ฉลองรับอินเดียฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า ด้วย 15 ที่เที่ยวสวยทั่วอินเดีย ใครมีแพลนจะไปแวะมาทางนี้ก่อนได้ค่ะ จริงๆ แต่ล่ะเมืองของอินเดียนั้นจะมีสถานที่ท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะและค่อนข้างสวยงามเกินกว่าที่คนไทยจะคิด ซึ่งในบทความนี้เราจะเน้นมาแค่ 15 ที่ทั่วอินเดียแบบที่ไปแล้วเราชอบมาก ถ่ายรูปสวยดูมีอะไรๆ คุ้มกับค่าเข้าชม เอาล่ะค่ะเราไปดูกันดีกว่าว่า 15 ที่ที่ว่านั้นจะมีที่ไหนบ้าง 1. Akshardham - New Delhiอักชาร์ดราม หรือ วัดอักษราดารามห์ สำหรับเรา เราให้ที่นี่คือเดอะเบสของอินเดียเลย อลังการจนขนลุก ที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ที่แท้จริงของนิวเดลี เราจะไม่ค่อยเห็นรีวิวจากคนไทย เพราะคนไทยเน้นถ่ายรูปจึงอาจจะไม่โดนใจที่นี่ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นโบสถ์พราหมณ์ ศาสนาฮินดู ถือเป็นศูนย์รวมด้านจิตวิญญาณและวัฒนธรรมจึงห้ามถ่ายรูป เราสามารถถ่ายจากด้านนอกแต่มันก็ไม่ค่อยเห็นนะ หรือถ่ายจากสถานีรถไฟฟ้า ไกลนะแต่ยังเห็นอยู่ ภายในมีพื้นที่กว้างมาก มีจิตกรรม และถ้าเราช่วงพระอาทิตย์กำลังจะตกเราจะเห็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีฉากหลังเป็นแสงสีทองคือสวยมาก ตัวเราเองก็ขอยกให้ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยและอเมซิ่งที่สุดไปเลย2. Red fort - New Delhiป้อมแดงหรือก็คือ Red fort ป้องปราการสีแดงที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่เดลี ที่นี่คนไทยจะได้รับส่วนลดค่าเข้าชมสถานที่เพียงแค่แสดงพาสปอร์ตไทยจะได้ราคาที่ลดลงเหลือ 35 - 50 รูปี ไม่แน่ใจว่าปี 2024 ( ราคาอาจมีปรับเปลี่ยนไปตามเวลา ) ที่เที่ยวในนิวเดลีจะโดดเด่นตรงที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ( Metro ) ได้ด้วยตัวเองได้เลย สำหรับป้อมแดงนี่ให้เราใช้เมโทสายสีม่วงไปลงที่สถานี Lal Quila ( ลาคิวล่า ) จริงๆ แล้วในอินเดียมีระบบรถไฟฟ้ากระจายอยู่หลายเมือง อาจไม่ทุกเมืองแต่มันกระจายๆ กันไป เช่น นิวเดลี นอยด์ดา กาซิอาบัด อัครา ( วิ่งผ่านแค่ทัชมาฮาลและป้องอัครา ) อาห์เมดาบัด ลัคเนาว์และชัยปุระเป็นต้น จะไปเมืองไหนลองเช็กเส้นทางก่อนได้ เพราะรถไฟฟ้าบ้านเขาสะดวกสบายไม่แพ้ของไทย แถม 2 ตู้โดยสารหน้าจะเป็น Women Only ด้วยค่ะhttps://intrend.trueid.net/post/4077223. Taj mahal - Agraทัชมาฮาล จุดหมายยอดนิยมของนักเดินทาง เพราะว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เรียกกันว่าคืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก ที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าชาห์ จาฮานเพื่อนางผู้เป็นที่รักยิ่งอย่าง มุมตาซ มหัล และด้วยความสมัยก่อนไม่มีเครื่องจักรแต่ก็ยังสามารถสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการได้ทำให้ที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก สำหรับค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติ 1,100 รูปี