หลังจากห่างหายจากการเดินทางไปนาน ในที่สุดการเดินทางก็กลับมาหาเราอีกครั้งกับทริป 2 คืน 3 วัน @น้ำตกเปรโตะลอซู+ยอดมะม่วงสามหมื่น อ.อุ้มผาง จ.ตาก เมื่อวันที่ 15-17 ก.ย โดยการชักชวนของเพื่อนคนหนึ่งที่โลกเหวี่ยงมาให้เจอจากการเดินทางเช่นกัน น้ำตกเปรโตะลอซู หรือ น้ำตกปิตุ๊โกร น้ำตกรูปหัวใจที่ใครๆ ก็ตามหากัน ตั้งอยู่ใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก ติดชายแดนไทย-พม่า ค่าเข้าคนละ 70 บาท และการมาพิชิตยอดเขาและน้ำตกที่นี่ จำเป็นจะต้องติดต่อลูกหาบเพื่อนำทางสู่ยอดเขา กลุ่มของเราใช้บริการลูกหาบของที่นี่เลย อิงดอยรีสอร์ท หรือใครดุ่มๆ มาก็สามารถมาติดต่อหาลูกหาบได้ที่ทางเข้าได้เช่นกัน Day 1 Let's Goพวกเราเดินทางกันทั้งหมด 9 คน หารเฉลี่ยกันคนละ 3000 บาท สำหรับค่าอาหาร ค่ารถ ค่าลูกหาบ แต่ละคนต่างคนต่างมาเพื่อไปสู่จุดหมายเดียวกัน พวกเราเดินทางกันในตอนมืดของวันที่ 14 ก.ย. 66 เวลา 20.00 น. ล้อหมุนออกจากกทม. ขึ้นรถได้ก็หลับยาวตลอดทาง ถึงอ.อุ้มผางก็เช้าพอดี เราแวะกินข้าวกันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งจากนั้นเดินทางต่อเพื่อไปเตรียมความพร้อมที่รีสอร์ทที่ติดต่อไว้ จัดกระเป๋า เปลี่ยนรองเท้าและของที่จะให้ลูกหาบช่วยแบกขึ้นไปและจากจุดนี้พวกเราต้องนั่งรถกันไปอีก 1 ชม. เพื่อไปยังทางเดินเข้าน้ำตก เราเริ่มเดินกัน 11.30 น. เห็นทางเข้าก็บันเทิงแล้ว รู้เลยว่า สนุกแน่งานนี้ ตรงปก ไม่จกตา เละไม่จกตาเลยแต่จกรองเท้าให้จมไปกับดินโคลนแทน / ฮาาจากทางเข้าถึงแคมป์ระยะทาง 4 กม. ที่เละเทะ เลอะเทอะ ลุยน้ำ ลุยโคลน แต่สนุกมาก ทุกคนพาตัวเองมาลำบากแต่บนหน้ากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแต่จะว่าไม่ได้นะ เห็นทางเละเทะ เลอะเทอะแบบนี้กลับมี เซเว่น(ดอย) ที่บอกเลยว่าในที่ห่างไกลติดชายแดนแบบนี้มันเปรียบเสมือนเซเว่นในมืองหลวงเลยแหละ มีร้านค้าเล็กๆ รอคอยความกระหายน้ำของทุกคนอยู่เป็นระยะ 15.30 น. ไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าการได้ตะโกนกลางป่าออกไปว่า ถึงแล้วโว้ยยยยยยยยย แต่เป็นถึงที่แปลว่า ถึงแคมป์นะ ไม่ใช่ยอดเขาหรือน้ำตกใดๆ พวกเราช่วยกันกลางเต็นท์ ทำอาหารและล้อมวงนั่งกินด้วยกัน พูดคุย แนะนำตัวและแยกย้ายกันพักผ่อนในตอนมืด เพื่อเก็บแรงไว้เดินขึ้นยอดเขาและตามหาหัวใจกันต่อพรุ่งนี้เช้า แคมป์ที่นี่มีห้องน้ำประมาณ 10 กว่าห้อง แต่ต้องพกไฟฉายและดูกลอนประตูให้ดีนะ Day 2 เช้านี้พวกเราจะไปพิชิตยอดเขากัน ! พวกเราตื่นเตรียมตัว เตรียมเสบียงสำหรับมื้อเที่ยงกันแต่เช้าพร้อมฝนปรอยๆ เราเองเตรียมตัวอย่างดี พร้อมลุยกับระยะทาง 7 กม. แต่หารู้ไม่ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้ากำลังจะเจออะไรและเมื่อทุกคนพร้อม การเดินทางก็พร้อม ! เราเดินฉับๆ พร้อมลุยจากแคมป์ถึงทางขึ้นยอดเขา แต่นั่นสำหรับทางราบ ไม่ใช่กับเส้นทางที่กำลังจะท้าทายขึ้นต่อจากนี้ที่เราเงยหน้าขึ้นมาเจอและพบว่า มันชันและชัน ขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นเราช้าสุดในทีม เดินไปพักไป ในขณะที่เพื่อนห่างออกไปแล้ว ทางไม่ได้โหดขนาดนั้น แต่เป็นเราเองที่ร่างกายไม่พร้อม เราหายใจไม่ทันและมึนหัวนิดหน่อยและที่สุดแล้วเราไม่ต้องการเป็นภาระให้ใครเลยตัดสินใจบอกเพื่อนคนหนึ่งที่คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลังว่า เราไม่ไหว ให้ไปกันเลย สุดท้ายเราเดินกลับมานอนเฝ้าเต็นท์ เล่นน้ำตกที่มีอยู่ใกล้ๆ แคมป์ รอเพื่อนๆ กลับมา จนใกล้มืดและจนฟ้ามืด เพื่อนๆ ถึงกลับมาที่เต็นท์กัน มีเพียงพี่วี ผู้อาวุโสที่สุดในทีมที่สามารถไปจนถึงยอดจุดสูงสุดและสิ้นสุดสำหรับยอดเขาแห่งนี้ที่เรียกกันว่าดอยสามหมื่นส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ปักหลักกันอยู่ที่จุดชมวิว หมื่นห้า เพราะด้วยสภาพอากาศวันนั้นค่อนข้างปิด หมอกลงทำให้มองไม่เห็นวิวที่ควรเห็นเลยลงจากยอดเขาได้ เพื่อนๆ ก็พากันเดินไปยังน้ำตกเปรโตะลอซูกันต่อ เพื่อไปตามหาหัวใจของพวกเขากัน และพวกเราก็จบค่ำคืนนั้นด้วยความเมื่อยล้า (ของเพื่อนๆ) ส่วนเรานั่งชิมน้ำเทวดาที่มีฤทธิ์ทำให้ฉันออกจะมึนๆ นิดหน่อย Day 3 ร่ำลามาทางไหนกลับทางนั้น เพื่อนเราคนหนึ่งโดนดินโคลนจกรองเท้าไปข้างหนึ่ง เธอจุ่มมือไปเก็บมันขึ้นมาแต่ก็พบว่า อ้าว ไม่ใช่รองเท้าชั้น / ฮาาาา ดินที่นี่คงจกรองเท้าของใครไปหลายคนแล้วสินะ เราต่างคนต่างเดินจนถึงปลายทางกันทีละคน สองคน พักพอหายเหนื่อย ล้างเนื้อ ล้างตัวแล้วก็ขึ้นรถที่มารออยู่แล้วกลับไปเปลี่ยนสีผ้า ล้างตัวกันที่รีสอร์ท พวกเราเรียบร้อยเตรียมตัวกลับ กทม. กันในเวลา 15.00 น. อ่อ และจากที่หารเฉลี่ยกันไว้คนละ 3000 วันกลับยังได้คืนกันอีกคนละร้อยกว่า สรุปการมาของเราครั้งนี้ไปไม่ถึงจุดหมายใดๆ ไม่ได้ไปร่วมเหนื่อย ร่วมหอบกับเพื่อน ๆ อย่างที่ควร แต่ทุกการเดินทางที่ผ่านมาของเรา มันสอนเราอย่างหนึ่ง ว่าบางสถานที่ก็เลือกคนเข้าและยอดเขาแห่งนี้ก็ปัดเราตกก่อนเพื่อนเลย / ฮาาา จากการโฟกัสที่จุดหมายจึงกลับมาโฟกัสกับอย่างอื่นแทน บางทีการมาของเราอาจไม่ได้มาเพื่อจุดหมาย แต่เป็นการมาเพื่อทำความรู้จักว่า การมีจุดหมายเดียวกันสามารถย่นระยะห่างจากคนแปลกหน้า ให้กลายเป็นเพื่อน พี่และน้องกันได้อย่างง่ายดาย และด้วยความที่เที่ยวคนเดียวมาตลอดการมาครั้งนี้คงอยากให้เราได้รู้จักที่จะปรับตัว ปรับมายเซตเพื่อสร้างความสัมพันธ์ฉันเพื่อนดูบ้างละมั้ง อ่อ สตั๊ดดอยคู่ละ 85 บาท ช่วยชีวิตเราไว้ได้เยอะมาก เกาะแน่นกว่าตีนตุ๊กแกอีก แนะนำเลย ไม้ค้ำนี่ก็ควรมีนะ ช่วยได้เยอะเหมือนกันและทริปนี้กับจุดหมายที่ไปไม่ถึง ทำให้เราค้นพบอีกจุดหมาย ที่ไหนๆ ได้ออกจากบ้าน ทิ้งงานมาแล้วก็ขอไปให้ถึงอีกจุดหมายละกัน เราตัดสินใจไปต่อ หลวงพระบาง อีกหนึ่งจุดหมายในการเดินทางของเรา สามารถติดตามได้ที่ ลุยเดี่ยวเที่ยวหลวงพระบาง จ้าาา เครดิตรูปปกและรูปประกอบโดยผู้เขียนส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้