เวียนนา เมืองที่ฉันรักตั้งแต่เรายังไม่รู้จักกัน ฉันเป็นแฟนโสภาค สุวรรณตั้งแต่เด็ก และฉันไม่เคยคิดว่าชีวิตฉันจะได้มาเยี่ยมเยือนหลาย ๆ ประเทศที่เคยได้อ่านในนิยายของนักเขียนที่รัก เวียนนา ก็เป็นหนึ่งในนั้น ฉันเคยพบกับผู้ชายสูงอายุท่านหนึ่งที่บอกฉันว่าท่านเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเวียนนา ฉันจำได้ว่าฉันตื่นเต้น เหมือนเจอคนในนิยายในชีวิตจริง และเวียนนา ก็เป็นความฝันของฉันมาตลอดยี่สิบปี เวียนนา เป็นหนึ่งในเมืองที่ฉันเลือกไปฮันนีมูน แม้จะมีเวลาเพียงสองคืน แต่ฉันก็บอกกับทุก ๆ คนว่า เวียนนาคือเมืองที่ฉันหลงรัก และฉันรักมาตั้งแต่เราไม่เคยรู้จักกัน เรานั่งรถไฟจากเมือง Hallstat มาเวียนนา กว่าจะถึงเวียนนาฉันก็รู้สึกว่าฉันขอทานอาหารไทยก่อนเถอะ และฉันก็ได้ทานอาหารไทยมื้อแรกที่สถานีรถไฟ Wien HBF ฉันกับสามีสั่งผัดกะเพรา เสิร์ฟมากับข้าวหอมมะลินุ่ม ๆ เราสองคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยเหมือนทานที่เมืองไทย เราพักกันย่านที่เรียกว่า Ring Road ซึ่งเป็นย่านกลางเมือง เหมาะกับนักท่องเที่ยวอย่างเรา เพราะสามารถเดินชมอาคารสวย ๆ หาร้านอาหารทานได้อย่างง่ายดาย ฉันกับสามีมีแนวทางการท่องเที่ยวคล้ายกันคือ ลองชิมอาหารแปลกใหม่ในแต่ละเมือง เวลาจะไปที่ไหนก็หาข้อมูลคร่าว ๆ และสามารถแวะระหว่างทางหรือเปลี่ยนแผนได้ตลอด เราเดินลัดเลาะไปตามถนนบ้าง นั่งรถไฟบ้าง รถเมล์บ้าง เรามาถึงวันแรกก็ค่อนข้างมืดแล้ว จึงวางแผนเที่ยววันถัดไป โดยจุดมุ่งหมายคือ พระราชวัง เชินบรุนน์( Schönbrunn Palace ) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้เป็นมรดกโลกในปี 1996 เชียวนะ เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ฉันกับสามีเดินเข้าไปในสวนอันกว้างใหญ่ ต้นไม้ร่มรื่น มีที่พักให้ตามจุดต่าง ๆ ในสวนมีน้ำพุสวยมาก ๆ เดินได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ คนมาชมเยอะมาก ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกแออัดเลยแม้แต่น้อย เพราะสถานที่กว้างใหญ่มาก ถ้าไม่ติดว่ามีเวลาน้อย ฉันอยากจะนั่งอ่านหนังสือเล่นใต้ต้นไม้ในสวนนี่จริง ๆ และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับสไตล์การท่องเที่ยวของเราสองคนคือ การลองทานกาแฟและขนมในแต่ละเมืองที่เราไป ที่เวียนนาเป็นที่แรกที่ทำให้ฉันรู้จักเค้กช็อกโกแลตสีเข้ม เนื้อแน่น ที่ชื่อ Sachertorte จะว่าไป นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ฉันรู้จักเค้กชนิดนี้ ฉันมีเพื่อนร่วมงานชาวออสเตรีย ที่เคยได้นำขนมชนิดนี้มาฝากเพื่อน ๆ ในที่ทำงาน เค้กชนิดนี้มีในร้านคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงหลายร้าน แต่ละร้านก็ต้องไปยืนรอคิวนานกว่าจะได้เข้าไป ร้านแรกที่ฉันเล็งไว้คือ Hotel Sacher แต่เห็นคิวแล้ว ขอเปลี่ยนใจเถอะ เราสองคนเลือกร้านที่ดูพอจะเป็นไปได้ในการหาโต๊ะ และร้านดูเก่าแก่น่าลอง จึงไปที่ร้าน Demel ร้านอยู่ไม่ไกลจาก Historic Center of Vienna เปิดมาตั้งแต่ 1786 นู่น เป็นขนมเข้าวังในสมัยก่อน แม้แต่พระราชินีของยุโรปก็เคยมาที่นี่นะ ระหว่างยืนรอ ฉันเห็นโซนอบขนมของร้าน ทำให้นึกถึงว่าเขาคงจะทำงานหนักแบบนี้มาเป็นร้อย ๆ ปี หลายรุ่น จนประสบความสำเร็จขนาดนี้ ยืนรอพักใหญ่ กว่าจะได้ที่นั่ง มีพนักงานคอยจัดการเรื่องคิวให้เสร็จสรรพ และแน่นอน เราสั่งเค้กช็อกโกแลต Sachertorte มาคู่กับกาแฟหอม ๆ รอไม่นาน ขนมและกาแฟก็ถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้า เนื้อเค้กแน่น รสช็อกโกแลตเข้มข้น เข้ากันได้ดีกับกาแฟที่เสิร์ฟคู่กันมา พอเราทานชิ้นแรกหมดไป เราต่างมองตากันแล้วบอกว่า เราคงไม่ได้มาอีกเร็ว ๆ นี้ เราลองสั่ง Apple Strudel กันเถอะ เป็นแป้งพายที่มีแอปเปิ้ลกวนอยู่ข้างใน ฉันว่าฉันชอบชิ้นนี้มากกว่า หอมกลิ่นอบเชย ไส้อมเปรี้ยวอมหวาน อร่อยมาก ในร้านมีเค้กหลากหลายชนิดมาก รวมถึงช็อกโกแลตสำหรับเป็นของฝาก ถ้าเราอยู่เวียนนานานกว่านี้ สงสัย น้ำหนักคงขึ้นแน่ ๆ หลังจากนั้น เราไปเดินตลาดโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับได้พบกับร้านขายของที่น่าสนใจมาก ๆ ตลาดนี้มีชื่อว่าตลาดแนชมาร์ก ใกล้สถานีรถไฟ Stephansplatz มีร้านขายอาหารเยอะมาก ทั้งของแห้ง ของสด บาร์ เดินแล้วเพลินจริง ๆ ค่ะ ฝั่งตรงข้าม มีอาคารที่มีลวดลายแปลก สะดุดตา เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปถ่ายรูป ภาพประกอบโดยผู้เขียน เสียดายที่เรามีเวลาอยู่ที่นี่น้อยไปนิด แต่ฉันก็คิดว่า เรายังสามารถกลับมาได้อีก เพราะเวียนนาคงไม่หนีไปไหน ฉันช่างหลงรักเมืองนี้ ฉันรักมากขึ้นกว่าก่อนมาถึง เมืองอะไรให้ความโรแมนติกเสียจริง ทุกอย่างรอบ ๆ ตัวเหมือนภาพฝัน เหมือนหลุดออกมาจากในนิยาย ฉันรู้ว่าวันหนึ่ง ฉันต้องได้กลับไปเยือนเวียนนาอีกครั้ง และแม้หลังจากเวียนนา ฉันจะได้เดินทางไปอีกหลายเมือง แต่ฉันขอยกเวียนนาให้เป็นที่หนึ่งในใจสำหรับทริปยุโรปครั้งนี้ "ภาพปกและภาพประกอบ โดยผู้เขียน"