“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564 ช่วงบ่าย ๆ เมื่อหนุ่ม-สุทนจัดรายการเที่ยวทั่วไทยที่คลื่นข่าว fm100.5 MHz แล้วเสร็จเวลา 10.10-11.00 น. เลยเกิดความคิดจะไปเก็บข้อมูลที่ไหนดีเพื่อมาเขียนเล่าเรื่องให้ผู้อ่านได้อ่านในยามที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้านกันในช่วงนี้ ไปที่นี้เลยครับ "วัดท่าพระ" แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครวัดท่าพระ มีเรื่องราวให้ได้ศึกษาหลายเรื่องราวด้วยกันครับ ดังนั้นขอเริ่มต้นด้วยเรื่องที่ 1 ประวัติความเป็นมาของวัดท่าพระ เป็นวัดโบราณมีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเดิมเรียกชื่อ "วัดเกาะ" ตามเหตุผลเนื่องจากบริเวณนี้มีคลองล้อมรอบวัดซึ่งสายน้ำแยกไหลมาจากคลองบางกอกใหญ่และคลองมอญเมื่อครั้งกระนั้นจึงมีท่าเรือรับส่งผู้โดยสารต่อมามีองค์พระพุทธรูปลอยน้ำมาติดท่าน้ำชาวบ้านพบเห็นก็อัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่วัดเกาะแล้วเปลี่ยนชื่อวัดเกาะเป็นชื่อ "วัดท่าพระ" ตามเหตุผลคือองค์พระพุทธรูปลอยน้ำติดอยู่ท่าน้ำครับ นี่แหละที่มาของชื่อ "วัดท่าพระ" เรื่องที่ 2 พบองค์พระพุทธรูป แล้วสันนิษฐานว่าชาวบ้านในย่านวัดท่าพระคงจะเรียกชื่อกันเองคือชื่อ "หลวงพ่อทิพย์เกษร" แล้วเรียกไปเรียกมาคำว่าทิพย์หายไปเหลือเพียงคำว่า "หลวงพ่อเกษร" ถึงทุกวันนี้ องค์หลวงพ่อเกษร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ สูง 63 นิ้ว หน้าตักกว้าง 43 นิ้ว ไม่ทราบว่าลอยน้ำมาจากไหนแต่ทางวัดท่าพระสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นมาเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีหล่อด้วยทองผสมผสานสำริดศิลปะแบบสุโขทัยส่วนพระพักตร์ดูกลมมนจะเรียก "พระเจ้าพรหม" ครับเรื่องที่ 3 องค์หลวงพ่อเกษร ประดิษฐานในวิหารซึ่งเดิมคืออุโบสถ ทุกวันนี้กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานด้วยเหตุนี้ทางวัดท่าพระ ยังคงบูรณะด้านในประดิษฐานองค์หลวงพ่อเกษรได้อย่างสวยงามจริง ๆ พอได้นั่งกราบบูชารู้สึกสบายใจครับ สำหรับตัววิหารคงไว้เช่นเดิมและสร้างวิหารใหญ่ครอบวิหารเดิมไว้ดูสวยงามมาก องค์หลวงพ่อเกษร นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ศรัทธาได้มาแก้บนกันมากเช่น ไข่ต้ม ดอกไม้เป็นพวงมาลัยและการจุดประทัด เป็นต้น สำหรับวันสำคัญผู้คนมากมายเข้าร่วมงานบุญกุศลคือ วันแห่ผ้าไตรห่มองค์หลวงพ่อเกษร ทุกปีในวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 5 หรือช่วงเทศกาลตรุษจีนชาวจีนมาทำบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวิหารโดยเฉพาะ องค์หลวงพ่อเกษร วัดท่าพระ ตั้งอยู่แขวงวัดท่าพระ ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 4 เข้าซอยประมาณ 500 เมตร มีที่จอดรถสะดวกสบาย สำหรับการเดินทางสามารถใช้รถยนต์ส่วนตัวหรือรถเมล์ประจำทางคือสาย 42 57 68 81 91 และ 108 ส่วนในซอยเข้าวัดท่าพระมีร้านอาหารข้าวขาหมูสุโขทัยเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ขาหมูอร่อยนะจ๊ะ “เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับเรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #Tourism local life ชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวไทยยั่งยืนอัปเดตบทความท่องเที่ยวตามสถานที่อันหลากหลาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !