หากคุณอยู่กรุงเทพฯ มีเวลาพักผ่อนแค่หนึ่งวัน และอยากหาที่เที่ยวเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ในวันสบายๆ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดี เรามีหนึ่งทางให้พิจารณาด้วย "รีวิว เที่ยวกรุงเทพ จุดถ่ายรูปสวย one day trip" คลองบางหลวง - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร - จุดชมใบหยกสกาย เพราะได้ทั้งความสนุก ได้รูปถ่ายหรือวิดีโอสวยๆ ยังได้สาระความรู้เกี่ยวกับสถานสำคัญของกรุงเทพฯ อีกด้วย คลองบางหลวง8.30 น.เราเริ่มต้นทริปด้วยคลองบางหลวง บริเวณที่เรียกว่าตลาดน้ำคลองบางหลวง เขตภาษีเจริญ เดินทางด้วยรถยนต์ขับมาจอดไว้ที่วัดคูหาสวรรค์ แล้วเดินต่อไปอีกนิดหน่อยความน่าสนใจของคลองบางหลวง คือ ในสมัยธนบุรีเป็นราชธานีคลองแห่งนี้เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญ และเป็นย่านที่ขุนนางอาศัยอยู่ ซึ่งยังมีอาคารเก่าถึงแม้จะไม่เก่าเท่าในสมัยธนบุรีแต่ก็ถือว่าได้อารมณ์ความเป็นย่านเมืองเก่าบรรยากาศแถวนี้เป็นชุมชนริมคลองที่เงียบสงบ บ้านแบบเก่าและสมัยใหม่ปะปนกัน มีคนให้อาหารฝูงปลาในคลอง และทุกๆ 10 นาที มักจะได้ยินเสียงเรือหางยาวแล่นมาเสียงดังอื้ออึง สลับกับเรือท้องแบนที่ชาวบ้านพายมาเอื่อยเฉื่อย ดู slow life ตัดกับถนนเพชรเกษมที่จอแจด้วยรถยนต์เป็นอย่างยิ่งเราแวะหาเครื่องดื่มเย็นๆ ดื่ม และเดินเล่นชมบรรยากาศริมคลองไปเรื่อยๆ จนเดินไปพบกับบ้านศิลปิน ซึ่งเป็นสถานที่แสดงและจำหน่ายงานศิลปะแขนงต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแสดงหุ่นละครเล็ก ที่จะแสดงทุกวันในเวลา 14:00 น. หากไม่ติดงานแสดงที่อื่น หรืออาจจะเดินชมบรรยากาศภายในบ้านให้ความรู้สึกย้อนยุค และเก็บภาพบรรยากาศที่หาชมได้ยากแล้วในสมัยนี้ก็ดีไม่น้อย และยิ่งรู้ว่าอดีตบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่ามีมนต์ขลังและน่าหลงใหลจุดถ่ายรูปแนะนำคือบริเวณสะพานข้ามคลองและริมคลอง ถ้าจะให้ดีควรรอจังหวะเหลือแล่นผ่านแล้วให้มีฉากหลังเป็นบ้านเก่าไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่จะกินดื่ม หรือหาซื้อของที่ระลึกเวลาเปิด-ปิดของบ้านศิลปินจันทร์ อังคาร 10.00-18.00พุธ พฤหัส ศุกร์9.00-18.00เสาร์ อาทิตย์ 9.00-19.00พิกัดบ้านศิลปินและคลองบางหลวงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร11.00 น.เราออกจากคลองบางหลวงขับรถไปต่อยังฝั่งพระนครที่พิพิธภัณฑ์ฑสถานแห่งชาติ พระนคร หรือวังหน้าในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ จอดรถในบริเวณนั้นแล้วซื้อบัตรผ่าน ที่อยากมาที่นี่เพราะจะมาทบทวนความทรงจำเมื่อครั้งยังมาทัศนศึกษาสมัยประถมโดยรอบเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างศิลปะไทยวิจิตรงดงาม เป็นโบราณสถานที่ถ้าไม่บอกว่าสร้างมานานสองร้อยปีคงจะไม่เชื่อ เพราะยังคงความงามราวกับเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ เช่น พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระตำหนักแดง ศาลาสำราญมุขมาตย์ ศาลาลงสรง พระที่นั่งมังคลาภิเษก พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ตลอดจนนิทรรศการ โบราณวัตถุต่างๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประวัติศาสตร์ชาติไทยในแต่ละยุคสมัยได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งสร้างความประทับใจและเหมือนได้ย้อนความหลังกลับไปตอนเด็กอีกครั้งจุดถ่ายรูปสวยๆ ที่แนะนำคือ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ด้านนอกนอกถ่ายตามแสงโดยหามุมที่พระอาทิตย์อยู่ด้านหลัง จะได้สีสันสดใส ด้านถ่ายเก็บภาพพระพุทธสิหิงค์และจิตรกรรมฝาผนัง เวลาเปิด-ปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. (ยกเว้นเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์)ค่าเข้าชมคนไทยคนละ 30 บาท ชาวต่างชาติคนละ 200 บาทยกเว้นค่าเข้าชม : เด็ก / นักเรียน / นักศึกษา / ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป / พระสงฆ์ / สมาชิก ICOM ICOMOSพิกัดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครจุดชมวิวใบหยกสกายมาถึงที่เที่ยวสุดท้ายของทริปนี้ เรามาจบทริปกันที่จุดชมวิวตึกใบหยก หรือใบหยกสกาย เขตราชเทวี ในโรงแรมใบหยกสกาย จอดรถเสร็จก็มาซื้อตั๋วที่ชั้น1 ราคาคนละ 400 บาท ขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงไปยังชั้น 77 โดยใช้เวลาเพียงนาทีกว่าๆ อย่างนิ่มนวลเรามาชมวิวและส่องกล้องทางไกลอย่างเพลิดเพลิน จากนั้นเปลี่ยนลิฟต์ต่อไปยังชั้น 83 และเดินขึ้นอีกหนึ่งชั้นไปยังดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นหมุนชมวิวกรุงเทพฯ ได้ 360 องศา และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตาทั้งถนนตึกระฟ้าน่าตื่นตาตื่นใจเราหย่อนใจอยู่บริเวณนี้จนเริ่มมืด เพื่อเก็บภาพกรุงเทพฯ ยามค่ำคืนที่สวยงาม เห็นสีสันของตึกรามบ้านช่องและแสงไฟบนท้องถนนสวยงามแปลกตา จากนั้นก็ลงมาชั้น 83 หาอะไรเย็นๆ ดื่มก่อนกลับเวลาเปิด-ปิด10:00 - 02:00 น.ค่าเข้าชม คนละ 400 บาทพิกัดจุดชมวิวตึกใบหยกสรุปค่าใช้จ่ายต่อคนโดยประมาณของทริปนี้ ได้แก่ ค่าเครื่องดื่มที่คลองบางหลวง 50 บาท ค่าตั๋วพิพิธภัณฑ์ฯ 30 บาท ค่าขึ้นชมวิวตึกใบหยก 400 บาท (ค่าน้ำมันไม่นับ 555) รวมทั้งสิ้น 480 บาท เราไปกับคนรู้ใจอีกคนรวมเป็นสองก็เป็น 960 บาทภาพถ่ายทั้งหมดโดยครีเอเตอร์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !