นอกจากประเทศมาเลเซียจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียนที่มีความสวยงามทั้งทางธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่มีความสวยงามยิ่งแล้ว ประเทศมาเลเซียโดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่สุดของโลกอยู่พอสมควร เช่น ตึกแฝดเปโตรนาส ที่ปัจจุบันยังคงเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลกอยู่ รวมไปถึงการมีเสาธงชาติที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งสูงประมาณ 95 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณจตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square) หรือที่ชาวมาเลเซียเรียกกันว่า Dataran Merdeka ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ถือเป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ของประเทศมาเลเซีย เนื่องจากเป็นเหมือนอนุสรณ์สถานในการประกาศอิสรภาพของประชาชนชาวมาเลเซียทั้งประเทศ ปัจจุบันจัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ซึ่งนอกจากการมาเยี่ยมชมเสาธงชาติที่สูงที่สุดในโลกแล้ว ตลอดอาณาบริเวณรอบ ๆ จัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญทางราชการพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ ตลอดจนความงดงามของกลุ่มอาคารสไตล์โคโลเนียล ที่มีความโดดเด่นจนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ในปัจจุบัน จัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งที่ประเทศมาเลเซียได้รับเอกราชคืนจากประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1957 และธงชาติของมาเลเซียก็ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ซึ่งจากข้อมูลการท่องเที่ยวของกรุงกัวลาลัมเปอร์พบว่า บริเวณสนามหญ้าของจัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้ในอดีต คือสนามกีฬาคริกเก็ต และเป็นที่ตั้งสมาคมกีฬาคริกเก็ตของนายทหารระดับสูงและกลุ่มชนชั้นปกครองชาวอังกฤษ ที่เข้ามาเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมในยุคนั้น ซึ่งปัจจุบันยังคงหลงเหลือร่องรอยของสนามกีฬา และ อาคารของสมาคมที่มีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมในยุคทิวดอร์ของอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันนี้กลายเป็นที่ทำการของ Royal Selangor Club ในส่วนของบริเวณตรงข้ามของอีกฝั่งสนาม คือที่ตั้งของกลุ่มอาคารโบราณที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล อันถือเป็นการผสมผสานรูปแบบทางสถาปัตยกรรมระหว่างอินเดีย อาหรับ และมาเลเซียได้อย่างลงตัวและน่าดูชม ทั้งลักษณะโครงสร้างและสีสันของตัวอาคาร ที่ช่วยทำให้จัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้เต็มไปด้วยประกายความงดงามขึ้นอีกหลายเท่าตัว โดย หนึ่งในกลุ่มอาคารที่มีความโดดเด่นก็คือ อาคารสุลต่าล อับดุล ซาหมัด (Sultan Abdul Samad) ที่สร้างตั้งแต่ปี 1897 หรือประมาณ 120 ปีมาแล้ว โดยตัวอาคารประกอบด้วยยอดโดมและหอนาฬิกาที่มีความสูงสง่า และเต็มไปด้วยลวดลายทางสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม ซึ่งหากเดินไปทางบริเวณด้านหลังหรือบริเวณข้าง ๆ ของตัวอาคารนี้ จะพบว่ายังมีอาคารโบราณอีกมากมายให้เยี่ยมชม ซึ่งเหมาะกับการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเวลาค่ำคืนมีการเปิดไฟและน้ำพุดนตรีที่มีความสวยงามไม่แพ้บรรยากาศในตอนกลางวัน สำหรับบริเวณใต้ฐานของธงชาติมาเลเซียนั้น เป็นสถานที่สำหรับจัดนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาแห่งนี้ เนื่องในโอกาสวันประกาศอิสรภาพของประเทศ นอกจากนั้นบริเวณฝั่วของธงชาตินี้ยังเป็นที่ตั้ง ของหอศิลป์แห่งชาติและพิพิธภัณฑ์สิ่งทอของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีชิ้นงานศิลปะมากมายให้ชื่นชม โดยการเดินทางมาท่องเที่ยวและบริเวณจัตุรัสเมอร์เดก้าแห่งนี้สามารถเดินทางมาได้โดยใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งสามารถขึ้นได้ที่สถานี KL sentral และลงที่สถานี Masjid Jamek ภาพถ่ายโดยผู้เขียน