“ม่อนแจ่ม” ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ “ม่อนแจ่ม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดเชียงใหม่ ยิ่งตอนฤดูหนาวที่นี้จะมีนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันมาสัมผัสความหนาวเย็น ทำให้ที่นี่คึกคักมาก ไม่ว่าจะมาเที่ยวแบบไป-กลับ หรือมาเที่ยวแล้วพักค้างคืน ปัจจุบันที่นี่เขาก็มีบริการให้นักท่องเที่ยวโดยเป็นเต้นสีขาว ที่ตั้งเรียงรายกันตามขั้นของภูเขาเป็นลูก ๆ ให้ความสวยงามมาก ยิ่งตอนเวลากลางคืนที่มีแสงไฟแล้วยิ่งสวยไปอีก แต่ผู้เขียนขอนำเสนอ ม่อนแจ่ม ในอดีต ประมาณ 2 – 3 ปีที่แล้ว แต่ความสวยก็ยังคงเดิม และไม่ได้ลดน้อยลงกว่าปัจจุบันเลย “ม่อนแจ่ม” อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ จากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ใช้ถนนเชียงใหม่ - แม่ริม จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนน 1096 ขับตรงไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน 4051 หรือตามป้ายม่อนแจ่ม โครงการหลวงหนองหอย แต่ถนนที่จะขึ้นไปม่อนจ่อมต้องใช้ความระมัดระวังในการขับหน่อย เพราะว่าเป็นทางลาดชัน และคดเคี้ยว “ม่อนแจ่ม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ใช่แค่ฤดูหนาวเท่านั้น ด้วยที่นี่มีอากาศที่เย็นตลอดปี เมื่อเรามาเที่ยวช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ดอกไม้ที่นี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล สีสันสวยงามสลับกัน แต่ช่วงที่นักท่องเที่ยวจะมามากที่สุดเหมือนจะเป็นช่วงที่ ทุ่งดอกเวอร์บีนาสีม่วง ที่นี่มีบริการร้านกาแฟเล็ก ๆ หนึ่งจุด และอาหารที่เราสามารถสั่งแล้วไปนั่งทานที่ซุ้ม สามารถหย่อนเท้า นั่งชมธรรมชาติได้แบบเพลิน ๆ เมื่ออ้อมมาด้านหลังร้านกาแฟ ก็จะพบกับสวนสตอเบอรี่ที่ปลูกกันเป็นลูก ๆ มองจากด้านบนลงไปก็จะพบกับวิวภูเขา ถ้ามาช่วงฤดูหนาว ที่นี้ก็จะกลายเป็นทะเลหมอก จุดนี้เหมือนเป็น signature ของ “ม่อนแจ่ม” ที่ใครมาแล้วต้องมาถ่าย หรือว่าใครที่ถ่ายไปแล้ว มองแว๊บเดียวก็จะรู้ว่าที่นี้คือ ม่อนแจ่ม ในทุก ๆ ปี ผู้เขียนจะไปเที่ยว “ม่อนแจ่ม” อย่างน้อย ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อไปสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามที่สุด แต่ระยะหลังประมาณ 1 กว่านี้ ไม่มีโอกาสที่ได้ไปเที่ยวเลย จึงอยากจะขอแนะนำที่ท่องเที่ยวสวย ๆ บรรยากาศดี อากาศเย็นสบายทั้งปี และมีกิจกรรมที่หลากหลายให้ทำ เช่น เล่นฟอร์มูล่าแม้ว ถ่ายรูปกับน้อง ๆ ชาวเขา ให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสกัน Cr.ภาพถ่ายโดยผู้เขียน