การเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ย่อมมีจุดหมายปลายทาง แต่ก็ไม่เสียหาย ถ้าระหว่างทางจะแวะนั่น แวะนี่ จนอาจทำให้ถึงที่หมายช้าลงไปบ้าง ยิ่งถนนหนทางหลายเส้นตอนนี้ นอกจากขับสะดวกสบาย เส้นทางยังสวยงาม มีรายละเอียดดึงดูดให้หยุดพัก หยุดแวะ เรียกว่า “แวะเพลิน” เลยหละ อย่าง 5 พิกัดถนนสายสวยที่เลือกมาชี้เป้า สำหรับคนชอบขับรถเที่ยว เริ่มจากสายเหนือกันก่อน จังหวัดสุดฮ๊อต “เชียงใหม่” ที่ติดชาร์จสำรวจทุกครั้งเมื่อถามถึงจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวของใครหลาย ๆ คน ที่ เชียงใหม่ กับถนนสายสวย เส้นทางหลวงหมายเลข 108 ฮอด-แม่สะเรียง การเดินทางไม่ว่าจะไปจาก กทม. หรือ จากตัวเมืองเชียงใหม่ มองป้าย อ.ฮอด ไว้ เมื่อตัวอำเภอเลี้ยวไปตามวงเวียนเข้าเส้นหมายเลข 108 ถนนลาดยางตลอดสาย เลียบขนานไปกับแม่น้ำแม่แจ่ม ถนนสวยเหมาะกับการขับรถเที่ยว มีจุดแวะเที่ยว ซึ่งอาจจะเปลี่ยนจากจุดแวะเป็นจุดพักหลักก็ได้ หากได้เข้าไปที่ อุทยานแห่งชาติออบหลวง กางเต็นท์นอนริมน้ำแม่แจ่ม ซัก 1 คืน ก่อนขับไปต่อ "ลำน้ำแม่แจ่มเรียบขนานไปตลอดเส้นทางหลวงหมายเลข 108" ถนนสาย “ฮอด-แม่สะเรียง” ชื่อก็บอกว่าไปได้ถึง แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ถ้าขับไปต่อยังมีจุดแวะที่น่าพัก ทั้ง “สวนสนบ่อแก้ว” หรือ สถานีทดลองปลูกพันธุ์ไม้บ่อแก้ว และถ้าไปต่ออีกก็ยังมี “อุทยานแห่งชาติแม่โถ” ถนนลาดยางเข้าไปถึงหน้าสำนักงานอุทยานฯและต้องบอกว่า ทั้งพิกัดกางเต็นท์ หรือจะเป็นบ้านพักอุทยานฯ ที่นี่วิวสุดมาก ตื่นเช้าจิบกาแฟเคล้าสายหมอก กับ วิวดอยอิทนนท์สุดลูกหูลูกตาเบื้องหน้า ฟินสุด !! ยังอยู่ทางเหนือ แต่เป็นเหนือด้านตะวันออกบ้างที่ จ.น่าน กับ 2 เส้นทาง ที่ถูกโปรโมทอยู่ในช่องทางออนไลน์ของกรมทางหลวง เอาเส้นแรกก่อน กับ “ถนนลอยฟ้า” หมายเลข 1256 อ.ปัว – อ.บ่อเกลือ ... เส้นทางตัดจากอำเภอปัวขึ้นดอยภูคาไปจนถึงตัวอำเภอบ่อเกลือ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ถนนหุบเขาที่ขึ้นชื่อว่า สวยสุด ๆ เพราะไต่ไปตามไหล่เขาและบางช่วงไต่ไปตามสันเขากันเลยทีเดียว ได้เห็นวิวทิวเขาซ้อนกันทั้งซ้ายขวา ถ้าไปจังหวะหน้าดอกเสี้ยวบาน ช่วงปลาย ๆ หนาว จะผ่านดงต้นเสี้ยวออกดอกสีชมพู สีขาวพรึบ 2 ข้างทาง ทำเอาเส้นทางสันเขาที่สวยอยู่แล้ว มีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีก "ถนนลอยฟ้า ไต่สันเขาดอยภูคา" ดอยภูคา เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มีความสวยงามตามธรรมชาติ อากาศดี เย็นสบาย เที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะฤดูหนาวอากาศเย็นจัด จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าหนาว ในอุทยานฯ มีบริการบ้านพัก และ ลานกางเต็นท์ บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ และอีกเส้นที่บูมสุด ๆ ช่วงปี ถึง 2 ปีที่ผ่านมา กับ “ถนนหมาย 3” แต่ชื่อเต็ม ๆ คือทางหลวงหมายเลข 1081 สายสันติสุข – บ่อเกลือ เส้นทางจากอำเภอสันติสุข ไปอำเภอบ่อเกลือ 2 ข้างทางปกคลุมด้วยต้นไม้ แต่พิกัดอันซีนอยู่ที่ ช่วงกม.