขายในราคา คู่ละ 20 บาท น้ำดื่ม อันนี้สำคัญมาก เพราะระหว่างทางและบนยอดเขาไม่มีเซเว่นนะจ๊ะ ดังนั้นงานนี้เสียเหงื่อเยอะแน่หลังจากที่เราเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมที่จะปีนขึ้นไปบนยอดเขาล้อมหมวกกัน โดยเส้นทางแรกนั้นจะเป็นขั้นบันไดขึ้นไปก่อนสักระยะนึง แต่บอกไว้ก่อนเลยว่าบันไดชันพอสมควร ปวดเข่าแน่งานนี้ แต่ก็ไม่ได้ลำบากจนเกินไป และเมื่อเดินขึ้นบันไดมาสักระยะนึงก็ถึงจุดที่ต้องไต่เชือกปืนขึ้นไปแล้ว และถุงมือนี่แหละจะเป็นตัวช่วยอย่างดีในการไต่เชือกขึ้นไป เพื่อไม่ให้เชือกบาดมือเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้เราจับเชือกได้แน่น มั่นคงขึ้นอีกด้วยเมื่อเราไต่เชือกมาเรื่อย ๆ จะถึงจุดที่เราต้องเกาะหินปีนขึ้นไปอย่างกะสไปเดอร์แมน และ ไต่เชือก และ เกาะหิน สลับกันไป และเราก็เกือบจะถึงยอกเขากันแล้ว แต่ในภาพที่เห็นอยู่นี้ยังไม่ใช่ทิวทัศน์บนยอดเขาล้อมหมวกนะ แต่เป็นทิวทัศน์รอบ ๆ ต่างหาก แต่ก็เป็นจุดให้เราพักเหนื่อยได้ และยังเป็นสัญญาณที่ดีที่บอกให้เรารู้ด้วยว่า ใกล้ถึงยอดเขาแล้วและในที่สุดผมก็ปีนมาถึงยอดเขาล้อมหมวกแล้วครับ โดยรอบ ๆ จะสังเกตเห็นบรรยากาศของทะเลสีฟ้าครามที่สวยงาม และสายลมที่พัดผ่านตัวเราให้หายเหนื่อย (เกือบจะเป็นกลอนล่ะ) บนยอดเขานั้นมีสิ่งที่สะดุดผม จนทำให้เกิดคำถามในใจขึ้นมาว่าเขาแบกศาลาขึ้นมาบนยอดเขาล้อมหมวกได้ยังไงเนื่ย ?ซึ่งผมก็คิดว่าคงจะใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศขนขึ้นมาแน่ ๆ จากนั้นก็รีบไปดูทันทีว่าที่แห่งนั้นในศาลามีอะไรอยู่บ้าง และก็พบว่าศาลานี้คือ มณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อให้นักท่องเที่ยวอย่างผมได้มากราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตจากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาสำหรับการเก็บภาพบรรยากาศกันแล้วหลังจากที่ผมได้ถ่ายรูปบรรยากาศต่าง ๆ ของเขาล้อมหมวกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องลงจากเขาแล้วละครับ โดยเวลาในขณะนั้นจะเป็นเวลา 12.00 น. พอดี และเหล่าพี่ ๆ ทหารก็จะให้นักท่องเที่ยวทุกคนลงจากเขา และขอบอกเลยนะครับว่าขาลงนั้นยากกว่าขาขึ้นเยอะมากกกก อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมว้าวมากคือมีค่างแว่นเยอะแยะเต็มไปหมด มีลักษณะคล้ายลิงนั้แหละ มีขอบตาสีขาวเหมือนแว่นตา หน้าตาน่ารัก ไม่ก้าวร้าวเหมือนลิงแสม ซึ่งเหล่าค่างแว่นนั้นจะอยู่กันเยอะมากบนต้นไม้ใหญ่ที่ตีนเขาล้อมหมวกและที่นี้ยังมีศาล"เจ้าพ่อเขาล้อมหมวก" ไว้ให้เราได้สักการะบูชากันอีกด้วย แถมยังมีเรื่องราวชีวประวัติแบบสั้น ๆ เขียนไว้บนป้ายหินหน้าศาลของท่านไว้ โดยกล่าวไว้ว่าเจ้าพ่อเขาหมวกหมวก ท่านเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เดินทางโดยเรือสำเภา ตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยท่าได้สร้างหลักปักฐานและสร้างคุณงามความดีไว้มากให้กับแผ่นดินสยาม จนเป็นที่เคราพนับถือของผู้คน ตราบจนสิ้นอายุขัยได้ 97 ปี ด้วยพลังบารมีของท่านที่ได้สะสมมานั้นส่งผลให้ดวงวิญญาณสิงสถิตย์เป็นเทพมเหสักข์ ณ ขุนเขาล้อมหมวกแห่งนี้หากต้องการมีประสบการณ์การใช้ชีวิต ก็อย่ารอช้า รีบหยิบกระเป๋าแล้วออกไปใช้ชีวิตกัน ผมต้องขอขอบคุณที่อ่านเรื่องราวการปืนเขาล้อมหมวกในครั้งนี้ด้วยนะครับ และผมขอฝากติดตามผลงานชิ้นต่อไปของผมด้วยนะครับ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าครับ สวัสดีครับภาพถ่ายโดย NaiToey (นักเขียน)