สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเล่าถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งแรกกับการรถไฟในวันหยุดที่ผ่านของเรา ความรู้สึกต้องบอกว่าคล้ายกับการไปทัศนศึกษาตอนเด็กๆ เลยค่ะ แต่พิเศษตรงที่ได้นั่งรถไฟสไตล์ญี่ปุ่น KIHA183 ท่องเที่ยว โดยเจ้ารถไฟคิฮะก็จะมีรูปโฉมที่ทันสมัย หน้าตาน่ารักตะมุตะมิ ซึ่งทริปนี้ต้องบอกว่าเป็นทริปที่ประหยัดสำหรับเรามากๆ เพียงราคา 1,499 บาท เป็นการท่องเที่ยวสไตล์ Green Tourism โปรแกรมการเดินทางกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา แบบ One Day Trip มาดูกันค่ะ ว่าเราไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จแล้ว รถไฟจะออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง) ประมาณ 07.40 น. มุ่งหน้าสู่สถานีฉะเชิงเทรา เมื่อถึงสถานีรถไฟฉะเชิงเทราจะมีรถบัสปรับอากาศของทีมงานมารอรับ ซึ่งจุดที่เรายืนถ่ายภาพก็คือสถานีฉะเชิงเทราค่ะจุดแรกที่เราจะไปก็คือ การไปกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดประศาสน์โสภณ อำเภอบ้านโพธิ์ ซึ่งท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดฉะเชิงเทรา ถ้าใครที่มาก็จะเห็นผู้คนที่นับถือและศรัทธามากราบไหว้ขอพรกันอยู่เรื่อยๆ อย่างไม่ขาดสายเลยล่ะค่ะพิกัด : วัดประศาสน์โสภณ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราจุดที่ 2 ศึกษาเรียนรู้การปลูกเมล่อนที่บ้านสวนเมล่อน ต้องบอกว่าถ้าใครที่ชอบรับประทานเมล่อนมาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะภายในของที่นี่เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้ มีโรงเรือนให้เยี่ยมชม รวมถึงเป็นจุดจำหน่ายผลเมล่อนสด และสินค้าผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเมล่อน ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นไวน์ รสชาติดีทีเดียวเลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ภายในยังมีจุดนั่งพักเย็นๆ มีมุมอาร์ตแกลลอรี่เล็กๆ ให้ถ่ายภาพ มาที่นี่ได้ทั้งความรู้เรื่องเมล่อนและของฝากกลับบ้านแน่นอนค่ะพิกัด : บ้านสวนเมล่อน บ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทราจุดที่ 3 หลังจากที่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราเดินทางไปต่อที่แหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ที่โรงเรียนพระพิมลเสนี จุดนี้ต้องบอกว่าน่าจะเป็นจุดไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยกับการร่วมทำกิจกรรมดีๆ อย่างการปลูกป่าชายเลน เพาะชำธนาคารต้นกล้า ปล่อยปูสู่ป่าชายเลนเพื่อการขยายพันธุ์ลูกๆ หลานๆ ของปู แต่ด้วยพื้นที่ของศูนย์การเรียนรู้มีจำกัดไม่กว้างมาก จึงไม่สามารถทำกิจกรรมได้หมด ภายในบริเวณป่าชายเลนเขียวขจีสดชื่นมากๆ มีป้ายให้ความรู้เป็นระยะๆ มาที่นี่ถือว่าได้ความรู้เรื่องป่าชายเลนและได้เป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมพิกัด : แหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน โรงเรียนพระพิมลเสนี (พร้อม หงสกุล)จุดที่ 4 พวกเราออกเดินทางไปยัง วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่น่าสนใจ เพราะภายในวัดมีจุดต่างๆ ให้ได้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความโดดเด่นของเจดีย์สีทองอร่าม 3 ชั้นที่ยื่นออกไปในทะเล เดินชมสะพานกระจกใส และชมวิวบนหอสูง 12 ชั้น ต้องบอกว่าสายบุญอิ่มอกอิ่มใจกันไปเลยทีเดียวพิกัด : วัดหงษ์ทอง ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทราจุดที่ 5 แวะซื้อของฝาก ตลาดคลองสวน 100 ปี ที่นี่เป็นตลาดเก่าแก่โบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 สืบทอดยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน บริเวณด้านข้างของตลาดมีคลองสะพานข้ามเชื่อมกับจังหวัดสมุทรปราการ ต้องบอกว่าของกิน ของฝาก ขนมโบราณเพียบเลยล่ะค่ะพิกัด : ตลาดคลองสวน 100 ปี ฉะเชิงเทรา หลังจากเที่ยวตลาดเก่าคลองสวนเสร็จ เราก็เดินทางไปขึ้นรถไฟที่จอดรออยู่ที่สถานีฉะเชิงเทราเพื่อจะกลับไปยังสถานีกรุงเทพ แต่ก่อนที่จะเดินทางกลับเจ้าหน้าที่ได้พาพวกเราแวะจอดชมวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำบางประกง หรือจอดให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพนั้นเองค่ะและนี้ก็คือประสบการณ์เรื่องเล่าครั้งแรก เที่ยวไทยไปกับรถไฟสไตล์ญี่ปุ่น KIHA183 กรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา สำหรับเราความรู้สึกคล้ายกับการไปทัศนศึกษาในวัยเด็กอีกครั้ง เป็นการเที่ยวแบบทำเวลาเนื่องจากไปเป็นหมู่คณะ อีกอย่างได้เห็นเพื่อนร่วมประสบการณ์หลายๆ วัยที่มีความชอบคล้ายๆ กัน ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับมิตรภาพใหม่ๆ บางทีเราว่ามันได้อะไรมากกว่าแค่การมาเที่ยว และที่ต้องพูดถึงก็คือ เรื่องของการบริการของทีมงามเจ้าหน้าที่ ทุกคนให้บริการดีมากๆ อาหารอร่อยและอิ่มทุกมื้อตลอดทริปเลย ถือว่าเป็นอีกทริปที่สนุกและประทับใจเลยค่ะ ยังไงฝากติดตามบทความของเราด้วยนะคะ "ไปเที่ยว มาเล่า"ภาพประกอบบทความจากเพจ : ไปเที่ยว มาเล่า (ภาพของตัวนักเขียนเองค่ะ)ข้อมูลเพิ่มเติมเพจไปเที่ยว มาเล่าช่อง Youtube : ไปเที่ยว มาเล่า (Paitiaw malao)บทความอื่นๆ ของไปเที่ยว มาเล่าวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !