ปลายปีแบบนี้เชื่อว่า "เชียงใหม่" คงเป็นจังหวัดยอดฮิตของใครหลายคนที่ต้องการใช้เวลาวันหยุดยาวเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน วันนี้เราเลยจะมาแชร์ทริปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน ให้เพื่อนๆ ไว้เป็นไอเดียจัดทริปเที่ยวรับลมหนาวที่เชียงใหม่กัน และในการเดินทางทุกครั้งเรามักจะเลือกวางแผนการเดินทางโดยมีตัวช่วยดีๆ อย่าง Klook แพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการทางการท่องเที่ยว ที่มีโปรโมชั่นราคาดีออกมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะจองเที่ยวบิน โรงแรม เช่ารถ หรือกิจกรรมต่างๆ จองง่าย สะดวก ครบจบไม่ต้องจองหลายแอปฯให้ยุ่งยาก วางแผนจองที่พัก-กิจกรรมกับโปรสุดคุ้มผ่าน Klookขั้นแรกเลยให้เพื่อนๆ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Klook มาก่อน โดยใช้ได้ทั้งระบบ IOS และระบบ Android เลย หรือว่าจะเลือกจองผ่าน Website ก็ได้ค่ะดาวน์โหลดระบบ IOSดาวน์โหลดระบบ Androidหลังจากที่ดาวน์โหลดแอปทำการ Log In เข้าระบบให้เรียบร้อย โดยทริปนี้เราเลือกพักที่โรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ เพราะที่ตั้งโรงแรมอยู่ในทำเลดี ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากสนามบิน ขั้นตอนการจองก็ไม่ยากตามนี้เลย1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อโรงแรมและที่พัก 2.พิมชื่อโรงแรม U Nimman Chiang Mai หรือกดที่นี่ > U Nimman Chiang Mai เลือกวันที่จะเข้าพัก3.เลือกประเภทห้องพัก และกด จองตอนนี้ 4.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และหากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อยรอรับอีเมลยืนยันการจองได้เลย และอีกหนึ่งกิจกรรมที่อยู่ในแพลนการเดินทางเที่ยวเชียงใหม่ในครั้งนี้คือ การไปลองใช้ชีวิตอยู่กับช้างครึ่งวันที่ ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ซึ่งที่นี่เค้าจะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสใกล้ชิดกับช้าง ไม่ใช่แค่การป้อนอาหาร ป้อนผลไม้ แต่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งกิจกรรมดีๆแบบนี้ก็สามารถจองผ่านแอปพลิเคชั่น Klook ได้เช่นกัน ตามขั้นตอนดังนี้1.เข้าแอปพลิเคชั่น Klook กดเลือกหัวข้อ กิจกรรมและบริการ2.พิมชื่อ บัตรเข้าปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี 3.เลือกวันที่ทำกิจกรรม เลือก จองตอนนี้ จากนั้น สามารถระบุได้ว่าจะเลือกเป็นกิจกรรมแบบครึ่งวันเช้า หรือครึ่งวันบ่าย จากนั้นกด ถัดไป4.กรอกข้อมูลรายละเอียดการจองให้ครบถ้วน เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ชื่อโรงแรมที่เราพัก (รถจะมารับ-ส่งที่โรงแรม) หากใครมีโค้ดส่วนลดโปรโมชั่น หรือเครดิตจาก Klook ก็สามารถระบุไปได้เลยก่อนการกดชำระเงินค่ะ เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วจากนั้นกด “ดำเนินการชำระเงิน” ก็เป็นอันเรียบร้อย รีวิวทริปเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืน พร้อมแล้วออกเดินทางกันDay 1 เช็คอินโรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ เที่ยวสวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่มโรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนถนนนิมมาน ทำเลใจกลางเมืองเชียงใหม่ ศูนย์รวมแหล่งร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและนักท่องเที่ยว อยู่ติดกับ One Nimman และห้าง Maya ซึ่งฝั่งตรงข้ามของโรงแรมก็คือ Think Park ที่มีโซนร้านอาหารอาหารและคาเฟ่จุดเช็คอินชิคๆ อยู่เพียบจุดเด่นของโรงแรมยู นิมมาน เชียงใหม่ นอกจากทำเลดีแล้ว ระบบเช็คอิน-เช็คเอาท์ ยังเป็นแบบแฟร์ๆ คือเช็คอินเวลาไหน ก็เช็คเอาต์เวลานั้นได้ เรียกว่าอยู่กันครบ 24 ชม.ไปเลย เหมาะมากสำหรับคนที่เดินทางกลับด้วยเครื่องบินและกลับไฟล์ดึก ก็ไม่ต้องรีบเช็คเอาต์นอนเล่นชิลๆ รอเวลาขึ้นเครื่องอยู่ในโรงแรมได้เลยเพราะอยู่ใกล้สนามบินแค่ 10 นาทีเท่านั้น ห้องพักที่เราจองมาวันนี้เป็นห้องแบบ Premium Deluxe Room อยู่ชั้น 3 ขนาดห้อง 36 ตรม. ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องกว้าง เตียงใหญ่ ทีวีติดผนัง มีโซฟากลมสำหรับนั่งพักผ่อน โต๊ะทำงาน ส่วนพื้นที่โซนห้องอาบน้ำ-ห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวแยกกันชัดเจน ไฮไลท์ของที่นี่คือ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 5 เพราะมองเห็นเห็นวิวเมืองและถนนนิมมานทั้ง 2 ด้าน บรรยากาศดีสุดๆ นี่ถ้าอากาศไม่หนาวคงได้ลงเล่นน้ำแน่ๆ แต่เนื่องจากตอนที่เราไปอุณภูมิประมาณสิบกว่าองศา เลยขอพักไว้ก่อนค่ะ หนาวไม่ไหว :Dมาต่อกันที่อาหารเช้าที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติ หากไม่ลงมาทาน ก็สามารถแจ้งพนักงานจัดขึ้นไปเสิร์ฟให้ที่ห้องเวลาไหนก็ได้ค่ะ ไลน์อาหารมีให้เลือกทานหลากหลาย เบเกอรี่จัดมาให้แบบจุกๆ สะใจกันไปเลย สามารถเลือกนั่งทานได้ทั้งแบบ Indoor และ Outdoorหลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย จุดหมายของเราในวันนี้คือไปเที่ยวสวนส้มค่ะ ช่วงปลายปีแบบนี้เค้าว่ากันว่าจะเป็นฤดูกาลที่ส้มเชียงใหม่อร่อยที่สุด เราเลยบุกไปพิสูจน์ที่ สวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่ม เลยว่าจริงมั้ย?สวนส้มเปาเปา ม่อนแจ่ม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที เรารีวิวแบบละเอียดเอาไว้ที่ รีวิว "สวนส้มเปาเปา" ไร่ส้มเชียงใหม่ เก็บส้มกินได้ ถ่ายรูปสวย หากใครสนใจสามารถกดลิ้งค์เข้าไปดูได้เลยค่ะDay 2 โปรแกรมทัวร์ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ชมบรรยากาศคลองแม่ข่ายามค่ำคืนอย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้นว่า เราได้จองแพ็กเกจทัวร์ปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี แบบครึ่งวันผ่าน Klook มาแล้วซึ่งสะดวกมากๆ เจ้าหน้าที่ของปางช้างมารับที่โรงแรมตรงเวลาประมาณ 6.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางไปปางช้างที่อำเภอแม่วางประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ซึ่งแพ็กเกจทัวร์แบบครึ่งวันจะเริ่มตั้งแต่ 06:30-13:30 น.โดยประมาณ (มีบริการรถรับ-ส่งถึงโรงแรมฟรี)ปางช้าง เอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี ที่นี่เค้าเป็นศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยช้างในปางจะเป็นช้างจากปางขี่ ปางโชว์ รวมถึงช้างแก่ที่ปลดระวางนำเข้ามาดูแล ซึ่งนอกจากศูนย์ที่เชียงใหม่แล้ว เค้ายังมีสาขาในพื้นที่อีก 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พัทยา และสมุยค่ะ เท่าที่เห็นไม่ค่อยมีคนไทยเข้ามาเที่ยวสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่ชื่นชอบสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของไทยเราเป็นพิเศษโดยเมื่อไปถึงจะมีเจ้าหน้าที่บรีฟข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของปางช้างเอเลเฟ่น จังเกิล แซงชัวรี จากนั้นก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทางร่างกายของช้าง และพฤติกรรมของช้างให้ฟังจากนั้นทางศูนย์ได้เตรียมชุดควาญช้างให้เราเปลี่ยน เพื่อไปทำกิจกรรมให้อาหารช้าง เล่นกับช้าง เรียนรู้กรรมวิธีทำวิตามินบำรุงร่างกายให้ช้าง ทำสปาในบ่อโคลน อาบน้ำให้ช้างในแม่น้ำ และจบด้วยการรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ก่อนกลับช่วงหนึ่งเจ้าหน้าที่พูดถึงการสังเกตสุขภาพของช้างให้สังเกตที่อึ และลองให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ทดลองหยิบอึช้างมาบี้ดู ถ้าอึเป็นก้อนและมีเส้นใยอาหารจากที่ช้างกินเข้าไป (ช้างกินผลไม้และหญ้าเป็นหลัก) ก็แสดงว่าลำไส้ยังปกติดี สุขภาพแข็งแรงอยู่ค่ะ และนี่เป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกของเราในการสัมผัสอึช้างอย่างใกล้ชิด มันก็ไม่น่าแหวะอย่างที่คิดนะคะ :Dส่วนตัวเราประทับใจกับกิจกรรมที่นี่มาก เพราะถือเป็นครั้งแรกเลยที่เราได้ใกล้ชิดกับช้างมากขนาดนี้ ได้ลองปั้นวิตามินบอลซึ่งมีส่วนผสมของหญ้าและพรีไบโอติกที่ดีต่อระบบลำไส้ช้าง แล้วเอาไปป้อนถึงปาก มันดีต่อใจจริงๆ ใครอยากเปิดประสบการณ์แบบเรา ก็จองกิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้ที่ Klook เลย!! หลังจากกลับมาจากปางช้าง ช่วงเย็นเราก็แวะไป คลองแม่ข่า จุดเช็คอินน้องใหม่ยอดฮิตของเชียงใหม่ อยู่แถวถนนช้างคลาน ซึ่งเดินทางสะดวกและไม่ไกลจากตัวเมือง คลองแม่ข่า เป็นคลองโบราณสายหนึ่งของเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีการปรับปรุงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอิน ถ่ายรูป เป็นถนนคนเดินที่มีของกินให้เลือกมากมาย พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/WHUyL5hpD3caFHht7ที่ตั้ง : คลองแม่ข่า ถนนระแกง ต. ช้างคลาน อ. เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Day 3 จิบกาแฟกลางป่าที่บ้านธารชีวี ไหว้พระวัดถ้ำเชียงดาว นอนพักที่ ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาวเราเช็คเอาต์ออกจากโรงแรมแต่เช้าเพื่อเดินทางต่อ โปรแกรมวันนี้จะพักค้างคืนที่เชียงดาว ระหว่างทางแวะจิบกาแฟที่คาเฟ่ “บ้านธารชีวี” 𝗧𝗔𝗥𝗡𝗖𝗛𝗘𝗩𝗘𝗘 ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แมะ ที่นี่เป็นทั้งโฮมสเตย์และคาเฟ่ บรรยากาศเงียบสงบ ได้ยินเสียงน้ำไหลจากลำธารตลอดเวลา เหมาะกับการมาพักผ่อนชิลๆ ช่วงที่เราไปอากาศค่อนข้างหนาวสิบกว่าองศา น้ำในลำธารเย็นเจี๊ยบ บ้านธารชีวี Tarnchevee :: แม่แมะ เชียงดาว เชียงใหม่พิกัด : บ้านแม่แมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่GPS : https://goo.gl/maps/4CHmmfKsydRxqS2a7โทร : 099 414 4265พิกัดต่อไปคือ วัดถ้ำเชียงดาว ซึ่งจะอยู่ที่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาวเลย ภายในวัดมี ถ้ำเชียงดาว ที่มีทั้งหินงอกหินย้อยสวยงามซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าถ้ำคนละ 40 บาท บริเวณหน้าถ้ำจะมีน้ำจากในถ้ำไหลออกมาตลอดเวลาจนเกิดเป็นสระน้ำใส บรรยากาศเงียบสงบ เย็นใจไปหมดเลย GPS ถ้ำหลวงเชียงดาว : https://goo.gl/maps/TaUJNJEZdqDZWrJg8 ขับรถมาต่อมาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่พักของเราคืนนี้ ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว โดยเราจองที่พักล่วงหน้าผ่าน Facebook ดอยเคียงดาวโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว ในราคาคนละ 750 บาท/คืน รวมอาหารมื้อเย็นและเช้า เลือกนอนแบบบ้านเป็นหลังค่ะ ซึ่งทีนี่เค้าก็มีทั้งแบบบ้านเป็นหลังและแบบเต๊นให้บริการด้วยถนนระหว่างการเดินทางขึ้นมาที่นี่ค่อนข้างแคบ เวลารถสวนมาต้องชะลอ ใช้ความระมัดระวังในการขับค่อนข้างมาก แต่ไม่ค่อยชันมากเท่าไหร่ค่ะอากาศข้างบนหนาวมาก ช่วงที่เราไปอุณภูมิราวๆ 12 องศา ที่พักไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้ ต้องเตรียมไปเอง เป็นโฮมสเตย์แบบบ้านๆ ที่ไม่มีไฟฟ้า แต่มีไฟจากโซลาร์เซล์ให้แสงสว่างอยู่นะคะ และไม่มีปลั๊กไฟ ชาร์ตแบตไม่ได้ดังนั้นเตรียมพาวเวอร์แบงค์ไปให้พร้อมค่ะ โฮมสเตย์บนดอยหลวงนี้เจ้าของเป็นเครือญาติกันหมด และถึงแม้เราไม่ได้พักที่นี่ แต่สามารถเดินไปถ่ายรูป อุดหนุนร้านกาแฟ ร้านชาของที่พักนั้นๆได้ ซึ่งก็มีหลายที่ ตั้งอยู่ติดๆกันเลยค่ะ Day 4 ถ่ายรูปกับถนนเส้นทาง ทช.ชม. 3024 สวนสนแม่แตง เดินทางกลับวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราอยู่เชียงใหม่ ขากลับลงมาจากเชียงดาว แวะถ่ายรูปบนถนนเส้นทาง ทช.ชม. 3024 หรือถนนเส้นทางชนบทเชียงใหม่ ถนนเส้นนี้มีต้นยางนายักษ์ที่สูงชะลูดเรียงกันไปตลอดทางเส้นถนนที่คดเคี้ยว ใครที่มาเชียงดาวห้ามพลาด แต่ต้องระวังรถหน่อยนะคะ เพราะเป็นทางสัญจรที่มีรถวิ่งอยู่ตลอดเวลา ขากลับระหว่างทางแวะเที่ยวถ่ายรูปเล่นที่ สวนสนแม่แตง เป็นสวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ มีต้นสนสูงใหญ่เรียงรายเป็นแถว คนนิยมมาถ่ายรูป เช็คอิน บรรยากาศที่ร่มรื่น มุมถ่ายรูปเยอะ อากาศเย็นสบาย โดยมีหุ่นน้องกวางน้อยตัวนี้รอต้อนรับเพื่อนๆอยู่ด้านหน้าเลยที่จอดรถ : มีบริเวณพื้นที่จอดรถพิกัด : สวนผลิตเมล็ดพันธุ์ไม้สนสองใบ ทางหลวงหมายเลข107 ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่GPS : https://goo.gl/maps/iJy3W8G4XdMNippK9หวังว่าโปรแกรมเที่ยวเชียงใหม่ 4 วัน 3 คืนจะเป็นประโยชน์ เป็นไอเดียให้เพื่อนๆวางแผนทริปไปเที่ยวเชียงใหม่หนาวนี้กันนะคะ แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่า ^^ เครดิตภาพทุกภาพโดย: ผู้เขียนนางแบบในภาพ :ผู้เขียน แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”