ส่วนคนไทยได้รับส่วนลด Bimstec เหลือ 740 รูปี และทัชมาฮาลจะปิดทุกวันศุกร์นะคะ4. Agra Fort - Agraอีกหนึ่งป้อมปราการสำคัญของอินเดีย ป้อมอัคราหรือบางคนก็เรียกว่าป้อมแดง เป็นป้อมปราการที่กว้างใหญ่แต่ไม่ค่อยมีร่มไม้เท่าไร เราอาจจะหลบแดดได้ภายในสถาปัตยกรรมเท่านั้นแต่ไอร้อนจากแดดก็ยังคงส่งผ่านอิฐและพื้นมาถึงเรา แต่ภายในจะดูอลังการสมกับเป็นที่ประทับของจักพรรดิ์หุมายูงแห่งราชวงศ์โมกุลเลย ค่าเข้าชมของคนไทยเช่นเดิมคือได้รับส่วนลด Bimstec เหลือ 90 รูปี5. Baby Taj -Agra เบบี้ทัชจะมีค้าโครงหลายๆ อย่างเหมือนทัชมาฮาล ใช้หินอ่อนเหมือนกันแต่ต่างกันที่ตรงนี้จะมีอัญมณีจริงฝั่งลงไปด้วย แต่ปัจจุบันจะมีการนำอัญมณีจริงนั้นออกไปแล้ว และเช่นเดิมที่นี่ก็เป็นสุสานเช่นกันเป็นที่ฝังพระศพของอิติมาดุดดาวลอห แต่ว่าที่นี่จะบรรยากาศดี ติดริมแม่น้ำยุมนามีลม คนจะไม่จอแจเท่าทัชมาฮาลและค่าเข้าชมก็เบามากอยู่ที่ 30 รูปี ( ราคาของ bimstec )อ่านต่อ แจกแพลนเที่ยว อัครา Agra India ด้วยตัวเอง 6. lake of city - Udaipurอุไดปูร์ เมืองแห่งทะสาป หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ เวนิชอินเดีย เป็นเมืองสีขาวกลางน้ำที่ถูกขนานนามว่าโรแมนติกที่สุดในอินเดีย เมืองนี้ตั้งอยู่รัฐราชาสถาน สามารถนั่งรถไฟตรงจากชัยปุระไปได้ การเที่ยวชมที่นี่ค่อนข้างง่ายเพราะสามารถเดินไปสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ถ่าจะเที่ยวชมรอบนอกอาจจะต้องเหมารถตุ๊กๆ หรือแท็กซี่ แต่ถ้าใครขับมอไซค์ได้และมีใบขับขี่สากลก็สามารถเช่าได้ มีร้านเช่ามอไซค์หลายร้านเลย7. Jaisalmer fort - Jaisalmerป้อมจัยซัลแมร์หรืออีกชื่อคือ “โชน่าคิวลา” ( Sonar Quila ) เป็นภาษาเบงกอลที่มีความหมายว่า “ป้อมทองคำ” และในปัจจุบันก็รู้จักดีกันในอีกชื่อว่า โกล'เดิน ฟอร์ท ( Golden Fort ) ป้อมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองจัยซัลแมร์ หรือที่คนไทยส่วนใหญ่จะเรียกว่า "จัยซัลเมอร์" ซึ่งอยู่ในรัฐราชาสถาน ภายในป้อมจัยซัลแมร์ก็มีสถาปัตยกรรม วัดและฮาเวลีอยู่เยอะ นอกจากนี้ป้อมแห่งนี้ยังถูกจัดให้เป็นหนึ่งในป้อมปราการไม่กี่แห่งที่ได้ชื่อว่าเป็น "ป้อมปราการที่มีชีวิต" สาเหตุที่เรียกขานกันแบบนั้นก็เพราะสัดส่วนประชากรหนึ่งในสี่ของโซนเมืองเก่านั้นยังคงอาศัยอยู่ภายในป้อมนั่นเองพารู้จัก Jaisalmer ( จัยซัลแมร์ ) เมืองสีทองแห่งราชาสถาน8. Mehrangarh fort - Jodhpurป้อมเมห์รานการ์ ตั้งอยู่ที่จอร์ดปูร์ เมืองสีฟ้าของราชาสถาน ราชาสถานนั้นเป็นเมืองแห่งสีสันคัลเลอร์ฟูล มีทั้งเมืองสีขาว อุไดปูร์ เมืองสีทอง สีสีแดง เมืองสีชมพูและเมืองสีฟ้า จอร์ดปูร์ เมืองจอร์ดปูร์นั่นมีที่เที่ยวค่อนข้างเยอะนะคะ แต่ที่ยกมาแค่ที่เดียวเพราะใช้ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ เลยค่ะ ที่แห่งนี้เหมาะกับคนชอบสถาปัตยกรรม และร่างกายไหว ถึงแม้เราจะสามารถนั่งรถไฟยังหน้าป้อมได้แต่พื้นที่ภายในก็ยังเป็นเนินเขาดังนั้นบางช่วงเราจะเหมือนเดินขึ้นเนินสูงสลับกับที่ราบ หนำซ้ำจอร์ดปูร์นั้นเป็นละติจูดที่รับแดดแบบเที่ยงวันตลอดเวลา ยิ่งไปหน้าหนาวอากาศหนาวแต่แดดร้อน บวกกับเดินเหนื่อยอีก อาจจะล้าและป่วยได้ แนะนำให้เตรียมร่างกายไปนิดหนึ่ง สำหรับที่นี่ไม่มีส่วนลดใดๆ จ่ายเต็มในราคา 650 รูปี ถ้ามีกล้อง DSLR ด้วยก็บวกเพิ่มอีก และถ้าถ่ายวิดีโอด้วยก็จะเก็บค่าถ่ายวิดีโอด้วยอีก และนำโดรนรวมถึงขาตั้งกล้องเข้าไปไม่ได้นะคะ 9. Rampuria Haveli - Bikanerบิคาเนอร์ หรือพิฆาเนส เป็นเมืองสีแดงที่ตั้งอยู่ในราชาสถาน ไม่ค่อยถูกพูดถึงมากในประเทศไทย แต่จริงๆ แล้วเมืองนี้ใกล้กลับชัยปุระมากกว่าเมืองอื่นเลยนะโดนเด่นในเรื่องอาคารเก่าแก่มาในโทนสีแดง สวยชิคไปอีกแบบ แต่ถ้าเทียบกับชัยปุระ อุไดปูร์ จอร์ดปูร์ จัยซัลแมร์แล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่าที่นี่สวย ค่าครองชีพถูก แต่ความสะอาดไม่ค่อยดีเท่าเมืองอื่นๆ ในรัฐราชาสถาน10. Hawa Mahal - jaipurขยับมาเมืองยอดฮิตอย่างชัยปุระบ้าง มาที่นี่แล้วต้องไม่พลาด "ฮวามาฮาล" หรือ "พระราชวังแห่งสายลม" ฟังชื่อแล้วก็ชวนคิดว่าน่าจะเป็นที่ประทับที่ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องมีความสุข อิสระดั่งเช่นลมที่พัดผ่านไปมาได้ แต่อันที่จริง ที่นี่คือที่สำหรับนางสนม และนางสนมเหล่านี้เมื่อยินยอมมาเป็นสนมแล้วจะต้องอยู่ที่ไปตลอดชีวิตโดยไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เลย จะไปเดินเที่ยวเล่นชมเทศกาลเป็นครั้งคราวก็ไม่ได้เลย แต่เพื่อไม่ให้เหล่านางสนมเบื่อหน่ายหรือตรอมใจเลยสร้างหน้าต่างไว้เยอะๆ เพื่อให้พวกเธอสามารถมองโลกภายนอกได้นั่นเอง เหมือนจะใจดีนะแต่ก็คือกักขังนั่นแหละ แต่ในสาวๆ บางคนก็เป็นการยินยอมนำอิสระมาแลกความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนะ ตัดเรื่องประวัติความเป็นมาออกก็จัดว่าเป็นที่เที่ยวที่สวยและน่าไปถ่ายรูปด้วยมาก โดยเฉพาะช่วงที่เปิดไฟคือสวยมากจริงๆ 11. Patrika Gate - jaipurประตูปาตริกาเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คดังของเมืองจัยปูร์ หรือชัยปุระ ไม่มีค่าเข้าชม เพราะเป็นซุ้มประตูตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง สาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปกับชุดเดรสสวยๆ ต้องไป แต่จริๆ จะเพศไหนก็ไปได้ เพราะถ่ายรูปสวยจริงทั้งสายพอร์ตเทรจและแลนด์สเครป 12. Golden temple - Amritsar ไปทางเหนือกันบ้างที่เมืองอัมริตสาร์ ซึ่งเมืองนี้จะโดดเด่นที่วัดสีทอง หรือก็คือ "วิหารทองคำ" ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจแห่งศาสนาของชาวซิกข์ บรรยากาศภายในค่อนข้างดีมาก ไม่มีค่าเข้าชมแต่ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้าฝากไว้ที่จุดรับฝาก และจุดรับฝากค่อนข้างโอเคอยู่ นอกจากนี้ยังต้องโผกศีรษะ ถ้าไม่อยากใช้ผ้าต่อจากคนอื่นสามารถนำผ้าไปเองได้ ภายในเราสามารถถ่ายรูป สักการะ หรรือทานอาหารฟรี จะมีโรงทาน และมีที่พักฟรีด้วยนะ แต่สำหรับที่พักทางเราไม่ได้ใช้บริการอยู่ตรงไหนของวิหารทองคำอาจจะต้องไปสอบถามกันอีกทีhttps://intrend.trueid.net/post/40458213. เส้นทางรถไฟสายมรดกโลก