คอนนิจิวะ~ ขอทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ เนื่องจากเราจะพาทุกคนมาเที่ยวญี่ปุ่นกัน ^^ ซึ่งเป็นการเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกและเป็นประเทศที่ใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวมากที่สุด เราเลือกมาในช่วงเดือน ต.ค. ซึ่งจะเป็นช่วง Autumn Season ของญี่ปุ่นพอดีเลยค่ะ ที่เป็นไฮไลท์และเป็นจุดมุ่งหมายหลักของทริปนี้คือ การได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี อดใจไม่ไหวแล้ววว ตามเรามาเลยย Day 1 - ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก , เข้าพักโรงแรม Apa Asakusa Ekimaeทริปนี้เลือกบินกับสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ XJ606 เพราะเป็นสายการบินที่บินตรงถึงญี่ปุ่น เที่ยวบินเยอะ ราคาไม่แพงค่ะ เราจองช่วงโปร 0 บาท ในเดือน พ.ค. และบินเดือน ต.ค. ได้มาในราคา 9,130 บาท รวมน้ำหนักกระเป๋า+ที่นั่ง+อาหาร ทั้งไป-กลับ ถือว่าไม่แพงเลยค่ะ สำหรับในช่วง high seasonเที่ยวบินของเราคือ 11.25 - 19.10 น. เพราะฉะนั้นควรเผื่อเวลาสัก 2-3 ชม. ก่อนเวลานะคะ ใช้เวลาแค่ 10 นาทีก็เช็คอินเสร็จ เราก็จะได้ Boading Pass มา เสร็จแล้วเราก็เข้าด่านตรวจคนเข้า-ออกเมือง และเข้าไปยัง Gate เพื่อรอขึ้นเครื่องค่ะและแล้วเราก็ขึ้นเครื่องอยู่บนน่านฟ้าไทยเรียบร้อย ตอนเครื่องขึ้นตื่นเต้นสุด ๆ เหมือนรถไฟเหาะที่ค่อย ๆ ทะยานช้า ๆ บินไปได้สัก 2 ชม. แอร์ก็จะเสิร์ฟอาหารที่เราจองไว้ค่ะเมนูที่จองไว้คือ ข้าวเหนียวไก่ย่างค่ะ รสชาติอร่อย ข้าวนิ่มไก่นุ่ม น้ำจิ้มแซ่บ ทานเสร็จเรียบร้อยก็นอนดู Netflix ยาว ๆ เลยค่ะ อีก 4.30 ชม. เจอกันนะจ้ะ โตเกียวที่รัก ❤มาถึงแล้วววว โรงแรมที่เราจองไว้ผ่าน agoda นั่นก็คือ โรงแรม Apa Asakusa Ekimae ตกคืนละ 2,300 บาท ทำเลดีค่ะ สถานีรถไฟใต้ดินอยู่หน้าโรงแรมเลย และร้าน Family Mart อยู่ข้างโรงแรมอีกด้วย สะดวกมาก ๆ ที่เราเลือกพักย่าน Asakusa เพราะอยากเที่ยววัดเซ็นโซจิ วัดสุดฮอตที่ใครมาเที่ยวโตเกียวต้องมาเยือนค่ะ สามารถเดินจากโรงแรมไปวัด 500 เมตร มองเห็นประตูวัดอยู่ลิบ ๆ ได้จากหน้าโรงแรมเลย ดีงามมากDay 2 - ตะลุยสวนสนุกโตเกียว Disney Sea ความฝันอีกอย่างของการมาเที่ยวญี่ปุ่นคือ การได้มาสวนสนุก Disney Land (แต่เราไปฝั่ง Disney Sea) ทุกคนอาจจะคิดว่าเครื่องเล่นเด็ก ๆ ไหม บอกเลยว่าฝั่ง Disney Sea ไม่เด็กเลยจ้า มาดูไฮไลท์เครื่องเล่นที่ใครมาโตเกียว Disney Sea ต้องไม่พลาดค่ะ- ลิฟท์ตกที่โรงแรมผี Tower of Terror พูดได้เลยว่าเป็นเครื่องเล่นที่เสียวววที่สุดของที่นี่เลยก็ว่าได้ เครื่องเล่นจะเป็นลักษณะที่นั่งเป็นแถว โดยจะจำลองเครื่องเล่นเสมือนลิฟท์ เครื่องเล่นจะค่อย ๆ พาเราเลื่อนขึ้น ๆ จอดตามชั้นจะเห็นผีในโรงแรมแต่ละชั้น เมื่อลิฟท์จอดที่ชั้นสุดท้ายจะค่อย ๆ พาเราดิ่งลงเหมือนตกลิฟท์กระชากขึ้นลง พีคสุดท้ายคือ ดิ่งลงสุดเร็วมากกกก กรี้ดสุดเสียง ใจคอหายแวป ใครที่ชอบความหววาดเสียวท้าทายชอบแน่นอนค่ะ แต่ก็มีคำเตือนนะคะ ใครเป็นโรคหัวใจหรือโรคประจำตัวไม่ควรเล่นจ้า- ผจญภัยในเหมืองไปกับอินเดียน่า โจน Indiana Jones Adventureอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ประทับใจ ไม่หวาดเสียวเท่า Tower of terror เครื่องเล่นนี้ต้องใส่แว่นสามมิติ เครื่องเล่นจะจำลองคล้ายรถรางที่เข้าไปในเหมือง จะได้ผจญภัยไปกับด่านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แมงมุม , มัมมี่ , ก้อนหินยักษ์ รถรางก็จะมีลูกเล่นในการหลบหลีกด่านต่าง ๆ ภาพ 3 มิติสมจริง สนุกและตื่นเต้นมากค่ะทีนี่ยังมีร้านขายของฝากอยู่ในทุกโซนเครื่องเล่นค่ะ ภายในตกแต่งได้น่ารักตามธีมของโซนนั้น ๆ จะมีของขายจำพวกพร้อบที่คาดผม หมวก ตัวละคร Disney , ขนมช็อกโกแลต คุกกี้ ต่าง ๆ , ข้าวของเครื่องใช้ลายลิขสิทธิ์ Disney แต่ละอย่างคือ น่ารักไปหมด กระเป๋าฉีกได้ค่ะ ถ้าใครหลวมตัวแล้วถอนตัวไม่ขึ้น ^^Day 3 - ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นิกโก้ ช่วง ต.ค. เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะออกนอกเมืองไปชมใบไม้แดงที่เมืองนิกโก้กันค่ะ สามารถซื้อตั๋ว Nikko All Area Pass เป็นตั๋วที่รวมค่ารถไฟไป-กลับโตเกียว และขึ้นรถบัสเที่ยวนิกโก้ได้ไม่จำกัด (ใช้ได้ 4 วัน) คุ้มมาก ๆ ค่ะ นั่งรถไฟจาก Asakusa ถึง เมือง Nikko ประมาณ 2.30 ชม. ก็ถึงแล้วค่ะ จุดแรกที่เรามาในเที่ยวเมืองนิกโก้คือ ทะเลสาบยูโนโกะ เป็นทะเลสาบที่เห็นวิวแบบพาโนรามา ทะเลสาบกว้างใหญ่น้ำใสไหลเย็นมากค่ะ รอบ ๆ ทะเลสาบยังมีต้นไม้นานาพันธุ์ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสีเหลือง แดง ส้ม ฟินมาก ถือว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ภารกิจสำเร็จแล้วค่ะ ปลื้มมม~จุดที่ 2 เราจะไปโซนมรดกโลก ศาลเจ้านิกโก้กันค่ะ เป็นศาลเจ้าที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นอย่างแท้จริงด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่และลวดลายของอาคารที่เต็มไปด้วยปริศนาธรรม เช่น ลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดตา ปิดปาก สมกับคำที่เขาร่ำลือกันว่า Nikko is Nippon ศาลเจ้ามีอายุกว่า 100 ปี เราสามารถเข้าไปสักการะได้ค่ะ บริเวณโดยรอบศาลเจ้ามีต้นไม้สูงร่มรื่น ลมเย็นเดินสบายมากค่ะDay 4 - วัดเซ็นโซจิ , ปิ้งย่างซีฟู้ดรสเด็ด Isomaru Suisanอย่างที่เราบอกไปตอนต้นนะคะ เราเลือกพักย่าน Asakusa เพราะอยากมาวัดเซ็นโซจิ วันสุดท้ายสำหรับการเที่ยวเลยขอยก 1 วันให้กับที่นี่เลย วัดเซ็นโซจิถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดของโตเกียวค่ะ ไฮไลท์ที่สำคัญของวัดนี้คือ โคมแดงอันใหญ่อยู่ตรงกลางประตูทางเข้าสองประตูค่ะ จะมียักษ์สองตนคุ้มกันอยู่สองข้างประตูด้วยนะคะ เรามาช่วงกลางวันคนค่อนข้างเยอะ วัดนี้ก็เปรียบเสมือนวัดพระแก้วบ้านเรานี่ล่ะค่ะ ไม่ว่าใครมาเที่ยวโตเกียวต้องมาวัดนี้ เดินเข้าไปด้านในจะมีของขายขนาบสองทาง เราชอบมากค่ะ แต่ละร้านของขายไม่ค่อยซ้ำกัน มีร้านขายของฝากพวงกุญแจ , ที่ติดตู้เย็น , โมเดลการ์ตูนดังต่าง ๆ มีร้านขายขนมโด่งดังที่ใครมาวัดเซ็นโซจิจะต้องมาชิมให้ได้นั่นคือ ปังเมล่อน ชิ้นละ 60 บาท ความอร่อยอยู่ที่ความกรอบนอกนุ่มใน รสหวานอ่อน ๆ และความหอมของขนม โอ้ย แค่คิดก็อยากกินเลยค่ะ ใครมาวัดนี้ต้องห้ามพลาดเมนูนี้นะคะ ^^ไปจนสุดทางจะเป็นถึงวัดค่ะ เราสามารถขึ้นไปสักการะ โยนเหรีญเพื่อทำบุญ ก่อนเข้าวัดเราต้องตักน้ำชำระล้างสิ่งไม่ดีด้วยนะคะ ถ้าใครอยากมาตอนคนน้อย ๆ ได้ถ่ายรูปแบบจัดเต็ม แนะนำให้มาช่วงเย็นถึงค่ำ ในช่วงกลางคืนที่วัดจะเปิดไฟสวยงามตระการตาค่ะ โดยจะเปิดถึงสี่ทุ่มเฉพาะภายนอกนะคะ ส่วนภายในวัดปิด 5 โมงเย็นค่ะ เดินเล่นจนเหนื่อย เริ่มหิวแล้วค่ะ เราจะพาทุกคนไปกินที่สุดของปิ้งย่างซีฟู้ดที่ร้าน Isomaru Suisan ขอบอกว่าร้านนี้เด็ดมาก โดยเฉพาะเมนู มันปู รสชาติอร่อยมาก รสสัมผัสปูเข้มข้น มีความเค็มเล็ก ๆ ทานพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นฟินมาก แล้วเราก็สั่งเพิ่มเป็น ปลาหมึกสด , ซูชิ , ซาซิมิ อยากบอกว่าอาหารทะเลที่สั่งมาทุกอย่างสดสะอาด แต่อาจจะไม่ถูกใจคนที่ชอบกินแซ่บ ๆ แบบบ้านเราที่ต้องจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดนะคะ เพราะทีนี่จะเป็นน้ำจิ้มโชยุค่ะ ^^ The Last Day - กลับไทยแล้วจ้าาาสำหรับใครที่อยากมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบเรา แนะนำให้เที่ยวด้วยตัวเองนะคะ เพราะเที่ยวญี่ปุ่นเที่ยวง่ายมาก คมนาคมสะดวก ปลอดภัย ใช้ Google Map ในการเดินทางได้อย่างแม่นยำ เรื่องภาษาไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะบางที่ถึงขนาดมีภาษาไทยติดประกาศบอกค่ะ และคนที่นี่ก็พูดภาษาอังกฤษได้พอสมควรเลย สามารถ Copy แพลนการเที่ยวของเราได้เลยนะคะ ไม่ติดลิขสิทธิ์จ้า ^^ ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ลงเฟซบุ๊ก ลงไอจีให้ด้วยนะคะ ทริปหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนจะมารีวิวให้ฟังอีกนะคะ บายค่ะ :)