พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานมาประทับแรม ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงงาน และเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาสต่างๆ การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย ภูมิประเทศสวยงาม สำหรับการเดินทาง การมาที่พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์สามารถโบกรถสองแถวสีแดงขึ้นมาได้ หรือไม่ก็นั่งรถส่วนตัวมาก็ได้ เพราะที่นี่มีลานจอดรถไว้รองรับสำหรับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว แล้วแต่สะดวกเลยจ้า ก่อนจะเข้าชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เราก็จะเจอป้ายด้านหน้าพระตำหนักฯก็สามารถ เข้าไปก็จะเจอจุดจำหน่ายบัตร จากนั้นก็ไปตามเส้นทางที่ให้เดินชมกัน ซึ่งตลอดเส้นทางนั้นก็มีดอกไม้นานาพรรณให้ชื่นชมความสวยงาม มาชมดอกไม้ที่หลากหลายสี หลากหลายสายพันธุ์ในพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์กันเลย ดอกไม้สีขาว ดอกไม้สีม่วง ที่นี่ดอกไม้เยอะมาก บางดอกก็ไม่รู้จัก แต่สวยมาก แล้วแต่ละฤดูกาลก็จะปลูกไม่เหมือนกันด้วย ที่นี่มีดอกกุหลาบที่เป็นจุดเด่นด้วย ซึ่งมีดอกกุหลาบหลากหลายพันธุ์อีกมากมาย หลากหลายสีอีกต่างหาก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าแต่ละพันธุ์ มีพันธุ์อะไรกันบ้างได้แต่เก็บรูปอย่างเดียว ดอกกุหลาบสีชมพูมองดูสีสดใส ดอกกุหลาบช่อโตๆในอ่าง ดอกกุหลาบสีแดงๆบานสะพรั่ง ดอกกุหลาบสีเหลืองก็สวยไม่น้อยหน้า ดอกกุหลาบสึม่วงก็ไม่ยอมแพ้ ดอกกุหลาบสีแดงช่อน้อย สวยๆ น่ารักมากมาย จากนั้นก็เดินไปต่อที่อ่างเก็บน้ำ ระหว่างทางก็จะเจอพลับพลาผาหมอนสร้างด้วยไม้สักทอง ใช้เป็นที่ประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถและเสวยพระกระยาหารในบางครั้ง ร่มรื่นมากๆ สามารถเป็นที่พักระหว่างทางได้ดีเลย ติดๆกันก็จะเป็นสวนเฟิร์นธรรมชาติด้วย ดอกโคมไฟญี่ปุ่นระหว่างทาง ขึ้นมาถึงบริเวณน้ำพุทิพย์ธาราของปวงชนแล้ว ที่นี่ถือว่าเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ในบริเวณพระตำหนักภูพิงค์อีกด้วย ซึ่งภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำสวยงามมาก ทั้งยังมีดอกไม้ประดับอยู่ทุกมุม มีดอกไม้หลากสี หลายๆชนิด ดอกสีม่วง ดอกกะหล่ำประดับ ก่อนจะออกจากโซนน้ำพุ ที่นี่มีร้านอาหารประเภทของว่างด้วยนะ จากนั้นเดินมายังทางออก ก็จะเป็นทางที่เข้ามาตรงจุดจำหน่ายบัตรที่เราได้เข้ามา คงจะต้องอำลาพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์แล้วละ หากใครมาเชียงใหม่ เมื่อได้แวะวัดพระธาตุดอยสุเทพแล้วก็ลองขึ้นมาชมพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ดู ถือว่าได้พักผ่อน ผ่อนคลายจากความเครียดได้เยอะเลย ส่วนใครที่ชอบดอกไม้ต้องไม่ผิดหวังแน่ๆ เพราะมีอยู่ทุกทิศทุกทาง ทั้งนี้การเดินทางก็สะดวกมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการมาเที่ยวเชียงใหม่ สามารถเดินทางเข้ามาชมพระตำหนักฯได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 16.-30 น. ยกเว้นช่วงเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับแรม คนไทยเสียคนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท เท่านั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก