“สตูล สงบ สะอาด ธรรมชาติบริสุทธิ์” คำขวัญจังหวัดสตูล ง่าย ๆ สั้น ๆแต่ได้ใจความ เพราะจังหวัดสตูลเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ในภาคใต้ แต่ขอ บอกว่าเรื่องธรรมชาติต้องยกให้ที่นี่เพราะมีทั้งเทือกเขา ถ้ำ น้ำตก ทะเล เกาะต่าง ๆ อีกมากมาย วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้จักกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เป็นอุทยานที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติมาฝากค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นสถานที่ที่จัดได้ว่ามีความหลากหลายทางธรรมชาติทั้งภูเขา เกาะ ทะเล รวมถึงหินที่มีอายุเก่าแก่ สัตว์ป่า และสัตว์น้ำ ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ มากถึง 22 เกาะ ที่ล้อมรอบอุทยานแห่งนี้เอาไว้ นับได้ว่ามีความสมบูรณ์ยิ่งนัก จึงได้รับการพิจารณาจากกรมอุทยานแห่งชาติให้เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติที่ครอบคลุมหมู่เกาะเภตรา เกาะเขาใหญ่และเกาะอื่น ๆ ในบริเวณอำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง และอำเภอทุ่งหว้า อำเภอละงู จังหวัดสตูล ซึ่งเมื่อมาถึงที่นี่จะเห็นเกาะใหญ่ 2 เกาะตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลนั่นคือเกาะเขาใหญ่และเกาะเภตรานั่นเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ความสวยงามของที่นี่ไม่ได้มีแค่หมู่เกาะเท่านั้น แต่เมื่อมาถึงคุณจะได้เห็นสะพานปูนยาวให้เดินชมธรรมชาติรอบๆ เกาะ สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า “สะพานข้ามกาลเวลา” เหตุผลที่ตั้งชื่อนี้เพราะเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เป็นการชนกันหรือเกิดรอยสัมผัสของหิน 2 ยุคคือหินทรายสีแดงในยุคแคมเบรียนและหินปูนสีเทาในยุคออร์โดวิเชียน ซึ่งทั้ง2 ยุคนี้มีอายุมากกว่า 400 ล้านปีมาแล้ว การเดินบนสะพานแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการเดินข้ามกาลเวลาระหว่างหิน 2 ยุคนั่นเอง ซึ่งสะพานแห่งนี้จะเชื่อมทางเข้าอุทยานทั้ง 2 ทาง เมื่อเดินไปจนสุดสะพาน ก็จะเจอกับอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นทางเข้าชมหินหลากสี แต่ขอบอกว่าให้เดินกลับมาทางเดิมนะคะ เพราะถ้าออกนอกประตูไปแล้ว ต้องเดินวนกันหลายกิโลเมตรเลยทีเดียวกว่าจะเจอทางเข้าอุทยาน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ระหว่างทางก็จะได้พบกับธรรมชาติกันสวยงามพืชพรรณนานาชนิดที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่ และยังมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ เห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ ที่รายล้อมอุทยานแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมี “หินหลากสี” ตามแนวชายหาดเขาโต๊ะหงาย ให้ได้ชื่นชมกัน หินที่มีรูปร่างต่างกันและหลากสี ทั้งสีแดง สีเหลือง สีเทา สีดำ สีเงิน หากไปช่วงที่น้ำลดจะได้เห็นหินหลากสีกระทบกับแสงแดดอย่างสวยงามแน่นอน ระหว่างเดินบนสะพานก็สามารถแวะถ่ายรูปที่จุดเช็คอิน เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย ซึ่งหินที่นี่ก็จะเปลี่ยนสีไปตามสภาพอากาศ แต่มีความเชื่อว่าห้ามนำหินจากที่นี่กลับบ้านเด็ดขาด เพราะจะทำให้ชีวิตติดขัด ไม่มีความสุข และยังถือเป็นการทำลายธรรมชาติอีก เพราะฉะนั้นช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติแค่ไปสัมผัสและไปถ่ายรูปก็พอค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ที่นี่มีอัตราค่าบริการในการเข้าชมคือชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 เด็ก 100 ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 เด็ก 10บาท ถือว่าคุ้มมากกับการได้ไปเยี่ยมชมและสัมผัสธรรมชาติ เพราะค่าบริการนี้ก็จะถูกนำไปบำรุงรักษาอุทยานแห่งนี้ให้สวยงามและทรงคุณค่าต่อไป หากใครยังไม่มีแผนไปเที่ยว ลองมาแวะชมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรากันนะคะ รับรองว่าได้พักทั้งกายและพักทั้งใจและได้รูปสวย ๆ อวดเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ ภาพหน้าปกโดยผู้เขียน