“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2567 สบาย ๆ ตามสไตล์คนชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเก็บข้อมูลมาเขียนเล่าเรื่องให้ท่านผู้อ่านทุกท่านอ่านแล้วก็ไปเที่ยวกันนะจ๊ะ!!!ถ้าได้ไปจังหวัดนครศรีธรรมราชพลาดไม่ได้ต้องมาที่ "อำเภอปากพนัง" ไปดูกันว่าที่นี้มีอะไรดีรอเราอยู่บ้างครับอำเภอปากพนังของขึ้นชื่อ "ส้มโอทับทิมสยาม"ด้วยในเส้นทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปอำเภอปากพนัง จะมีร้านขาย "ส้มโอทับทิมสยาม" เรียงกันอยู่หลายร้านเพราะบริเวณพื้นที่ดินในตำบลเกาะทวด ตำบลคลองน้อยและคลองกระบือส่วนใหญ่เป็นสวนส้มโอทับทิมสยามสำหรับเรื่องราวความเป็นมาของพันธุ์ส้มโอทับทิมสยามที่เรียกชื่อกันทุกวันนี้พันธุ์ส้มโอมาจากที่ใด!!! อาจเป็นคำถาม? ส่วนคำตอบหนุ่ม-สุทนจะเขียนเล่าเรื่องให้ฟังพันธุ์ส้มโอสันนิษฐานว่ามาจาก "ประเทศมาเลเซีย" โดยชาวเกษตรกรในอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เชื่อว่านำเข้ามาปลูกก่อนแรก ๆ แต่ผลผลิตยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรต่อมาในปี พ.ศ. 2544 ชาวสวนของตำบลเกาะทวด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช น่าจะนำมาปลูกเป็นแห่งที่ 2 หรือเป็นสวนแรก เมื่อส้มโอได้ผลผลิตดีเกษตรกรก็ขยายพันธุ์ส้มโอมาปลูกกันมากใน 3 ตำบลของอำเภอปากพนัง จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปอำเภอปากพนัง จะมีร้านขาย "ส้มโอทับทิมสยาม" เรียงกันอยู่หลายร้านเลือกซื้อได้ครับทำไมพันธุ์ส้มโอจากมาเลเซียพอได้ปลูกในพื้นดินของอำเภอปากพนังแล้วจึงได้รสชาติดี? เรื่องรสชาติส้มโอ ชาวสวนส้มโอก็เล่าเรื่องให้ฟังว่าอำเภอปากพนังเมื่อครั้งสมัยอยุธยาเป็นราชธานีครั้งกระนั้นคือเมืองปากพนังเป็นเมืองที่ติดทะเลช่วงน้ำหลากน้ำทะเลก็ไหลเข้ามาท่วมพื้นดินในย่านนี้ เมื่อประมาณ 100-200 ปีที่ผ่านมาหรือมากกว่านั้นก็เลยทำให้ซากของกุ้ง หอยปูปลาทับถมอยู่ในดินนานแสนนานด้วยเหตุผลนี้ใต้พื้นดินจึงมากด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ และแร่ธาตุแคลเซียมพอปลูกพืชผักผลไม้โดยเฉพาะพันธุ์ส้มโอจากมาเลเซียปรากฏว่าได้ผลดีมากลูกโต เปลือกบางส่วนเนื้อของส้มโอรสชาติออกหวานชาวเกษตรกรเรียกว่า "เนื้อกุ้ง" มีสีชมพูเข้ม ๆ และแดงดูคล้าย ๆ เนื้อทับทิมนี่แหละคือที่มาของคำเรียกว่า "ส้มโอทับทิมสยาม" อะฮิ…อะฮิ น่าทึ่งมากส้มโอทับทิมสยามใครสนใจก็สอบถามได้ที่โทรศัพท์ 087-4696973 ซื้อเป็นของฝากได้มีจำหน่ายอยู่ในเส้นทางไปอำเภอปากพนังนะจ๊ะเนื้อสวยสีแดง รสชาติหวาน อร่อยครับเสร็จแล้วก็เดินทางเข้าอำเภอปากพนังแวะจุดแรก "วัดนันทาราม" เพื่อบูชา "องค์หลวงพ่อพระผุด" เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายแดงศิลปะแบบขอมเชื่อว่าเคยเป็นพระพุทธรูปประจำเมืองปากพนังมาก่อนพอเกิดสงครามชาวบ้านชาวเมืองคงนำมาฝังไว้ใต้ดินในบ่อน้ำต่อมาในปี พ.ศ. 2404 เกิดลมพายุพัดอย่างแรงแล้วฟ้าฝ่าลงมาก็พบองค์พระพุทธรูปผุดขึ้นจากใต้พิภพ ไปกราบขอพรกันได้ครับกราบขอพร "หลวงพ่อพระผุด"ส่วนจุดที่ 2 ก็ไปที่ "วัดเสาธงทอง" บูชาพระพุทธรูปทรงเครื่องและรูปหล่อ "หลวงพ่อจันทร์และหลวงพ่อทอง" อดีตเจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง เสร็จแล้วก็เดินชมตลาดสดริมแม่น้ำปากพนังอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารทะเลสด ๆ กุ้งหอยปูปลาและวิถีชีวิตริมน้ำปากพนังน่าท่องเที่ยวมาก ๆ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับ"หลวงพ่อจันทร์และหลวงพ่อทอง" เลือกซื้ออาหารสด อาหารแห้ง ตลาดสดริมน้ำปากพนังพิกัด "อำเภอปากพนัง" https://maps.app.goo.gl/zdshjsEG59C3Gqvm8เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !