เชื่อว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ไม่ใช่วันหยุดยาวพอให้เดินทางไปเที่ยวไกลๆ อย่างต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้นั้น ชาวกรุงเทพฯ หลายๆ คนต้องเคยมีโมเม้นต์คิดไม่ตก ว่าจะไปไหนหรือทำอะไรเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศแก้อาการเบื่อบ้านดี ครั้นจะให้ออกไปเดินห้างช้อปปิ้งก็ไปบ่อยเสียจนแทบจะจำทุกซอกทุกมุมของห้างได้หมดแล้ว วันนี้เราเลยจะขอแนะนำที่เที่ยวที่จะทำให้ทุกคนได้หนีจากป่าคอนกรีต ไปสัมผัสกับธรรมชาติของจริง โดยไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล นั่นก็คือ ซาฟารีเวิลด์ นั่นเอง ต้องบอกไว้ก่อนว่าใน ซาฟารีเวิลด์ นั้นจะแบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนสวนสัตว์เปิด ซาฟารีปาร์ค ที่จะปล่อยให้สัตว์เดินอยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ได้อย่างอิสระ ซึ่งวิธีการเข้าชมส่วนนี้คือเราสามารถขับรถเข้าไปตามเส้นทางเพื่อชมสัตว์ชนิดต่างๆ ได้เองเลย และอีกส่วนคือ มารีนปาร์ค ซึ่งจะเป็นส่วนที่เราต้องเดินเข้าชมเท่านั้น โดยใน มารีนปาร์ค นี้จะมีทั้งส่วนของการแสดงโชว์ต่างๆ ที่จะจัดแสดงเป็นรอบๆ ตามตารางเวลา และส่วนที่เป็นสวนสัตว์ให้เราได้เดินชมสัตว์ชนิดต่างๆ โดยสัตว์จะอยู่ในบริเวณจำกัด ไม่ได้เปิดโล่งอิสระเหมือนซาฟารีปาร์ค โดยเมื่อเราไปถึงจุดซื้อตั๋วเข้าชม เราจะได้รับแจกตารางเวลาแสดงโชว์ต่างๆ ในฝั่งมารีนปาร์คมาด้วย เมื่อได้รับมาแล้วก็เล็งโชว์ที่เราอยากดูไว้ให้ดี เพราะถ้าเราเข้าชมมารีนปาร์คแบบไม่เต็มวันเราจะได้ดูไม่ครบทุกโชว์แน่ๆ เพราะบางโชว์จัดเวลาใกล้ๆ กันเลย ส่วนโชว์เด่นๆ ของฝั่งมารีนปาร์คที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดคือ โชว์โลมา เพราะที่ซาฟารีเวิลด์นี้เค้าฝึกเจ้าโลมาได้เก่งสุดๆ การแสดงนี้จึงเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ตลอด และระหว่างที่ว่างจากการชมโชว์ที่เล็งไว้ ก็อย่าลืมไปเดินเล่นดูเจ้าสัตว์แสนน่ารักต่างๆ กันล่ะ อีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ในโซนมารีนปาร์คก็คือการให้อาหารยีราฟ ที่เป็นจุดเช็คอินสุดฮิตสำหรับการมาเที่ยวซาฟารีเวิลด์ ที่เราจะได้ให้อาหารและถ่ายรูปกับเหล่ายีราฟอย่างใกล้ชิดสุดๆ ไปเลย ส่วนฝั่งซาฟารีปาร์คนั้นเป็นแบบฟรีสไตล์ เราจะขับรถเข้าไปชมเมื่อไหร่ก็ได้ภายในเวลาเปิดทำการคือ 09.00 – 17.00 น. แต่ก็ขอแนะนำว่าให้เผื่อเวลาอย่างน้อย 1 - 2 ชั่วโมง เพราะแม้ระยะทางที่จัดไว้ให้เราขับรถดูสัตว์ได้จะไม่ไกลนัก แต่รถส่วนมากก็จะขับกันช้าๆ เพื่อชมสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด บ้างก็หามุมจอดหลบเพื่อถ่ายภาพสัตว์ให้ได้ช็อตเด็ดๆ กัน รถจึงจะเคลื่อนตัวได้ค่อนข้างช้า ระหว่างเข้าชมส่วนนี้มีข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามให้อาหารสัตว์และห้ามลงจากรถเด็ดขาด โดยเฉพาะเมื่อเข้าโซนที่เป็นที่อยู่ของพวกสัตว์กินเนื้อต่างๆ อย่างเสือ สิงโต หรือ หมีนั้น ก็ยิ่งต้องระวังห้ามเปิดกระจกรถเพื่อถ่ายภาพเด็ดขาด ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกเบื่อเมืองกรุงฯ อยากออกไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ชิดกับสัตว์นานาชนิด ก็อย่าลืมนึกถึง ซาฟารีเวิลด์ กันล่ะ ที่ตั้ง: ซาฟารีเวิลด์ เลขที่ 99 ถนน ปัญญาอินทรา, แขวง สามวาตะวันตก, เขต คลองสามวา, กทม. ราคาบัตร: ผู้ใหญ่ 680 บาท เด็ก 580 บาท เป็นบัตรแบบเข้าชมได้ทั้งโซนซาฟารีปาร์คและมารีนปาร์ค ถ้าใครไม่สะดวกเที่ยวทั้งสองโซนภายในครั้งเดียว ก็มีบัตรแบบแยกโซนขายด้วยนะ ลองสอบถามที่ซุ้มขายตั๋วได้เลย