ปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร สวนอีเดนแห่งแอฟริกา ปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร (Ngorongoro Crater) คือ ปล่องภูเขาไฟรูปกระจาดขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีน้ำอยู่เสมอ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวนอีเดนแห่งแอฟริกา" ปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร (Ngorongoro Crater) มีรัศมีขยายออกกว้างกว่า 19 กิโลเมตร และมีพื้นที่เป็นผืนป่าประมาณ 264 ตารางกิโลเมตร" จนเคยมีผู้กล่าวว่าเป็นตู้ปลาของสัตว์ป่า เพราะบริเวณปากปล่องนี้เป็นที่อยู่ของสัตว์มากกว่า 30,000 ตัว จึงเป็นบ้านของสัตว์ป่าต่างๆ เช่น ไฮยีน่า, ม้าลาย, อิมพาลา, เสือชีต้า, ควายป่า, สิงโต, เสือดาว, แรด, ช้าง และฮิปโปโปเตมัส เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2494 ประเทศแทนซาเนียได้ประกาศตั้งอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park) ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติเซเรนเกติ (Serengeti National Park) ในทุกวันนี้กับพื้นที่อนุรักษ์โงรงโกโรในปัจจุบัน รวมถึงบริเวณโดยรอบที่ราบสูงปากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งพื้นที่อนุรักษ์ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของที่ราบที่มีต้นหญ้าเตี้ยๆ ทางตอนใต้ของที่ราบเซเรนเกติ (Serengeti Plain) และที่ราบสูงโงรงโกโร (Ngorongoro Highlands) ซึ่งเป็นภูเขาไฟโบราณขนาดใหญ่ที่ดับแล้วอยู่ทางตะวันตกของเกรทริฟต์แวลเลย์ (The Great Rift Valley) ขอบปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร (Ngorongoro Crater) สูงถึง 610 เมตร เหนือพื้นปล่องภูเขาไฟขึ้นมาถึง 2,286 เมตร จากระดับน้ำทะเล ที่สำคัญปล่องภูเขาไฟเป็นบ้านของแรดดำที่หายาก ทำให้การมาเยือนปล่องภูเขาไฟนี้น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากลักษณะที่ปิดล้อมของปล่องภูเขาจึงทำให้เกิดระบบนิเวศตามแบบฉบับของตัวเอง นอกเหนือจากทัศนียภาพที่น่าหลงใหลแล้ว สิ่งดึงดูดใจหลักๆ ของบริเวณเล็กๆ นี้ประการหนึ่งคือตลอดทั้งปีจะปรากฎความหลากหลายของพืชและสัตว์อันน่าทึ่ง ในมุมด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้มีป่าเลอไร (Lerai Forest) ซึ่งส่วนมากจะประกอบด้วยต้น yellow fever (พืชตระกูลอาเคเชีย) ทางด้านเหนือของป่าเป็นทะเลสาบโซดาตื้นที่เรียกว่าทะเลสาบมากาดิและทางตะวันออกผู้มาเยือนจะพบกับบึงโกริกอร์ (Gorigor Swamp) และน้ำพุ Ngoitokitok ที่อาจได้พบเห็นฮิปโปโปเตมัส ทางตอนเหนือของปล่องภูเขาไฟนั้นภาพรวมแล้วมีความแห้งแล้งกว่ามากและประกอบด้วยทุ่งหญ้าเปิดซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของปล่องภูเขาไฟ ที่นี่จึงเป็นที่ที่สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่แข่งขันกันเอาตัวรอด ปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร (Ngorongoro Crater) และพื้นที่อนุรักษ์นี้สามารถเข้าถึงได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะมีเที่ยวบินเป็นอากาศยานขนาดเล็กโดยสารจากดาร์ (Dar) ไปยังอารูชา (Arusha) ทุกวัน (ลานบินอื่นๆ ในประเทศแทนซาเนียก็มีเครื่องบินโดยสารไปที่อารูชา) ซึ่งผู้มาเยือนจะได้พบกับผู้นำเที่ยวซาฟารีด้วยรถซาฟารีแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4 x 4 แบบปิดด้านข้าง เปิดด้านบน) และเขาเหล่านั้นจะอยู่กับผู้มาเยือนตลอดเวลาที่เข้าไปในบริเวณปล่องภูเขาไฟดังกล่าว การขับรถจากอารูชา (Arusha) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อไปยังจุดเริ่มต้นของซาฟารีปล่องภูเขาไฟโงรงโกโร (Ngorongoro Crater Safari) อีกช่องทางหนึ่งคือการโดยสารเครื่องบินไปยังลานบินแมนยารา ซึ่งอยู่ห่างจากปล่องภูเขาไฟดังกล่าวประมาณหนึ่งชั่วโมง จริงๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้มาเยือนพักค้างคืน ณ สถานที่ใด หรือผู้มาเยือนได้ถูกผู้นำเที่ยวที่ให้บริการแบบขับรถให้นั่งส่วนตัวรับขึ้นมาจากจุดใด รูปภาพที่ 1/ รูปภาพที่ 2/ รูปภาพที่ 3/ รูปภาพที่ 4