เกากา-ชิมลา Shimla, Himachalต่อไปทางเหนือแต่ไม่ใช่โซนแคชเมียร์ เป็นโซนหิมาจัล โซนนี้สวยไม่แพ้แคชเมียร์แต่อันตรายน้อยกว่า ที่บอกว่าอันตรายไม่ใช่มิจฉาชีพเยอะหรือคนใจร้ายเยอะนะ แต่แคชเมียร์นั้นจะขึ้นชื่อเรื่องสวรรค์บนดิน นอกจากที่มาจะมาจากความสวยเกินความบรรยายแล้วมันยังมาจากความสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากจนทำให้ออกซิเจนบนนั้นน้อยมาก หากไม่เตรียมร่างกายให้ดีอาจจะแพ้ความสูง หายใจไม่อิ่ม เวียนหัว อาเจียนหรือหัวใจหยุดเต้น แต่หิมาจัลจะอยู่สูงกว่าน้ำทะเลเช่นกันแต่ไม่มากเท่าแคชเมียร์ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องออกซิเจน แต่ก็ไม่ควรเดินไวหรือวิ่งไว เพราะยังคงเป็นพื้นที่ที่สูงกว่าน้ำทะเลซึ่งอาจทำให้เหนื่อยง่าย นอกจากจะโดดเด่นเรื่องธรรมชาติแล้วโซนนี้ยังมี เส้นทางรถไฟสายมรดกโลก เกากา-ชิมลา Kalka-Shimla เป็นรถไฟทอยเทรนวิ่งผ่านขึ้นเขาไปเรื่อยๆ วิวสวยมาก 14. The Ridge - Shimla, Himachalไหนๆ ก็นั่งรถไฟขึ้นไปแล้วก็พาชมความสวยของเมืองชิลมา ถ้าพักบริเวณ Mall Road จะง่ายต่อการเดินทางเที่ยว เมืองนี้จะดูมีความเป็นยุโรปนิดๆ เพราะสมัยอาณานิคมนั้นอังกฤษเป็นคนบูรณะเมืองนี้และชูโรงว่านี่ ชิมลาคือราชินีแห่งขุนเขาแห่งหิมาจัลที่ควรค่าแก่การมาเยือนเพื่อดึงนักท่องเที่ยว แต่ปัจจุบันนี้มีเขาสวยป็อปปูล่าขึ้นมากมายทำให้คำว่า "ราชินีแห่งขุนเขา" ถูกนำไปใช้เป็นนามสกุลเขาอื่นๆ ด้วยเช่น ดาร์จีลิ่ง ราชินีแห่งขุนเขแห่งอินเดีย เป็นต้น บรรยากาศชิลมากและถ่ายรูปสวยสุดพลัง แต่ชิมลามีอีกชื่อหนึ่งคือ เซเว่นฮิลล์แห่งชิมลา ที่มาของชื่อคือ หมู่บ้านของชิมลานั้นต้องอยู่บนเขาโดยกินพื้นที่เขาทั้งหมด 7 ลูก เมื่อมันอยู่บนเขา เราจะเหมือนเดินขึ้นเขาแต่เป็นเขาที่ลาดยางมีถนนแล้วแค่นั้นเอง อาจจะต้องฟิตร่างกายเช่นกัน แต่มันสวยจริง15. Varanasiปิดท้ายไปด้วยวาราณสี หรือที่คนไทยเรียกว่าพาราณสี เป็นเมืองเก่าแก่ ดูเก่า ชนบทก็จริง แต่อย่าได้ดูถูกนอกจากเที่ยวชมวัดแล้วสายคาเฟ่ฮอปปิ้งก็ลั้นลาได้ เพราะมีคาเฟ่สวยบริเวณท่าน้ำเยอะ อ่อ! แล้วอย่าพูดว่าใช้น้ำคงคามาชงหรือเปล่านะ จากที่ไปมาขอบอกว่า คนอินเดียเขาก็รู้จักเครื่องกรองน้ำกันนะคะ และน้ำขวดก็เขาถึงทุกย่อมย่านค่ะ เราสามารถไปตระเวนชมวัดแถวสารนาทซึ่งมีทั้งวัดไทย เนปาล ฮินดู วัดญี่ปุ่นก็มีค่ะ หรือถ้าไม่ใช่สายบุญสามารถเดินชิลๆ นั่งเรือเล่นได้ ตอนเราไปเรืออยู่ที่ชั่วล่ะ 200 รูปี อาจมีปรับเปลี่ยนไปตามเวลาเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ชิลมากและนี่ก็ 15 ที่เที่ยวที่สวยโดนใจเราจนอยากแนะนำ ใครกำลังวางแผนเที่ยวสามารถนำไปเป็นตัวเลือกในการพิจารณาได้นะคะ สุดท้ายนี้ใครชอบใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลย หรือแวะหรือติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะhttps://x.com/supamas_kpr/status/1808052560747761748เรียบเรียงเนื้อหา ภาพและวิดีโอโดย หญิงเถื่อน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !