เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ที่ผ่านมาผู้เขียนได้ไปเยือนดินแดน 2 ทวีป ดินแดนในฝันของนักเดินทางหลายๆ คน นั่นก็คือประเทศตุรกี ประเทศตุรกีเป็นดินแดนที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ยาวนาน และเมืองในฝันของผู้เขียนที่สวยงามมากๆ ในตุรกีก็คือเมืองคัปปาโตเกีย (Cappadocia) เมืองคัปปาโตเกีย (Cappadocia) ถือเป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นมรดกโลก เมืองคัปปาโตเกียเป็นดินแดนที่สวยงาม สามารถมองเห็นทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ นอกจากนี้เมืองแห่งนี้มีลักษณะเป็นหุบเขา ผู้คนในสมัยก่อนจะทำการขุด เจาะ เขาและถ้ำให้เป็นที่อยู่อาศัย ให้ความอบอุ่นเวลาหนาว และใช้หลบศัตรูในสมัยสงคราม ปัจจุบันก็ยังมีบางส่วนที่มีผู้คนอาศัยอยู่และได้ดัดแปลงให้เป็นโรงแรมถ้ำให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมและเข้าพักอาศัย ผู้เขียนเข้าพักที่โรงแรมถ้ำที่มีชื่อว่า Exedra Hotel Cappadocia ช่วงที่ผู้เขียนไปฝนตกก็ยังลุ้นว่าวันรุ่งขึ้นจะได้ขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโตเกียหรือเปล่า เรื่องบอลลูนเดี๋ยวผู้เขียนมาเล่าให้ฟังนะคะ ตอนนี้ขอพูดถึงโรงแรมและห้องพักเสียหน่อยเพราะว่ามันสวยเกินกว่าที่ผู้เขียนคิดจนอยากบรรยายให้ทุกคนได้เห็นกันเลยค่ะ โรงแรมถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินสูงบนภูเขา ถ้าท่านใดมาพักแนะนำให้นำกระเป๋าใบเล็กมาด้วยนะคะเพราะพื้นที่ไม่เหมาะสำหรับลากกระเป๋าใบใหญ่สักเท่าใด และห้องพักก็มีทางค่อนข้างซับซ้อน บางห้องก็ต้องขึ้นบันไดไปอีกหลายชั้นเลยค่ะ ในส่วนของห้องพักตอนแรกผู้เขียนคิดว่าต้องเป็นห้องเล็กๆ แคบๆ สไตล์ถ้ำ แต่เมื่อไปถึงพบว่าหรูหรา สะดวกสบายกว่าที่คิดไว้มากค่ะ มีห้องนั่งเล่นภายในห้อง ห้องน้ำกว้างขวาง ห้อนนอนเตียงก็กำลังพอดีหลับสบาย อากาศเย็นสบาย ซึ่งภายในห้องพักแต่ล่ะห้องจะตกแต่งไม่เหมือนกันนะคะ ภายนอกโรงแรมสามารถเดินถ่ายรูปได้ทุกมุมสวยทุกมุมเลยค่ะ ถ้าขึ้นไปชั้นบนสุดของโรงแรมในตอนเช้าสามารถถ่ายรูปบอลลูนที่ลอยผ่านมาได้ชัดเจนด้วยนะคะ ถ้าอากาศดีๆ ถ่ายรูปท่ามกลางบอลลูนที่ลอยผ่านมาได้สวยงามมากค่ะ แต่เสียดายวันที่ผู้เขียนไปอากาศไม่ดีบอลลูนจึงขึ้นได้แค่ 30 นาทีทำให้ลอยมาไม่ถึงโรงแรมค่ะ เสียดายมาก หลังจากที่ทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของโรงแรมเรียบร้อยแล้วก็จะนั่งรถบัสไปชมการเต้นระบำหน้าท้องตุรกีที่ถือว่าเป็นการเต้นรำที่เก่าแก่ที่สุดอย่างนึงเลยก็ว่าได้ค่ะ ในการชมการเต้นระบำหน้าท้องก็จะมีเสิร์ฟของว่างพร้อมเครื่องดื่มทั้งมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ให้ดื่มอย่างไม่อั้นเลยค่ะ เหมาะสำหรับนักดื่มกันเลยทีเดียว หลังจากชมโชว์จบก็ได้เวลากลับโรงแรมพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวตื่นแต่เช้าไปขึ้นบอลลูนกันค่ะ ผู้เขียนตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปขึ้นบอลลูน ท้องฟ้าไม่โปร่งใสเลยวันนี้ถามไกด์ก็บอกว่าขึ้นได้ ขึ้นก็ขึ้นทำไงได้จ่ายค่าขึ้นบอลลูนไปแล้วคนล่ะ 230 USD แต่ถ้าท่านใดไม่อยากขึ้นบอลลูนก็สามารถนั่งรถ Jeep Safari ลัดเลาะตามแกรนด์แคนยอนได้นะคะค่าบริการคนล่ะ 120 USD แต่มาถึงเมืองคัปปาโตเกียทั้งทีก็ต้องขึ้นบอลลูนสิค่ะแนะนำเลย สำหรับท่านใดที่จองขึ้นบอลลูนกับไกด์จะมีรถของทางบริษัทที่ทำการจองบอลลูนมารับที่โรงแรมช่วงตีห้า พอไปถึงจุดขึ้นบอลลูนทางบริษัทก็เตรียมบอลลูนให้เราขึ้นรวมกันทั้งกลุ่ม กลุ่มที่ไปด้วยกันมีประมาณ 10 คน วันที่ขึ้นเสียดายอากาศไม่ดีเลยขึ้นได้แค่ 30 นาที ยังไม่ทันเห็นอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ บอกตรงๆ เสียดายแต่ก็ถือเป็นประสบการณ์อย่างนึงค่ะ สนุกไปอีกแบบ พอลงมาทางบริษัทก็จะมีไวน์ให้ดื่มเต็มที่ ถ้าท่านใดอยากได้รูปถ่ายตอนเราอยู่บอลลูนก็ต้องเสียเงินเพิ่มซึ่งราคาแล้วแต่เราจะตกลงกันนะคะ สำหรับในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศตุรกีการเดินไปในแต่ล่ะเมืองใช้เวลาค่อนข้างนาน 3-4 ชม. เป็นอย่างต่ำ ถ้าท่านใดจองตั๋วเครื่องบินภายในก็จะสามารถย่นระยะเวลาในการเดินทางได้ดีพอสมควร แต่ถ้าท่านใดอยากชมวิวข้างทางของแต่ล่ะเมืองก็นั่งรถบัสแบบผู้เขียนรับรองว่าเบื่อการนั่งรถชมวิวไปอีกนานพอสมควรเลยค่ะ ผู้เขียนเดินทางไปกับทัวร์ที่เมืองไทย ถ้าท่านใดไปเองสามารถเหมาทัวร์ได้ที่ตุรกีเลยค่ะ ค่าเงินตุรกีเป็นสกุลลีร่าใหม่ตุรกี (TRY) สามารถใช้เงินสกุล USD และ EUR ได้ค่ะ แต่ถ้าเวลาไปเที่ยวที่เป็นแถบพื้นเมืองแนะนำให้แลกเงินสกุล TRY ล่วงหน้าไปก่อนดีกว่าค่ะเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการทอนเงินต่างสกุล ท่านใดทานอาหารค่อนข้างยากหรือกลัวเบื่อแนะนำให้พกอาหารจากไทยเราไปด้วยนะคะ เช่น มาม่า น้ำพริก เป็นต้น อยู่หลายวันประกอบกับเจออาหารตุรกีที่เหมือนเดิมแทบทุกวันรับรองผอมกลับมาแน่นอนค่ะ เครดิตภาพประกอบทั้งหมดโดย Pudploy (ผู้เขียน)