ที่ 38 – 39 “ดอนมูล – หลักลาย” กับ “โค้งเลข 3” ที่มีระยะทางสั้น ๆ แค่ 300 เมตร แต่ปังสุด ๆ กับเอกลักษณ์โค้งถนนเลข 3 โดดเด่น ผ่านตรงนี้ไม่หยุดรถเช็คอิน เป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งก่อนถึงโค้งมีจุดจอดรถ เอาใจคนชอบถ่ายภาพพิกัดแห่งความสุขความตื่นเต้นให้เก็บภาพได้อย่างปลอดภัยด้วย ถนนเลข 3 กับนางแบบคนสวย !! ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้า ๆ เขาบอกว่าจะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณโค้งเลข 3 นี้ ด้วย !! จากถนนเรียบเขา เรียบป่า ไปดูถนนเรียบทะเลสวย ๆ กับ "ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต" จ.จันทบุรี ได้ชื่อว่าเส้นทางสายโรแมนติกแห่งภาคตะวันออก ทั้งสวยงาม และเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน หรือ Dream Destinations ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแนะนำไม่ควรพลาด เพราะไม่ใช่แค่ถนนสวย แต่แหล่งเที่ยวครบ เริ่มต้นตั้งแต่อ่าวคุ้งวิมาน ยาวไปถึงหาดแหลมสิงห์ ผ่านจุดชมวิวหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ปากแม่น้ำจันทบุรี จุดชมวิวเนินนางพญา ที่สามารถมองเห็นแนวถนนคดเคี้ยวขนานไปกับทะเลจุดที่สวยและชัดเจนที่สุด แถมยังเป็นพิกัดสัญญารัก กับกิจกรรม “ล็อคกุญแจ” ริมระเบียงเนินผาของบรรดาคู่รักที่มาให้คำมั่น รักกัน แบบในซีรีส์เกาหลีด้วย เสร็จแล้วยังไปแวะ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริแหล่งท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ของการฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนที่มีความสำคัญระดับประเทศ ส่วนใครที่ชอบปั่นจักรยาน มีเส้นทางจักรยานขนานไปกับถนนสายหลัก และระหว่างเส้นทาง ก็มีโรงแรม รีสอร์ท ร้านรวง ร้านกาแฟ ให้เลือกมากมายอีกด้วย ลงใต้ไปต่อที่ "ถนนเลียบชายฝั่งทะเล ขนอม – สิชล" จ.นครศรีธรรมราช ถนนเส้นเขาพลายดำ-อ่าวท้องหยี เชื่อมระหว่าง อ.สิชล กับ อ.ขนอม ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ไม่เพียงเป็นถนนสายสวยงามที่สุดของฝั่งอ่าวไทย แต่เส้นทางนี้ยังช่วยย่นระยะเวลาเดินทางจากระหว่าง 2 อำเภอ ได้ถึง 33 กิโลเมตร จุดเด่นของถนนเส้นนี้ คือ ทอดยาวเลียบทะเล คดโค้งตามแนวเขาพลายดำ ภูเขาติดทะเลตรงแนวรอยต่อเขต อ.ขนอม และ อ.สิชล มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลากหลาย เป็นถนนสายอนุรักษ์ธรรมชาติ ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยต้นไม้ และบรรยากาศแห่งธรรมชาติ มีสัตว์ป่าอย่าง กวางป่าหรือกวางม้า ที่อาศัยอยู่ไม่น้อยกว่า 100 ตัว ที่เขาว่าบางทีก็ออกมาปรากฏตัวให้ได้เห็นในเวลากลางคืน ส่วนบริเวณ “อ่าวท้องหยี” อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นชายหาดแนวโค้ง ลาดลงสู่ทะเลบางช่วงสลับโขดหิน สามารถลงเล่นน้ำได้ และยังเป็นจุดชมวิวท้องฟ้ากับท้องทะเลบรรจบกันอย่างสวยงาม ยิ่งในวันที่ฟ้าใส ๆ มองเห็นวิวได้ไกลถึง เกาะสมุย และเกาะพงัน ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครศรีธรรมราชเลยก็ว่าได้ แม้จุดหมายปลายทางจะสำคัญ แต่เรื่องราวระหว่างทางที่ชวนให้ได้แวะพัก หยุดทักทาย ก็อาจจะเติมเต็มการเดินทางแต่ละครั้งให้มีความทรงจำมากขึ้น !! ภาพและเรื่อง โดย “เป๋าเป้” อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !