มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนทั้งที ไม่มาปางอุ๋งก็เหมือนมาไม่ถึง "ปางอุ๋ง" สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมืองสามหมอกกลางขุนเขา ปางอุ๋งมีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นอ่างเก็บน้ำบนที่สูง อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่บอกว่าเป็นอ่างเก็บน้ำบนที่สูงนี่ สูงจริง ๆ ค่ะ สูงจนเราสงสัยว่า เขาขึ้นไปสร้างอ่างเก็บน้ำบนที่สูงขนาดนั้นกันได้ยังไงกัน และด้วยความที่อยู่บนที่สูงกว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้อ่างเก็บน้ำปางอุ๋งมีสภาพภูมิทัศน์เป็นแอ่งน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ มีฉากหลังเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ทำให้บางคน ถึงกับขนานนามที่แห่งนี้ว่า "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" กันเลยทีเดียว ที่มาของชื่อ "ปางอุ๋ง" ก็คือ มาจากลักษณะภูมิประเทศของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ กล่าวคือ คำว่า “ปาง” หมายถึงที่พักของคนทำงานในป่า และ “อุ๋ง” เป็นภาษาเหนือ หมายถึงที่ลุ่มต่ำ เมื่อนำมารวมกัน จึงน่าจะหมายถึงที่พักริมอ่างเก็บน้ำนั่นเองค่ะ การเดินทางมาอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง ห่างจากเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 42 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น หรือถ้าจะมาจากเมืองปาย ก็ประมาณ 117 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง การเดินทางมานั้น ดูเหมือนจะไม่ไกล แต่ด้วยที่แม่ฮ่องสอนมีลักษณะภูมิประเทศเป็นเมืองกลางขุนเขา ทำให้เราต้องเลี้ยวลัดเลาะอ้อมเขามาจนมาถึงเมืองสามหมอก แม่ฮ่องสอน เมื่อมาถึงแม่ฮ่องสอนแล้ว เราต้องขับขึ้นเหนือขึ้นไปอีก ขึ้นไปบนอ่างเก็บน้ำอีก เส้นทางค่อนข้างทรหดคดเคี้ยวและสูงชันเอาเรื่อง แต่ถ้าผ่านโค้งมาจนถึงแม่ฮ่องสอนได้แล้ว ก็คงไม่มีอะไรต้องกังขาในฝีมือของคนขับรถของเราอีกแล้วล่ะค่ะ ลุยต่อกันไปได้เลย *ข้อควรระวัง* เส้นทางไปอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง นอกจากจะถนนคดเคี้ยวและชันแล้ว บางช่วงถนนก็แคบ เวลารถจะสวนกันต้องคอยชะลอให้ทางกันไปทีละคัน ซึ่งอาจส่งผลให้กำลังในการส่งรถขึ้นที่สูงชันอาจติดขัดได้ ดังนั้นก่อนเดินทางควรเช็คสภาพรถให้ดี ถ้ารถพร้อม คนก็พร้อมแล้ว เราก็ไปกันเลยค่า เราเดินทางออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดี แต่โชคร้ายที่วันที่เราไปนั้น อากาศไม่หนาว แถมเจอฝนตกหนักอีก ตอนนั้นเราก็ถอดใจแล้ว เพราะว่าถ้าฝนตกก็คงจะไม่มีไอหมอกลอยเหนือน้ำ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ มาถึงแม่ฮ่องสอนทั้งที ถ้าไม่ไปปางอุ๋งก็เห็นว่าจะเหมือนไปไม่ถึงแม่ฮ่องสอน ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางต่อกันเลย เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงบ้านรวมไทย เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่อยู่อาศัยใกล้ ๆ กับอ่างเก็บน้ำปางอุ๋ง เมื่อมาถึง เราจะขับผ่านกลางหมู่บ้านมาเรื่อยๆ จะเจอวัดอยู่ทางซ้ายซึ่งจะมีลานจอดรถขนาดใหญ่อยู่ ถ้าไปช่วงเทศกาล เราแนะนำให้จอดรถไว้ที่นี่ แล้วเดินต่อเข้าไปถ่ายรูปกับอ่างเก็บน้ำด้านใน เพราะด้านในที่จอดจะเต็มแน่นเอี้ยดกันเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าใครที่อยากเข้าไปพักและกางเต็นท์ในส่วนของอุทยาน