"เขื่อนภูมิพล" เขื่อนคอนกรีตลักษณะโค้งแห่งเดียวในประเทศไทย และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเซีย ใหญ่เป็นอันดับที่ 8 ที่นี่เป็นแห่งชลประทานที่สำคัญของภาคเหนือ กั้นริมน้ำปิง เนื่องจากอยู่ในจังหวัดตาก และสิ้นสุดความยาวของลำน้ำทอดยอดไปถึง อำเภอดอยเต๋า จังหวัดเชียงใหม่ เรียกได้ว่า เขื่อนภูมิพล คือ สถานที่กักเก็บน้ำชลประทานที่สำคัญและเป็นสายเลือดใหญ่ของภาคเหนือ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเสด็จมา เพื่อเปิดเขื่อนภูมิพล ณ เมื่อ วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 พระองค์ทรงเป็นผู้พระราชดำริ ให้ก่อสร้างเพื่อกักเก็บน้ำ ไว้สำหรับการชลประทาน การเกษตร และการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอกับประชาชน การเดินทาง จากกรุงเทพฯ เลือกใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน และเลือกใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ถนนสายบางปะอิน - นครสวรรค์ โดยต้องเลี้ยวซ้ายตรงบริเวณวังน้อย ระยะทางรวม 475 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 6 ชั่วโมง 30 นาทีโดยประมาณ เมื่อเดินทางเข้าเขตจังหวัดตาก จะมีป้ายบอกทางไป "เขื่อนภูมิพล" เป็นระยะ ๆ แม้ว่าเส้นทางในการเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง จะมีความคดเคี้ยวไปด้วยโค้ง แต่วิวและธรรมชาติก็สวยงดงามจนยากแก่การลืมเลือน "เขื่อนภูมิพล" เปิดและปิดตั้งแต่เวลา 7.00 -17.00 น. นั่งท่องเที่ยวสามารถเข้าไปถ่ายรูป ชื่นชมความงาม ซิกเนเจอร์ของเขื่อนแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามสรรสร้างโดยธรรมชาติ มีเสน่ห์มากมาย ทั้งขุนเขาน้อยใหญ่ที่ขนานเคียงคู่กับพื้นผืนลำน้ำทะเลสาปแม่ปิง ความงดงามประดุจดังภาพวาดในจินตนาการ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยอากาศธรรมชาติที่บริสุทธิ์ การล่องแพ เลือกใช้บริการของ “แพเพชรแม่ปิง” ราคาท่านละ 1,200 บาท ประกอบด้วยอาหารจำนวน 5 มื้อ คือ ค้างคืนในแพจำนวน 1 คืน มีเรือสำหรับการลากจูงแบบช้า ๆ จุดลงเรือ คือ บริเวณใกล้สันเขื่อนภูมิพลเพื่อให้ได้สัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาติ ทั้งสองริมฝั่งลำน้ำ ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์เขียวขจี จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้คือ "วัดพระธาตุแก่งสร้อย" "วัดพระธาตุแก่งสร้อย" ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านนา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก วัดเพียงแห่งเดียวในเขื่อนภูมิพล มนต์เสนห์ของวัดแห่งนี้ คือ การเดินทางต้องอาศัยเรือ หรือแพ จากบริเวณ สันเขื่อนภูมิพลเท่านั้น เพราะวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำ แวดล้อมโอบกอดไปด้วยทิวเขาและอยู่ห่างจากสันเขื่อนภูมิพลเป็ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร เรียกได้ว่าใช้เวลาการเดินทางเพียงชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น วัดแห่งนี้สันนิษฐานว่า สร้างในยุคสมัย พระนางจามเทวี แห่งเมืองหริภุญชัย จึงเป็นวัดที่มีความเก่าแก่และมีโบราณสถานที่เป้นเครื่องยืนยันถึงอายุและประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่ อย่างเช่น ทางเข้าพระเจดีย์ที่ก่ออิฐถือปูน เปรียบเสมือนมนต์ขลังและเป็นเครื่องยืนยันความสำคัญทางประวัติศาสตร์แม้ว่า “วัดพระธาตุแก่งสร้อย" จะได้รับการบูรณะมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่สิ่งสำคัญต่าง ๆ ก็ยังได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพไว้เฉกเช่นเดิม "วัดพระธาตุแก่งสร้อย" ได้รับการบูรณะครั้งสำคัญที่ถูกจารึกไว้ โดย "พระครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชัยโย" พระอาจารย์ใหญ่แห่งดินแดนนักบุญเมืองล้านนาของไทย จุดเด่นของที่นี่คือ มีเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมธาตุที่สำคัญ ๆ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ พระเกศาธาตุ และส่วนที่สอง คือ พระธาตุที่เป็นส่วนแขนบริเวณด้านซ้าย ภายใน "วัดพระธาตุแก่งสร้อย" มีต้นไม้พูดได้ คือมีป้ายคติธรรมให้ความรู้สำหรับการเตือนสติผู้มาเยือน วัดแห่งนี้มีวิวที่สวยงามมาก เมื่อมองจากบริเวณจุดชมวิวของวัด ลักษณะเป็น วิวแบบพาโนรามา 360 องศา ด้านหลังคือน้ำสีเขียวมรกตอมสีฟ้าใส และ ภูเขาเขียวขจีลอยน้ำที่ตั้งเรียงรายสลับซับซ้อน ลักษณะมีความคล้ายกับทะเลสาปและเกาะในกลางทะเล หรือหากเปรียบง่าย ๆ ตรงบริเวณนี้ก็เสมือนกับเมืองสวรรค์ชั้นฟ้า จึงทำให้จุดนี้จึงเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมากมายมาสักครั้งในชีวิต เที่ยวตาก งดงามมาก”เขื่อนภูมิพล” ยล”วัดพระธาตุแก่งสร้อย” จะพบกับธรรมชาติที่สวยงดงาม และความรักในพื้นแผ่นดินไทย การมาเที่ยวเขื่อนภูมิพลจะได้รับความประทับใจ จากแนวโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้กราบสักการะนมัสการ องค์พระธาตุที่เป็นเครื่องแสดงถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และได้สูดอากาศบริสุทธิ์ของธรรมชาติรอบตัว เป็นการพักผ่อนที่แสนจะวิเศษ เครดิตภาพทั้งหมด “ภาพถ่ายโดยผู้เขียน”