รีเซต

รู้ทันมิจฉาชีพ! Free Wi-Fi กับดักดูดเงินตามที่สาธารณะ สนามบิน สถานีรถไฟ

รู้ทันมิจฉาชีพ! Free Wi-Fi กับดักดูดเงินตามที่สาธารณะ สนามบิน สถานีรถไฟ
Muzika
11 มกราคม 2568 ( 15:00 )
31

     ในยุคที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว Free Wi-Fi ตาม ร้านกาแฟ สนามบิน หรือ โรงแรม กลายเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าความสะดวกสบายนี้อาจกลายเป็นต้นทุนราคาแพงที่เราต้องจำไปตลอดกาล เรามา รู้ทันมิจฉาชีพ Free Wi-Fi กับดักดูดเงินตามที่สาธารณะ กันดีกว่า

 

รู้ทันมิจฉาชีพ! Free Wi-Fi
กับดักดูดเงินตามที่สาธารณะ สนามบิน สถานีรถไฟ

 

Free Wi-Fi ปลอมคืออะไร?

     Free Wi-Fi ปลอม หรือที่เรียกกันว่า Rogue Access Points เป็นเทคนิคที่มิจฉาชีพตั้งเครือข่าย Wi-Fi ขึ้นมาเลียนแบบชื่อ Wi-Fi ของสถานที่สาธารณะ เช่น “Airport_FreeWiFi” หรือ “CoffeeShop_WiFi” เมื่อคุณเผลอเชื่อมต่อเข้าไป มิจฉาชีพจะสามารถสอดแนมข้อมูลที่คุณส่งผ่านอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว รหัสผ่าน หรือรายละเอียดบัตรเครดิต

 

กลไกการทำงานของกับดัก Free Wi-Fi

1. สร้างเครือข่ายปลอม

     มิจฉาชีพมักตั้งชื่อเครือข่าย Wi-Fi ให้คล้ายกับชื่อที่คนมักใช้ในพื้นที่ หรือใช้ชื่อผู้ให้บริการเจ้าดัง หรือใช้ชื่อสนามบิน เช่น “Airport_FreeWiFi” โดยไม่มีรหัสผ่าน ทำให้ดูเหมือนเข้าถึงได้ง่าย

2. ดักจับข้อมูล (Data Interception)

     เมื่อคุณเชื่อมต่อ Wi-Fi ปลอมนี้ มิจฉาชีพสามารถใช้เทคนิค “Man-in-the-Middle” เพื่อดักจับข้อมูลระหว่างคุณกับเว็บไซต์ที่คุณเข้าถึง

3. ติดตั้งมัลแวร์

     บางครั้งมิจฉาชีพจะส่งไฟล์อันตรายเข้าสู่อุปกรณ์ของคุณ หรือเปิดหน้าต่างปลอมให้คุณกรอกข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน

 

ทำไมมิจฉาชีพถึงมักมุ่งเป้านักท่องเที่ยว?

  • นักท่องเที่ยวต้องการการเชื่อมต่อ : หลายคนเร่งหาสัญญาณ Wi-Fi เพื่อเช็กอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือแผนที่ออนไลน์
  • ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ : นักท่องเที่ยวบางคนอาจไม่คุ้นเคยกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์
  • ข้อมูลที่มีค่า : ข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลส่วนตัวของนักเดินทางถือเป็นสิ่งล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ

 

วิธีป้องกันตัวเองจากกับดัก Free Wi-Fi

  1. เลือกใช้เครือข่ายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
    ตรวจสอบชื่อ Wi-Fi กับพนักงานในสถานที่ เช่น โรงแรม หรือร้านกาแฟ เช็กให้แน่ใจก่อนเชื่อมต่อ

  2. หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมสำคัญ
    ห้ามใช้ Wi-Fi สาธารณะในการเข้าสู่ระบบธนาคารออนไลน์หรือทำธุรกรรมที่ต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิต

  3. เปิดใช้งาน VPN (Virtual Private Network)
    VPN ช่วยเข้ารหัสข้อมูลของคุณ ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถดักจับข้อมูลได้

  4. ปิดการเชื่อมต่ออัตโนมัติ
    ตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณให้ไม่เชื่อมต่อ Wi-Fi โดยอัตโนมัติ หรือกด Forget Network เมื่อเลิกใช้งาน เพื่อป้องกันการหลงเชื่อมต่อกับเครือข่ายปลอม

  5. อัปเดตอุปกรณ์และโปรแกรมป้องกันไวรัส
    การใช้งานระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยช่วยลดความเสี่ยงจากมัลแวร์และการโจมตีทางไซเบอร์

     มีรายงานว่าที่สนามบินหลายแห่งทั่วโลก นักเดินทางมักหลงเชื่อมต่อ Wi-Fi ปลอมที่ตั้งชื่อเหมือนเครือข่ายของสนามบิน ผลลัพธ์คือข้อมูลบัตรเครดิตถูกขโมย และบางกรณีมีการแอบใช้บัญชีโซเชียลมีเดียเพื่อปลอมตัวขอเงินจากเพื่อนของผู้เสียหาย

 

Free Wi-Fi อย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล

     ถึงแม้ Free Wi-Fi จะสะดวกสบายสำหรับนักเดินทาง แต่การใช้งานโดยไม่ระวังอาจนำไปสู่ความเสียหายทางการเงินและข้อมูลส่วนตัว ดังนั้น การปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสบายใจ และปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ การเดินทางคือการเปิดประสบการณ์ใหม่ แต่ก็ต้องระวังภัยที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายอย่างฟรีไวไฟ ไม่ว่าคุณจะเดินทางใกล้หรือไกล อย่าลืมว่าโลกออนไลน์ไม่ได้ปลอดภัยเสมอไป

====================