ก็สามารถขับรถตรงเข้าไปได้เลย โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ต้นทาง และจ่ายค่าธรรมเนียมอุทยานที่ป้อมที่ทำการด้านในได้เลยค่ะ เราไปถึงตอนพระอาทิตย์ขึ้นพอดี ๆ แต่ด้วยเป็นวันที่ท้องฟ้าปิด เราเลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์และลำแสงอ่อน ๆ ยามเช้าส่องผ่านหมอกที่เกิดจากความเย็นประทะกับไออุ่นจากผืนน้ำที่ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ ตามแบบที่เราวาดฝันกันไว้ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีอยู่ เพราะภาพปางอุ๋งที่เราได้เห็น เป็นปางอุ๋งในวันที่ผ่านฝนตกทั้งคืน ภาพตรงหน้าจึงเป็นภาพทิวเขาและต้นไม้เขียวชอุ่ม ชุ่มไปด้วยหยาดฝนที่ตกลงมาตลอดคืน เรียกได้ว่า ปางอุ๋งชุ่มฉ่ำกันเลยทีเดียว เมื่อเราเดินถ่ายรูปรอบ ๆ บริเวณอ่างเก็บน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจึงเดินไปต่อคิวรอนั่งแพไม้ไผ่กัน การนั่งแพไม้ไผ่ชมบรรยากาศรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำปางอุ๋งถือเป็นไฮไลท์สำคัญของที่นี่ พลาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ แพไม้ไผ่นี้ ลำหนึ่งจะนั่งได้มากที่สุดแค่ 2 คนเท่านั้น (ไม่รวมพี่คนพาย) แต่ถ้าหากมีเด็กตัวเล็ก ๆ ด้วย ก็สามารถนั่งเป็น 3 คนได้ เพราะแพมีขนาดค่อนข้างเล็ก เที่ยวละ 200 บาท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที/รอบ นั่งกินลมชมบรรยากาศ ปล่อยกายปล่อยใจเพลิน ๆ ไปกับสายน้ำ ถ่ายรูปเช็คอินสวย ๆ ว่าเราได้เดินทางมาถึงปางอุ๋งแล้ว และที่สำคัญ ถ้าใครโชคดีหน่อย อาจนั่งแพไปแล้วได้เจอดาราดังของปางอุ๋งแห่งนี้ นั่นก็คือ หงส์พระราชทาน ซึ่งเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวอย่างละ 1 คู่ แต่น่าเสียดาย เราโชคร้ายไปหน่อย วันที่เราไป ดาราไม่ออกมาโชว์ตัว สงสัยจะมัวนอนหลบฝนเมื่อคืนอยู่แน่ ๆ ในส่วนของที่พัก ถ้าใครสนใจอยากมาพักที่ปางอุ๋ง ที่นี่จะมีที่พักเป็นเหมือนกระต๊อบเล็ก ๆ อยู่ไม่กี่หลัง และเห็นเหมือนว่ากำลังจะมีโครงการสร้างบ้านพักแบบก่ออิฐอยู่ในอนาคต อาจจะต้องรอติดตามอีกทีค่ะ แต่ถ้าใครอยากมานอนโฮมสเตย์ ที่นี่ก็มีบ้านชาวเขาบ้านรวมใจใกล้ ๆ อ่างเก็บน้ำปางอุ๋งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักอยู่หลายแห่ง สามารถไปเดินดูในหมู่บ้านได้เลย มีอยู่ค่อนข้างเยอะเลยล่ะค่ะและไฮไลท์สำคัญอีกอย่างก็คือ การไปนอนกางเต็นท์ในจุดกางเต็นท์ของอุทยานถ้ำปลา - น้ำตกผาเสื่อ เป็นส่วนของอุทยานที่อยู่ติดกับโครงการพระราชดำริปางตอง 2 เราสามารถเดินต่อเข้าไป หรือขับรถเข้าไปเที่ยวชมได้ ที่นี่เราจะสามารถนอนกางเต็นท์ทั้งแบบที่นำมาเอง และเต็นท์ของที่อุทยานเตรียมเอาไว้ก็ได้ โดยการจะเข้ามาในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ (ผู้ใหญ่ 20 บาท รถยนต์ 50 บาท ถ้านำเต็นท์มาเองต้องเสียค่าบำรุงสถานที่คนละ 30 บาท) และถ้าใครสนใจอยากเช่าเต็นท์อุทยานก็สามารถติดต่อขอเช่าพร้อมเครื่องนอนได้ ราคาหลังละประมาณ 100-200 บาท มาปางอุ๋งทั้งทีต้องลองนอนกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำเพื่อรอชมไอหมอกลอยเหนือน้ำยามเช้ากันสักครั้งดูค่ะ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 080 847 8456 หรือ 087 661 8594 เครดิตรูปภาพ : ภาพประกอบโดยนักเขียน :)